อำนวยการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร, ถกลเกียรติ วีรวรรณ ออกอากาศทางช่อง one 31 เร็วๆ นี้
ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ อัคนี(ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) นักโบราณคดีหนุ่ม ได้พบกับหญิงสาวลึกลับนามว่า สโรชินี(วรนุช ภิรมย์ภักดี) เธอแนะนำตัวว่า เธอเป็นนักนิยมโบราณคดีและนักทำนายอดีต อัคนีได้รู้จักกับเธอผ่าน "ทับทิมสีเลือด" ที่ เชษฐา(เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์) หมอนิติเวชเพื่อนซี้รุ่นน้องของอัคนีผ่าเจอในศพของโจรผู้ขโมยวัตถุโบราณ ทันทีที่อัคนีได้สัมผัสทับทิมเม็ดนี้ เขาก็รู้สึกผูกพันอย่างประหลาด อัคนียอมรับหน้าที่ค้นหาที่มาของทับทิมเพื่อช่วยเชษฐาตามหาตัวฆาตกรในคดี
อัคนีค้นหาข้อมูลของทับทิมก็ได้พบว่าทุกอย่างตรงกับที่สโรชินีบอกไว้ ทำให้เขาและสโรชินีต้องติดต่อพูดคุยกันจนทำให้ ทิพอาภา(เรวิญานันท์ ทาเกิด) หญิงสาวสวยผู้เป็นเจ้าของแกลลอรี่ย่านใจกลางเมือง เจ้าของหัวใจและคู่หมั้น ของอัคนีเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่!! ซึ่งทันทีที่สโรชินีเข้ามาในชีวิตของอัคนี เรื่องราวแปลกก็เกิดขึ้นรอบๆ ตัวของคนใกล้ชิดอัคนีเสมอ รวมถึง คุณหญิงอัมพวัน(ปานเลขา ว่านม่วง) ผู้เป็นแม่และพลโทอัครา(เกรียงไกร อุณหะนันทน์) พ่อของอัคนี อดีตเสนาธิการกองทัพบก ผู้ปลดเกษียณตัวเองด้วย ทั้งคุณหญิงอัมพวันและอัครารู้สึกได้ถึงความลึกลับและน่าเกรงขามของสโรชินี ต่างกับ พันตรีดนัย(อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) รองเลขาธิการพรรค "เทอดธรรม" เพราะทันทีที่เขาได้เจอกับสโรชินี เขาก็รู้สึกสนใจในตัวสโรชินีและพยายามจะเอาตัวสโรชินีมาเป็นของตัวเองให้ได้ โดยไม่สนใจว่า
คุณหญิงอรุณฉาย(ภัทรวรินทร์ ทิมกุล) ภริยาของเขาจะชอบใจหรือไม่ก็ตาม ดนัยเองนอกจากต้องจัดการเรื่องสโรชินีแล้ว เขายังต้องการกำจัดเสี้ยนหนามอย่าง พันโทณรงค์(ภูทฤทธิ์ พรหมบันดาล) เพื่อนสนิทร่วมรุ่นของอัครา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค "ไทธำรงค์" พรรคฝ่ายค้าน ผู้ซึ่งคอยขวางทางการคดโกงของดนัยมาโดยตลอด
ด้านอัคนีเองก็พยายามบอกกับทิพอาภาว่าระหว่างสโรชินีและเขาไม่ได้มีอะไรเกินเลยอย่างที่ทิพอาภากังวล แต่แท้จริงแล้วในความรู้สึกลึกๆ ของอัคนี รู้สึกผูกพันกับสโรชินีอย่างประหลาดและยิ่งใกล้ชิดเธอมากเท่าไหร่ ก็ทำให้เขาฝันถึงนางรำในสมัยอยุธยาที่ชื่อ "อุบล" มากขึ้นเรื่อยๆ
อุบล คือนางรำหลวงแห่งราชสำนักถูกพระราชทานให้เป็นเมียของ พระอรรค ทหารเอกมากฝีมือแห่ง กรุงอโยธยาในปีพุทธศักราช ๒๓๐๓ หลังจากศึกอลองพญาสิ้นสุดลง เธอและเขาต่างจงรักและภักดีต่อแผ่นดินยิ่งชีพ แต่เมื่อวาระสุดท้ายของกรุงอโยธยามาถึง พระอรรคจำต้องลงดาบฆ่าเมียอันเป็นที่รัก เพื่อมอบหมายหน้าที่ "ผู้เฝ้าทรัพย์แผ่นดิน" ให้กับเธอ! ซึ่ง สโรชินี คือร่างจำแลงของ อุบล เธอพยายามใช้ทับทิมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ศิราภรณ์ในชุดนางรำหลวงของอุบลเป็นสื่อทำให้อัคนีค่อยๆ ฟื้นความทรงจำในอดีตชาติของอัคนีว่าความจริงในอดีตนั้นเขาคือ พระอรรค ขุนศึกแห่งอยุธยา สามีผู้ทรยศความรักความภักดีของเธอนั่นเอง อุบลต้องแบกรับภาระหน้าที่อันทรงเกียรติด้วยความทุกข์ทรมาน รักแท้จึงแปรเปลี่ยนเป็นอาฆาต เขาผู้นั้นจักต้องเป็นผู้ปลดเปลื้องพิษสวาทนี้ให้แก่เธอ!!!
