นายโกวิท สัจจวิเศษ เลขาธิการ
สำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคม มีภารกิจหลักในการจัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้างและผู้ประกันตน เพื่อนำมาจ่ายประโยชน์ทดแทน ผู้ประกันตน/ผู้มีสิทธิ เป็นประจำทุกเดือน และจากข้อมูลณวันที่ 5 มิถุนายน2559 มีนายจ้างที่ขึ้นทะเบียน
กองทุนประกันสังคมและมีหน้าที่จ่ายเงินสมทบจำนวน 431,395 แห่ง ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 1,225,267ราย ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จำนวน 2,199,354 ราย และนายจ้างที่ขึ้นทะเบียนกองทุนเงินทดแทนจำนวน 359,802 แห่ง นายจ้างและผู้ประกันตนที่มาขอรับบริการในด้านการชำระเงินสมทบและขอรับประโยชน์ทดแทน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หน่วยงานบริการของสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศต้องประสบปัญหาการให้บริการเพื่อรองรับนายจ้างและผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น จึงมีการพัฒนาระบบการรับจ่ายเงินด้วยการสร้างเครือข่ายพันธมิตรซึ่งเป็นหน่วยงานภายนอกในการให้บริการรับ – จ่ายเงิน เพื่อให้นายจ้างและผู้ประกันตนได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาติดต่อขอรับบริการที่สำนักงานประกันสังคม และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการรับ – จ่ายเงิน ให้มีความทันสมัย โดยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีระบบตรวจสอบเพื่อลดความเสี่ยงและป้องกัน การทุจริตหรือเกิดความผิดพลาดในการรับ – จ่ายเงิน เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบาย
รัฐบาลในการที่จะพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศไทยให้เข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบ
อิเล็กทรอนิกส์ (e – Payment) อย่างครบวงจร โดยเริ่มดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป เพื่อให้นายจ้างและผู้ประกันตนได้รับบริการในรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลายผ่านช่องทางการให้บริการที่เป็นตัวแทนของสำนักงานประกันสังคมได้ด้วยความมั่นใจ สะดวก รวดเร็ว โดยคำนึงถึงมาตรฐานและความปลอดภัยของข้อมูล
อีกทั้งสามารถตรวจสอบได้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนายจ้างและผู้ประกันตนในด้านต่างๆ ทั้งนี้ นายจ้าง ผู้ประกันตน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th หรือ โทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการ ตลอด 24 ชั่วโมง)