"มันจะมีฉากแอคชั่นอยู่ฉากหนึ่งที่ผมกับพี่โขมเคยคุยกันไว้ ว่าเราควรต้องมีสักฉากหนึ่งไหมที่เป็นฉากจำ หรืออย่างน้อยที่สุดแตกต่างจากหนังแอคชั่นทั่วไป เป็นเทคเดียวอยู่ เป็นการถ่ายทำแบบLong Take เป็นการถ่ายแบบรวดเดียวโชว์แอคชั่นแบบล้วนๆเลย มันจะเป็นการเคลื่อนตัวละครไปด้านข้างของเฟรมกล้อง แล้วก็สู้กับศัตรูเป็นสิบๆคนในฉากเดียว ก็เลยเกิดการดีไซน์ฉากนี้ขึ้นมา ไปซ้อมกับทีมสตั้นท์เพียงแต่ในห้องซ้อมกับหน้าเซตมันจะต่างกัน เพราะว่าตอนเราซ้อม ชุดที่เราใส่อยู่มันไม่ใช่ชุดที่เราใส่ในหนังจริงๆ กางเกงวอร์ม เสื้อกล้าม อุปสรรคของฉากก็ไม่มี แต่พอถึงหน้าเซตนี่แทบจะต้องเริ่มต้นใหม่ เป็นฉากที่อยู่ในโบกี้รถไฟเราต้องสู้จากท้ายโบกี้มาหัวโบกี้ ระหว่างนั้นก็จะมีทีมสตั้นท์เข้ามาทีมละ 3-4 คน รวมทั้งหมด25คน ซีนนี้จะเห็นในภาพยนตร์ประมาณ 4 นาที เป็น 4 นาทีที่ต้องจำคิวเป๊ะๆ เราต้องปรับตัวเข้าฉาก หลายอย่างที่เราซ้อมไว้ก็ต้องแก้ไข เป็นฉากที่นับว่ามันยากมากแล้วมันก็ถอยไม่ได้ เพราะว่าเราก็สัญญากับพี่โขมไว้แล้วว่า เฮ้ย มาซะขนาดนี้แล้ว ต้องทำให้ได้ กี่เทคเราก็ต้องทำให้ได้ แต่บางทีเราลืมไปว่า 4 นาทีนั้นพอเราใช้พลังเต็มที่ พอมาถึงศัตรูแบบ 2-3 คนสุดท้ายนี่คือหมดแม็ก มันคือแบบเฮือกสุดท้ายจริงๆ อีกนิดเดียวจะเป็นลมอยู่แล้ว พอเล่นเสร็จก็จะมีทีมเข้ามาพร้อมกับถังออกซิเจน มาให้เราหายใจ รู้สึกว่าถ่ายไป 9 เทคนะถ้าจำไม่ผิด พูดได้ว่าเป็นวันที่ถ่ายทำที่เหนื่อยที่สุดในหนังเรื่องนี้ ผิดพลาดทีก็ต้องเริ่มต้นใหม่แต่พอทำได้ก็เป็นฉากที่น่าจดจำสำหรับผม เป็นฉากที่ภาคภูมิใจมาก เป็นการยกทีมสตั้นท์ฝีมือดีลูกศิษย์พี่พันนามาทั้งหมดเลยในซีนนี้"
เป็นการยืนยันและการันตีว่า สปิริท ความรัก และการทุ่มเทในการถ่ายทอดจิตวิญญาณเป็น "ขุนพันธ์" วีรบุรุษมือปราบที่ผดุงความยุติธรรม และเป็นที่ยำเกรงของเสือร้ายโจรซุ่มเลื่องชื่อที่ถูกบันทึกในแฟ้มอาชญากรรมของไทย จากนักแสดงซุปเปอร์สตาร์อย่าง อนันดา เอเวอริงแฮม รวมไปถึงนักแสดงแอคชั่นตลอดจนทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดที่มาร่วมกันถ่ายทอดจินตนาการสุดฝีมือ ในภาพยนตร์เรื่อง "ขุนพันธ์" 14 ก.ค. นี้ทุกโรงภาพยนตร์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit