นายธีรภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดงานสัมมนาระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้ เพื่อเผยแพร่บทบาทของสหกรณ์กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโลก และประกาศเจตนารมณ์ขององค์การ CIA ในเรื่อง "พลังสหกรณ์ สร้างชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืน" ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของสหประชาชาติ ในการรวมตัวกันของขบวนการสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและสันติภาพโลก โดยในปีนี้ องค์การ CIA ได้แสดงเจตนารมณ์สนับสนุนสหประชาชาติเรื่อง"เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน" โดยเน้นย้ำถึงการขจัดความยากจนให้หมดไป การสร้างความเข้มแข็งและขยายความร่วมมือระหว่างขบวนการสหกรณ์ระหว่างประเทศ และภาคอื่น ๆ รวมทั้ง รัฐบาลในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติด้วย ทั้งนี้ การจัดสัมมนาดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมจำนวน 150 คน ได้แก่ ผู้นำสหกรณ์ไทย และผู้แทนองค์กรสมาชิกองค์การสัมพันธภาพสหกรณ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก 11 ประเทศ ประกอบด้วย ภูฏาน จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย เนปาล ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร ศรีลังกา และเวียดนาม จำนวน 50 คน
"ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการประชาสัมพันธ์แผนการทำงานด้านพัฒนาการสหกรณ์ไทย ซึ่งถือเป็นนโยบายที่สำคัญของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้แบ่งชั้นสหกรณ์ออกเป็น 4ชั้น คือ 1 2 3 และ 4 ตามลำดับ ซึ่งขณะนี้มีสหกรณ์กว่า 1,200 แห่งที่มีการพัฒนาและยกระดับสูงขึ้น พร้อมกันนี้ ได้ตั้งโรงเรียนผู้ตรวจการสหกรณ์ขึ้น และจัดอบรมให้แก่กรรมการสหกรณ์เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในการบริหาร นอกจากนี้ จะจัดตั้งสถาบันให้ความรู้และเผยแพร่ด้านการบัญชี การสหกรณ์ รวมถึงการรวมกลุ่มต่างๆ ให้กับสมาชิก ซึ่งจะอยู่ในแผนการพัฒนาสหกรณ์ไทย โดยคาดว่าในปี 60 จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับงานสหกรณ์ได้" นายธีรภัทร กล่าว