นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า การจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดขึ้นสู่อากาศ นอกจากจะไม่สามารถควบคุมทิศทาง ระดับความสูงและการลอยตัวของวัตถุดังกล่าวได้แล้ว ยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ อัคคีภัย หรืออันตรายต่อการบินและอากาศยาน รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ห่วงใยความปลอดภัยของประชาชน จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการประสานการปฏิบัติร่วมกับกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมป้องกันอุบัติภัยจากการปล่อยโคมลอย โคมควัน และการจุดบั้งไฟ โดยกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการจุดและปล่อยบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ ดังนี้ 1. ห้ามจุดและปล่อย หรือทำให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นขึ้นไปสู่อากาศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขต นายอำเภอ หรือตามหลักเกณฑ์การอนุญาตตามประกาศจังหวัดหรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร 2. ให้จังหวัดจัดทำประกาศจังหวัด โดยต้องได้รับความเห็นชอบร่วมกันจากคณะกรรมการจังหวัดและสภาวัฒนธรรมจังหวัด เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในการจุดและปล่อย หรือทำให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันลอยขึ้นสู่อากาศ 3.ประกาศจังหวัด และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดระยะเวลาในการจุดและปล่อย ชนิด ขนาด และจำนวน ของบั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน และวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ที่จะทำการจุดและปล่อย สถานที่จุดและปล่อย มาตรการในการป้องกันมิให้มีการเล่นพนัน และมาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัย 4. หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดหรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2559 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อัคคีภัย หรืออันตรายต่อการบินและอากาศยาน 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit