อเบอร์ดีนแนะ...จับตามองหุ้นอเมริกันสมอลแค็พภายหลังความผันผวนของเบร็กซิท

25 Jul 2016
ขณะที่ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงวิตกกังวลภายหลังจากเหตุการณ์เบร็กซิท ทางด้านสหรัฐอเมริกาก็ส่งสัญญาณแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ดีซึ่งช่วยให้หุ้นอเมริกันสมอลแค็พมีความน่าสนใจ สอดคล้องกับแนวความคิดของทางบลจ. อเบอร์ดีน

ในเดือนมิถุนายนตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐอเมริกาขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่น แต่ตลาดนักลงทุนในสหรัฐฯเองก็ยังมีความเข้มแข็งพอในการตอบสนองต่อข่าวของเบร็กซิทได้อย่างดี ด้วยอัตราการจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำกว่า 5% และที่สำคัญอัตราค่าจ้างอยู่ในระดับที่แข็งแรงขึ้น

ความยืดหยุ่นนี้ถูกสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานของหุ้นอเมริกันสมอลแค็พและการประเมินมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจมากขึ้น เพราะกว่า 80% ของรายได้ของหุ้นอเมริกันสมอลแค็พมาจากการดำเนินกิจการภายในประเทศ อ้างอิงจากผู้จัดการกองทุนของอเบอร์ดีน คุณทิโมธี สกินเจเลจสกี ที่บริหารกองทุนอเมริกันสมอลแค็พสำหรับกลุ่มอเบอร์ดีนที่ประจำอยู่ในฟิลาเดเฟีย

หุ้นอเมริกันสมอลแค็พได้รับผลกระทบจากค่าเงินสหรัฐน้อยกว่าหุ้นขนาดใหญ่ในช่วงที่ค่าเงินดอลลาร์มีการแกว่งตัวตอนที่เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว (ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อการส่งออกสหรัฐ)

ปกติกลุ่มหุ้นขนาดเล็กในอเมริกาจะทำการซื้อขายกันบนราคาพรีเมี่ยมของหุ้นขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้มูลค่าของกลุ่มหุ้นขนาดเล็กดังกล่าวมีมูลค่าที่ถูกลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546

การปรับตัวขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่มาจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น จนสามารถซื้อหุ้นของบริษัทกลับคืนมาเพื่อควบคุมราคา และรวมถึงการดำเนินงานควบรวมกิจการ แต่ว่ายอดขายที่ช้าลงอาจส่งผลกระทบต่อความยั่งยืนของการเติบโตของกำไรซึ่งเป็นปัจจัยหนุนมูลค่าหุ้นในปัจจุบัน ในทางกลับกันหุ้นขนาดเล็กยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่อง

บลจ.อเบอร์ดีนได้เปิดตัวกองทุนหุ้นอเมริกันสมอลแค็พเมื่อตุลาคมที่ผ่านมาภายใต้ชื่อ กองทุนเปิดอเบอร์ดีน อเมริกัน โกรท – สมอลเลอร์ คอมพานี ฟันด์ (ABAGS) โดยที่กองทุนมีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอย่างโดดเด่น อย่างเช่น 3 เดือนที่ผ่านมา กองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้มากกว่า 10% (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2559)

ด้านกองทุนหลักของกองทุนดังกล่าว คือ กองทุนเปิดอเบอร์ดีน โกลบอล – นอร์ธ อเมริกัน สมอลเลอร์ คอมพานี ฟันด์ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างสม่ำเสมอและติดอันดับท็อป 25% ของกองทุนประเภทเดียวกันในช่วงระยะเวลา 5 ปีครึ่งที่ผ่านมา*

*ที่มา: บลจ.อเบอร์ดีน