อุบลจึงขออนุญาตจากท่านยมเทพให้เธอได้ลงมาเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสารของมนุษย์ เพียงเพื่อต้องการจัดการกับอัคนี เธอต้องทำให้เขาจดจำอดีตและสำนึกในสิ่งที่เขาเคยทำต่อเธอให้ได้!! เพราะหากถ้าเธอมิอาจทำให้เขาจดจำ และสำนึกในสิ่งที่เขาทำกับเธอไว้ เธอก็จะต้องโดนจองจำให้เป็นผู้เฝ้าทรัพย์สมบัติแห่งแผ่นดินนานต่อไปจนชั่วกัปชั่วกัลป์!!
"ความแค้น" ที่อุบลมีต่อพระอรรคจะได้รับการให้ "ชดใช้" หรือไม่? ความรักที่ได้รับการทรยศเป็นสิ่งตอบแทนจะลงเอยอย่างไร? ตามหาคำตอบได้ใน "พิษสวาท" เร็วๆ นี้ ทางช่อง one 31
วรนุช ภิรมย์ภักดี รับบท อุบล/สโรชินี
อุบล นางรำหลวงในสมัยอยุธยา เป็นหญิงอ่อนหวาน และซื่อสัตย์ ยึดมั่นในเรื่องการทำความดี เธอพบพระอรรคครั้งแรกในงานฉลองชัยศึกอลองพญา เมื่อถูกมอบหมายให้เป็นเมียพระราชทานแก่พระอรรค อุบลก็ฝากชีวิตและความไว้วางใจทั้งหมดให้แก่สามี จนถึงคราวกรุงแตก อุบลถูกยัดเยียดความตายและหน้าที่เฝ้าทรัพย์แผ่นดิน ตามคำสาปที่พระอรรคสาปเธอไว้ ด้วยความไม่เข้าใจ ความรักจึงแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น อุบลปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทนทุกข์ทรมานมานับร้อยๆ ปี จึงกราบทูลขอความเป็นธรรมจากพระยม เพื่อหวังกลับมาทำให้อัคนีสำนึกรู้ถึงเรื่องราวในอดีตชาติที่ทำไว้กลับเธอ และกลับมารับหน้าที่เป็นตัวตายตัวแทน เฝ้าทรัพย์แผ่นดินแทนเธอ! เมื่อพระยมอนุญาต เธอจึงปรากฏตัวในยุคปัจจุบัน ด้วยกายทิพที่เป็นหญิงสาว ลึกลับ งามสง่าแฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขามนามว่า "สโรชินี"
""คาแรคเตอร์เรื่องนี้ค่อนข้างยากและซับซ้อน ภาษาพูดก็จะกำกวม ซ่อนความนัย ทุกคำพูดต้องมีความหมาย เราต้องมีภาพในหัวตลอดค่ะ และบทยาวมาก ยาวที่สุดตั้งแต่เล่นละครมาเลย ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้ แรกเลยพี่สันต์เคยชวนตั้งแต่จบเรื่องอีสาแล้ว แต่ตอนนั้นรู้สึกเหนื่อยและยังไม่คิดว่าจะรับละคร เลยปฏิเสธไป จนกระทั่งวันหนึ่งนุ่นฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นหญิงไทยใส่ชุดสีทอง เลยเป็นเหตุดลใจให้เราตัดสินใจรับเล่น และยิ่งได้อ่านบทประพันธ์ก็ชอบ เพราะเรื่องนี้ใจความหลักคือความรักชาติ ห่วงแหนในแผ่นดิน ดังนั้นนุ่นคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้เป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ส่วนอาถรรพ์ นุ่นก็ไม่กลัวค่ะ เพราะเราทำงานด้วยความเคารพ ไม่ลบหลู่และให้เกียรติทุกๆ ที่ที่เราไปถ่ายทำเสมอค่ะ"
ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท อัคนี/ขุนอรรค
พระอรรค ขุนศึกในสมัยอยุธยา รูปงามดุจรูปปั้น มีความห้าวหาญ ซื่อสัตย์ รักหน้าที่และแผ่นดินยิ่งกว่าชีวิต หลงรักอุบลตั้งแต่แรกพบ จึงทูลขอเธอมาเป็นเมียพระราชทาน แต่เมื่อถึงคราวกรุงแตก พระอรรคกลับพาอุบลไปที่กรุ และจัดการสาปสรรบั่นคออุบลให้กลายเป็นโสมเฝ้าสมบัติ พระอรรคกลับชาติมาเกิดในยุคปัจจุบัน เป็น อัคนี ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี ที่มักฝันซ้ำซากถึงเรื่องราวในสมัยโบราณ จึงพยายามค้นหาคำตอบให้กับตัวเองว่าภาพในฝันปริศนาที่ตามหลอกหลอนตนนั้นคืออะไร
"เรื่องนี้ค่อนข้างยากนะครับ เพราะคาแรคเตอร์ที่ได้รับทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างกันพอสมควร อย่างในพาร์ทอดีตก็จะเป็นนักรบดุดัน ส่วนยุคปัจจุบันจะเป็นคนปกติ เลยต้องเล่นให้ชัด และให้เห็นถึงความแตกต่างของตัวละคร ก่อนเปิดกล้องถ่ายทำก็รู้สึกกดดันว่าจะทำได้ดีไหม เหมือนเราได้รับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่มาก หลายท่านอาจจะทราบว่าเรื่องนี้เคยฟิตติ้ง เตรียมจะเปิดกล้องถ่ายทำไปเมื่อหลายปีก่อน แต่แล้วไม่ได้ทำ จนมาปีนี้ เรียกว่าสมควรแก่เวลา ผมคิดว่าอาจมีบางสิ่งบางอย่างอนุญาตให้เราได้ลงมือทำกันสักที สมการรอคอยครับ ผมชอบที่เราไม่ได้ถ่ายทอดความรู้สึกรักหญิงคนรักเราอย่างเดียว แต่ยังมีความรักที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศชาติ ได้มาสัมผัสถึงวิธีคิดของคนโบราณ ว่าบรรพบุรุษเรารักชาติและห่วงแหนแผ่นดินเพียงไร ถือเป็นมาสเตอร์พีซในอาชีพนักแสดงของผมเลยครับ"
เกรียงไกร อุณหะนันทน์ รับบท พลโทอัครา/พระโหราจารย์
โหรหลวงของพระเจ้าอยู่หัวในสมัยอยุธยา ลุงของพระอรรค มีความสามารถในการทำนายทายทักเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ล่วงรู้ถึงดวงเมืองอยุธยาที่กำลังจะแตก จึงวางแผนให้ขุดอุโมงค์ไว้สำหรับเก็บสมบัติของแผ่นดิน เพื่อรอให้ผู้มีบุญญาธิการนำไปใช้กอบกู้บ้านเมืองในการณ์ข้างหน้า พระโหราจารย์กลับชาติมาเกิดเป็น พลโทอัครา ที่รักชาติและยึดมั่นในความถูกต้อง มีภรรยา คือคุณหญิงอัมพวา และมีลูกชายคือ อัคนี
"การทำงานเรื่องนี้ดีมากนะครับ เราทำกันด้วยความพิถีพิถัน ตั้งแต่ผู้กำกับ ที่พยายามสร้างนักแสดงแต่ละคนให้ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้ตรงตามตัวละคร ทีมงานทุกคนเป็นกันเอง นักแสดงทุกคนก็สนิทสนมและสามัคคีกัน เราทำงาน ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างงานศิลปะ ทำให้สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ครับ"
อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รับบท ดนัย/พระยาพลเทพ
เสนาบดีกรมนาในสมัยอยุธยา เป็นคนคตโกง เห็นแก่ได้ กลับชาติมาเกิดในยุคปัจจุบัน เป็น พันตรีดนัย ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคการเมือง "เทอดธรรม" ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล แต่ก็ยังมิวายเห็นแก่ตัว เล่นการเมืองโดยใช้เส้นสายและอำนาจที่มีอยู่ในทางมิชอบ ลุ่มหลงมัวเมากับกิเลสตัณหา
"ตัวละครตัวนี้พูดง่ายๆ คือ คอรัปชั่น ไม่ว่าจะในพาร์ทอดีตหรือปัจจุบัน แม้ผมจะรับบทร้ายมาเยอะ แต่เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทายมากๆ นะครับ อยากให้คนดูได้เห็นตัวอย่างของการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และเวรกรรมไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า เรียกได้ว่านอกจากความบันเทิงแล้ว ก็ยังมีแง่คิดดีๆ ด้วยครับ"
เรวิญานันท์ ทาเกิด รับบท ทิพอาภา/ทิพ
หญิงสาวสมัยอยุธยา บุตรีของขุนวิจิตร ที่รักในการวาดภาพ แอบชอบพระอรรค แต่ด้วยความเป็นคนไม่คิดริษยา จึงยินดีเมื่อเห็นพระอรรคแต่งงานกับอุบล ทิพกลับชาติ มาเกิดในยุคปัจจุบันคือ ทิพอาภา เป็นคู่หมั้นของอัคนี ด้วยความที่รักอัคนีมาก ทำให้ทิพอาภายินดีที่จะรอคอยการแต่งงานโดยไม่เคยรบเร้า
"สำหรับการแสดงเรื่องนี้ต้องบอกว่ายากมากเลยค่ะ บทยากทั้งยุคพีเรียดและ ปัจจุบัน เลยต้องทำการบ้านหนักมาก เพราะอยากทำออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งเบญรู้สึก โชคดีมากๆ ที่เรื่องนี้ที่ได้เล่นกับนักแสดงมืออาชีพ ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆ และเป็นการพัฒนาความสามารถของเราด้วยค่ะ"
เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ รับบท เชษฐา
นายแพทย์สถาบันนิติเวช เพื่อนรุ่นน้องของอัคนี เป็นหมอหนุ่มนิสัยขี้เล่น อารมณ์ดี เชื่อในสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ ไม่เชื่อในไสยศาสตร์ ภูติ ผี วิญญาณ แอบรักทิพอาภา แต่ด้วยความที่รู้ว่าทิพอาภาชอบอัคนี เขาจึงยอมเสียสละ แต่ยังคอยดูแลทิพอาภาอยู่เสมอ "เรื่องนี้ยากตรงที่เชษฐาจะเป็นคนที่มีหลักการ และชอบหาเหตุผลมารองรับความคิดต่างๆ ของเขา ไม่ดราม่าแบบเรื่องก่อนๆ นอกเหนือจากจะเป็นการได้ลองเล่นบทบาทใหม่ๆ ทำให้ได้พัฒนาฝีมือแล้ว ยังได้รับรู้ถึงความรักชาติของคนสมัยก่อน เป็นกำไรของชีวิตเลยครับที่ได้เล่นละครเรื่องนี้"
ภัทรวรินทร์ ทิมกุล รับบท อรุณฉาย
ภรรยาของดนัย เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง คลั่งในเพชรนิลจินดาและอัญมณี มักโลภในสมบัติที่ไม่ใช่ของตน นิสัยขี้หึง ขี้อวด และมากด้วยความอิจฉาริษยา ลุ่มหลงในอำนาจและเงินตรา โดยไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
"เมย์ไม่ได้เล่นละครยาวมานานมากแล้วนะคะ มาอ่านบทนี้แล้วรู้สึกน่าสนุกดี คนประเภทนี้มีให้เห็นทั่วๆ ไปอยู่แล้วในสังคม มีตัวอย่างให้ดูเยอะ เราก็เก็บเล็กผสมน้อยแล้วนำมาปรับใช้ในการแสดง แล้ว ผู้กำกับเขาชัดเจนด้วยนะคะ ให้อิสระกับเมย์ในการสร้างคาแรคเตอร์ นอกจากนี้เรื่องราวยังสะท้อนสังคมไทยในปัจจุบันด้วยค่ะ เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าคนที่คิดไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง จะมีจุดจบอย่างไร"
ปานเลขา ว่านม่วง รับบท อัมพวัน
ภรรยาของนายพลอัครา มารดาอัคนี อดีตนายกสมาคมแม่บ้านทหารบก เป็นคนนิ่มนวล ใจเย็น ชอบเข้าวัด ทำบุญ มีพระและศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ ไม่ต้องการให้อัคราไปเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะรู้ว่ามีแต่ความสกปรกเกรงจะเป็นอันตราย แต่สุดท้ายก็ไม่มิอาจห้ามความจงรักภักดีของสามีที่มีต่อแผ่นดินได้
"ดีใจมากที่ได้เล่นเรื่องนี้ เพราะเคยร่วมงานกับช่องวันแล้วประทับใจ รู้สึกได้ว่าเราร่วมงานกับมืออาชีพ ปกติก็เป็นแฟนละครช่องวันด้วยค่ะ จึงรับเล่น โดยไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น และเรื่องนี้เป็นเรื่องของความรักชาติ รักแผ่นดิน เวลาที่อ่านบทหรือเข้าฉาก จะขนลุกและรู้สึกตื้นตันทุกครั้ง"
พีรมณฑ์ ชมธวัช รับเชิญกิตติมศักดิ์ ในบท พระเจ้าเอกทัศน์
สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์หรือที่เรารู้จักกันในนาม พระเจ้าเอกทัศน์ โอรสองค์โตของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าเอกทัศน์โปรดว่าราชการที่พระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ จึงมีพระนามหนึ่งว่า สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ แต่ประชาชนนิยมเรียกว่า "ขุนหลวง" ตามตำแหน่งเดิมก่อนขึ้นครองราชย์
กณิการ์ วีรวรรณ รับเชิญกิตติมศักดิ์ ในบท เจ้านายฝ่ายใน
สตรีสูงศักดิ์สมัยอยุธยา ผู้เป็นธิดาของพระสนมในพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เป็นเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ที่ดูแลสนมนางในทั้งหมด รักศิลปะ การละคร และเป็นเจ้าของคณะละครหลวงในสมัยนั้น ที่อุบลสังกัดอยู่
รอน บรรจงสร้าง รับบท ขุนวิจิตร
เป็นทหารนอกราชการในสมัยอยุธยา จิตใจกว้างขวาง มีเมตตา เดิมเป็น "เจ้ากรมทหารช่างสิบหมู่" มีความเชี่ยวชาญในการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ทำงานหนักจนไม่มีเวลาดูแลเมียที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอด จนกระทั่งเมียคลอดลูกตาย จึงคิดว่าเป็นความผิดของตนเอง ทำให้ขุนวิจิตรตัดสินใจลาออกจากราชการ กลับมาใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อดูแลลูกสาวคนเดียว นั่นคือทิพ
ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล รับบท ณรงค์
อดีตทหารยศพันโท ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมือง "ไทธำรง" ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ซื่อสัตย์ รักหน้าที่ และจริงจังกับการทำงาน ทั้ง ณรงค์, อัคราและดนัย ต่างเคยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่รักใคร่กันมาก มีคำสัตย์สาบานร่วมกันว่าจะทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ แต่พอดนัยมีอำนาจก็เริ่มหลงลืมและเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี แม้ณรงค์พยายามตักเตือน แต่ดนัยก็ไม่เคยเชื่อฟัง จนในที่สุดก็ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง
