มร.ฟรานซ์ ลินเดอร์ ประธานบริหาร "มิโด" เผยว่า "เริ่มต้นก่อนอื่น ผมอยากจะบอกที่มาของชื่อแบรนด์ ซึ่ง "มิโด" มาจากคำภาษาสเปนว่า "Yo mido" มีความหมายว่า "ฉันวัด" or "I measure" โดยปรัชญาของเราคือการผสมผสานระหว่างความงาม ความเป็นต้นตำรับและความมีอรรถประโยชน์ การออกแบบที่อ่อนช้อย และไม่ฟุ้งเฟ้อของนาฬิกา "มิโด" ทำให้ผลิตภัณฑ์รุ่นต่างๆ อยู่เหนือกาลเวลา แฟชั่นหรือเทรนด์ที่มีวันเปลี่ยนแปลง นาฬิกา "มิโด" เป็นนาฬิกาที่ทนทานเฉกเช่นสิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นหรือมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ต่างๆ นวัตกรรมล้ำสมัย เครื่องนาฬิกาแบบจักรกลชั้นเลิศและวัสดุที่เปี่ยมด้วยคุณภาพคือสามหัวใจสำคัญของแบรนด์ "มิโด" และเป็นรากฐานที่ทำให้ "มิโด" เป็นบรรทัดฐานของนาฬิกาจักรกลสัญชาติสวิสมานานเกือบหนึ่งศตวรรษแล้ว"
ไฮไลท์ของงานวันนี้ ประธานบริหาร "มิโด" ได้แนะนำเรือนเวลาทั้ง 5 คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ที่สะท้อนจุดบรรจบแห่งอดีตและปัจจุบัน ผ่านดีไซน์นาฬิกา "มิโด" ที่ส่งตรงจากงาน "บาเซิลเวิลด์ 2016" เริ่มต้นที่นาฬิกาเรือนบางพิเศษที่ดูดีเหนือกาลเวลาที่ "มิโด" ฉลองครบรอบ 40 ปีของคอลเลคชั่น "บารอนเชลลี่" ในปี ค.ศ.2016 นี้ ดังนั้น เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ทางแบรนด์มีต่อการประดิษฐ์นาฬิกาในรูปแบบดั้งเดิม "มิโด" จึงได้ออกแบบนาฬิการุ่น "บารอนเชลลี่ เฮอริเทจ" (Baroncelli Heritage) ให้เป็นเรือนเวลาที่บางที่สุดของแบรนด์ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขัดเงาทรงกลมนี้วัดความหนาได้เพียง 6.95 มม. ทำให้คอลเลคชั่นนี้เป็นนาฬิกาที่บางที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดเวลานี้ ดูดีเหนือกาลเวลากับหน้าปัดสีดำลายเกรนที่เข้ากับเส้นสายอันแสนบริสุทธิ์โดยรอบได้อย่างลงตัว ทำงานด้วยเครื่องนาฬิกาแบบขึ้นลานอัตโนมัติที่มีการขัดแต่งอย่างสวยงาม ทั้งหมดประกอบกันเป็นเรือนเวลาอันแสนสง่างาม ซึ่งเป็นตัวแทนงานประดิษฐ์นาฬิกาสวิสสไตล์คลาสสิกได้เป็นอย่างดี
ต่อไปเป็นนาฬิกา "บารอนเชลลี่ คาลิเบอร์ 80 โครโนมิเตอร์ เอสไอ" (Baroncelli Caliber 80 Chronometer Si) คือ องค์รวมระหว่างขนบธรรมเนียมแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำงานด้วยเครื่องนาฬิการุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์โดย COSC นาฬิการุ่นนี้ฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปีของคอลเลคชั่นด้วยความเที่ยงตรงในระดับสูงสุด มีการใช้ซิลิคอนบาลานซ์สปริงในตัวเครื่องรุ่นเรือธงเพื่อความเป็นเลิศ ซิลิคอนบาลานซ์สปริงเป็นนวัตกรรมสำคัญของวงการนาฬิกา สามารถทนทานต่อสนามแม่เหล็กและการสั่นสะเทือนได้ดีกว่า จึงทำให้ความเที่ยงตรงระยะยาวสูงกว่าบาลานซ์สปริงแบบปกติ ด้วยเครื่องรุ่นคาลิเบอร์ 80 นี้ นาฬิการุ่นนี้จึงมีกำลังลานสำรองนานถึง 80 ชั่วโมง นอกเหนือจากความเหนือชั้นทางด้านเทคนิคแล้ว นาฬิการุ่นนี้ยังมีเส้นสายที่กลมกลืนและบริสุทธิ์อันเป็นคุณสมบัติประจำตัวคอลเลคชั่น "บารอนเชลลี่" มานานถึง 40 ปี
ขณะที่ "มัลติฟอร์ท โครโนกราฟ แอดเวนเจอร์" (Multifort Chronograph Adventure) ก็เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาที่ออกแบบมา เพื่อนักผจญภัยที่ชื่นชอบการเดินทางในเส้นทางแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ด้วยคาแรคเตอร์ที่เปี่ยมล้นจากการใช้ตัวเรือน สเตนเลสสตีลเคลือบพีวีดีสีแอนธราไซท์ สายหนังลูกวัวแท้สีน้ำตาลแบบเจาะรู เป็นคู่สีสุดสปอร์ตและชิคที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนักในวงการนาฬิกา ทำงานด้วยเครื่องคาลิเบอร์ 60 ซึ่งเป็นเครื่องนาฬิกาโครโนกราฟแบบขึ้นลานอัตโนมัติยุคล่าสุดที่มีกำลังลานสำรองยาวนาน 60 ชั่วโมง
สำหรับเรือนเวลาสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อเป็นเกียรติแก่อนุสรณ์ชื่อดังแห่งกรุงลอนดอน ผลงานชิ้นล่าสุดของ "มิโด" เป็นการให้เกียรติแก่อนุสรณ์ที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นาฬิกา "บิ๊กเบน ลิมิเต็ด เอดิชั่น" (Big Ben Limited Edition) รุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงสูงเพรียวของหอนาฬิกาสี่หน้าปัดของกรุงลอนดอน ตัวเรือน สายโลหะ หน้าปัดและเครื่องของนาฬิการุ่นนี้ล้วนแล้วแต่มีรายละเอียดที่สื่อถึงสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโกธิคของหอนาฬิกาแห่งนี้ สำหรับนาฬิกา "บิ๊กเบน ลิมิเต็ด เอดิชั่น" ผลิตเป็นจำนวนจำกัด 500 เรือน มีที่มาจากการแข่งขันออกแบบนาฬิกา Mido Watch Design Contest ซึ่งมี ดีไซเนอร์ มร.เซบาสเตียน แปเรต์ จากเนอชาแตลเป็นผู้ชนะ ผลงานการออกแบบของเขานำเอารูปทรงวงกลมไปไว้ข้างในรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสจนกลายเป็นดีไซน์แกร่งกล้าท้ากาลเวลา ซึ่งสอดคล้องกับจิตวิญญาณของแบรนด์ "มิโด" อย่างแท้จริง
ปิดท้ายที่ นาฬิกา "มิโด" คอลเลคชั่น "โอเชียล สตาร์ กัปตัน ไทเทเนียม" (Ocean Star Captain Titanium) ใหม่นี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อพิชิตทะเลลึกโดยเฉพาะ โดยมีขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียวและบานพับสายแบบยืดได้ เพื่อการดำน้ำเป็นคุณสมบัติสำคัญอย่างที่นักดำน้ำต้องการ มาพร้อมกับข้อดีมากมาย ทั้งเรื่องน้ำหนักที่เบาเพียง 123 กรัม ความทนทานของโครงสร้าง ตลอดจนความเที่ยงตรงและความน่าไว้วางใจของเครื่องนาฬิกา วัสดุที่ใช้ในการผลิตตัวเรือนและสายขัดซาตินและขัดเงาคือไทเทเนียม ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าแต่ทนทานกว่าสเตนเลสสตีลด้วย...เชิญสัมผัสเรือนเวลาที่ของคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด จากงาน "บาเซิลเวิลด์ 2016" ของ "มิโด" ได้แล้ววันนี้ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือตัวแทนจำหน่าย "มิโด" สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-610-0200
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit