ติดปีกความรู้สู่นอกห้องเรียนที่ “พิพิธภัณฑ์เด็ก”

26 Jul 2016
ติดปีกความรู้สู่นอกห้องเรียนที่ "พิพิธภัณฑ์เด็ก" ชวนน้องอนุบาล-ประถม สนุกกับการเรียนรู้แนวทาง STEM พร้อมเสริมทักษะทางสังคมเมื่อเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า จึงไม่อาจละเลยการติดอาวุธทางปัญญาให้กับเยาวชนไทยตั้งแต่ตอนนี้ แต่ถ้าจะมุ่งอัดความรู้ทางวิชาการในห้องสี่เหลี่ยมเพียงอย่างเดียว อาจทำให้เด็กขาดความสุขในการเรียนรู้และยังไม่เพียงพอที่จะปั้นเด็กไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ ภาครัฐจึงได้ส่งโครงการจัดทำกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียน : ติดปีกความรู้ สู่นอกห้องเรียน โดยเน้นจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตามแนวทาง STEM เสิร์ฟให้นักเรียนทั่วประเทศ โดยมีแหล่งเรียนรู้มากมายขันอาสาเปิดพื้นที่ให้น้องๆ เข้ามาสนุกกับการเปิดสมองประลองปัญญาในช่วงเปิดเทอม และหนึ่งในพันธมิตรที่พร้อมขับเคลื่อนโครงการนี้อย่าง พิพิธภัณฑ์เด็ก กรุงเทพมหานคร ก็ขอส่งทัพกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อต้อนรับน้องๆทั้ง 4 โรงเรียน หมุนเวียนเรียนรู้อย่างเพลิดเพลินตลอดวัน โดยมุ่งหวังให้พวกเขาพกพาความชาญฉลาดควบคู่ทักษะอยู่ร่วมกันกลับสู่รั้วโรงเรียนด้วยรอยยิ้ม
ติดปีกความรู้สู่นอกห้องเรียนที่ “พิพิธภัณฑ์เด็ก”

สืบเนื่องจากนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ส่งผลให้คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งการเรียนรู้ มุ่งหวังจะผลักดันกิจกรรมต่างๆเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชนในช่วงเวลาเปิดเทอมให้มากที่สุด โดยใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์ที่มีอยู่ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่างๆที่เหมาะสมกับเยาวชน นั่นเป็นเหตุผลให้เกิดโครงการ "จัดทำกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียน : ติดปีกความรู้ สู่นอกห้องเรียน" ตามหลักการ STEM Education โดยมุ่งการบูรณาการความรู้สาขาวิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) เข้าไปในรูปแบบการเรียนรู้ที่หน่วยงานต่างๆจะสร้างสรรค์ขึ้น โดยวางเป้าหมายให้ผู้เรียนสามารถนำไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21ทั้งนี้ กิจกรรมทัศนะศึกษาพิพิธภัณฑ์เด็ก โดยกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหนึ่งใน 11 หน่วยงานของคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งการเรียนรู้ นำเสนอกิจกรรมที่เน้นกระบวนการเรียนรู้ (Methods of Learning) ที่หลากหลายให้เกิดแรงจูงใจ (Motivation) ที่สอดคล้องกับพัฒนาการและศักยภาพตามธรรมชาติของเด็ก โดยคัดสรรสาระความรู้ที่เหมาะสมมาเอาใจเยาวชนไทยเต็มเหนี่ยว เช่น เปิดโอกาสให้น้องๆวัยอนุบาลร่วมสนุกกับการต่อเลโก้ และฟังนิทานเสริมสร้างจินตนาการก่อนเปิดเวทีให้หนูน้อยละเลงสีสันบนตัวการ์ตูนได้อย่างอิสระที่โซนห้องศิลปะ ส่วนเด็กวัยประถมซึ่งเป็นวัยที่สามารถเรียนรู้ตามแนวทาง STEM ได้อย่างเต็มที่ ก็พร้อมเพลิดเพลินกับการบรรยายของพี่ๆจากพิพิธภัณฑ์เด็ก ที่ชวนให้เกิดการตั้งคำถาม ค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง และวิเคราะห์การค้นพบใหม่ๆ เพื่อไปบูรณาการต่อยอดการเรียนรู้ในห้องเรียนได้ ทั้งความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เข้าใจได้ง่ายและน่าสนใจอย่าง สิ่งประดิษฐ์ การเดินทางของลม ที่ลานสร้างสรรค์และโซนวิทยาศาสตร์สร้างสรรค์ และขึ้นชั้นบนเพื่อเรียนรู้การสร้างเมืองอย่างง่ายที่สอดแทรกความรู้ด้านพลังงานเข้าไปด้วย หรือแม้กระทั่งสนุกสนานกับโลกอดีตด้วยการเป็นนักสืบไดโนเสาร์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมภายนอกอาคาร อาทิ สวนน้ำ สนามเด็กเล่น และJungle Adventure ผจญภัยในป่าให้เด็กๆได้ใช้ศักยภาพร่างกายพร้อมพัฒนาความคิดไปด้วย โดยกิจกรรมครั้งนี้มีสถานศึกษาที่แสดงความสนใจเข้าร่วมจำนวน 4 โรงเรียน ได้แก่โรงเรียนมีนประสาท โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ โรงเรียนหลวงแพ่ง (บำรุงรัฐกิจ) และโรงเรียนนานาชาติแอสคอต

HTML::image( HTML::image(