ปรเมศร์ น้อยอ่ำ รับบท สุนทร
หัวหน้าพรรคการเมือง "เทอดธรรม" เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นคนน่าเชื่อถือ พูดจานิ่มนวลแบบนักการเมือง รู้จักใช้คนเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง รักพวกพ้อง ยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้พวกของตนได้ดีกว่าฝ่ายตรงข้าม
อนุสรา จันทรังษี รับบท รัมภา
แม่ของทิพอาภา เป็นคนตรงไปตรงมา เข้าตำราปากร้ายแต่ใจดี รัมภาเลี้ยงทิพอาภามาเพียงคนเดียว จึงรักและเป็นห่วงทิพอาภามาก เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อความสุขของลูก
เรืองฤทธิ์ วิสมล รับบท วิชิต
มือขวาของดนัย คอยช่วยทำงานทุกอย่างให้ทั้งกับดนัยและอรุณฉาย นิสัยประจบสอพลอ ทำทุกอย่างเพื่อความดีความชอบของตัวเอง ซ้ำร้ายยังโลภ อยากรวย ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
ณัฐกฤต เกษตรภิบาล รับบท ผู้กองกฤษณ์
นายตำรวจหนุ่มน้ำดี ผู้เป็นเพื่อนสนิทของเชษฐา มีระเบียบวินัย ซื่อสัตย์และยังเป็นคู่บัดดี้กับเชษฐามาตั้งแต่สมัยเรียนสามพราน รู้เรื่องของเชษฐาทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องของทิพอาภา ด้วยความที่ทำงานเป็นตำรวจสายอาชญากรรม เขาจึงเจอเหตุการณ์เกี่ยวกับการฆาตกรรมมาเยอะ หลายครั้งที่เรื่องราวเหล่านั้นพิสูจน์ไม่ได้ เขาจึงเชื่อและไม่เคยลบหลู่ในสิ่งที่มองไม่เห็น
วรินทร รัตนสรรค์ รับบท จัน
นายทหารคู่ใจของพระอรรคในสมัยอยุธยา ห้าวหาญ เข้มแข็ง ซื่อสัตย์ เติบโตมาในเรือนของครอบครัวพระอรรค จึงมีความจงรักภักดี หลังจากเสียชีวิต วิญญาณจันก็ยังคอยดูแลอุบล และกลายเป็นทาสคนสนิทของอุบล เพื่อรอคอยการกลับมาของพระอรรค
เดชบดินทร์ ฉายทองดี รับบท ใหญ่
เด็กรับใช้ส่วนตัวของอัคนี เป็นคนซื่อสัตย์ รักเจ้านาย แต่แอบมีความทะลึ่งทะเล้น ขี้เล่น กวน ที่สำคัญกลัวผีอย่างมาก
สันต์ ศรีแก้วหล่อ กำกับการแสดง
ฝากผลงานคุณภาพมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ ชิงชัง, ดอกโศก, คู่กรรม, อีสา, บัลลังก์เมฆ ล่าสุดผู้กำกับ มากฝีมือ สันต์ ศรีแก้วหล่อ เตรียมส่งละครดราม่าเข้มข้น "พิษสวาท" จากบทประพันธ์สุดรักของ "ทมยันตี" ลงจอ ช่องวัน 31 ให้ได้ชมกัน งานนี้เรียกได้ว่าเจ้าตัวทุ่มเทและเต็มที่กับทุกรายละเอียด เพื่อให้สมกับการรอคอยของแฟนๆ เป็นที่สุด
"เรื่องนี้ช่องวันวางแผนที่จะทำมานานมากแล้ว ได้ลองฟิตติ้ง ทำเป็นทีเซอร์มาครั้งหนึ่งและมีปัญหาทำให้โปรเจกต์ยุบไป แต่เราก็ได้ซื้อลิขสิทธิ์ต่อไว้ เพราะใจความของเรื่องมีประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งรักชาติ รักแผ่นดิน ซึ่งน่าจะเข้ายุคเข้าสมัยกับปัจจุบัน จนมาถึงปีนี้เราตั้งใจจะนำกลับมาทำให้ได้ แต่ก็ติดปัญหาอย่างแรกเลย คือใครจะมารับบทเป็น "อุบล" ? พอติดต่อนุ่นไปและรับเล่น โปรเจกต์นี้จึงได้เริ่มทำ เพราะนุ่นมีคุณสมบัติตรงตามบทประพันธ์ คือเขามีความสวยงาม และการเล่นเป็นอุบล ต้องมีความซับซ้อนทางการแสดงมาก ต้องใช้นักแสดงที่มากฝีมือ อีกอย่างคืออุบลเป็นนางรำหลวงด้วย ซึ่งนุ่นถนัดอยู่แล้ว ส่วนพระอรรคคือป้อง เราวางตัวแต่แรกแล้ว เพราะเขามีรูปลักษณ์ตรงตามลักษณะชายไทยโบราณ คือคมเข้ม สูงใหญ่กำยำ และด้วยบทบาทที่ต้องเล่นเป็นคนสมัยอยุธยา เรื่องนี้ถือท้าทายป้องด้วยที่จะดึงความสามารถทางการแสดงของเขาออกมาได้มากแค่ไหน ส่วนเบญก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจ เพราะทิพอาภาคือต้องงามทั้งภายนอก และภายใน จากที่เคยร่วมงานกัน ผมว่าเบญจะสามารถเล่นเป็นกุลสตรีที่ไม่จืดเกินไป ดูแล้วไม่น่าเบื่อ ส่วนเจษก็ถือว่าเป็นนักแสดงที่มีความสามารถคนหนึ่ง ผมว่าทั้งสี่คนนี้จะสามารถดำเนินเรื่องราวไปได้อย่างสนุก น่าติดตามครับ ตอนนี้เราก็ถ่ายทำสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี จากที่ผู้คนพากันลือเรื่องอาถรรพ์ ตัวผมไม่เคยพบเจอกับตัวเองนะครับ แต่ทุกครั้งที่ถ่ายทำ เราก็มีการไหว้สักการะบูชา และทำบุญตามที่พึงกระทำ เพื่อเป็นศิริมงคล ผมมองว่าเราเจตนาดี ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร การกำกับละครเรื่องนี้ก็ครบทุกรสชาติ และสนุกดีครับ เป็นโชคดีที่เราได้ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ มาช่วย ทั้งด้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในอดีต ฉาก สถานที่ในการถ่ายทำ นอกจากความสนุกและอรรถรสที่ได้รับจากละคร คนดูยังจะได้แง่คิดสอนใจ ความรักชาติ หวงแหนแผ่นดิน ผมว่าเราจะอิ่มเอมใจกับ "พิษสวาท" ครั้งนี้แน่นอนครับ" รายชื่อนักแสดง วรนุช ภิรมย์ภักดี รับบท อุบล/สโรชินีณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท พระอรรค/อัคนีเรวิญานันท์ ทาเกิด รับบท ทิพ/ทิพอาภาเจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ รับบท เชษฐาเกรียงไกร อุณหะนันทน์ รับบท พระโหราจารย์/พลโทอัคราอธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รับบท พระยาพลเทพ/ดนัยภัทรวรินทร์ ทิมกุล รับบท อรุณฉายปานเลขา ว่านม่วง รับบท อัมพวันรอน บรรจงสร้าง รับบท ขุนวิจิตรภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล รับบท ณรงค์ปรเมศร์ น้อยอ่ำ รับบท สุนทรอนุสรา จันทรังษี รับบท รัมภาเรืองฤทธิ์ วิสมล รับบท วิชิต ณัฐกฤต เกษตรภิบาล รับบท ผู้กองกฤษณ์วรินทร รัตนสรรค์ รับบท จันเดชบดินทร์ ฉายทองดี รับบท ใหญ่รับเชิญกิตติมศักดิ์พีรมณฑ์ ชมธวัช รับบท พระเจ้าเอกทัศน์กณิการ์ วีรวรรณ รับบท เจ้านายฝ่ายใน
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit