ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ตามแนวคิดของรัฐบาลในการเดินหน้าประเทศไทย มุ่งผลักดันภาคเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มั่นคงแข็งแรง Thai-BISPA Day 2016 ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีแนวคิดการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมรองรับเศรษฐกิจดิจิตอล และเป็นส่วนหนึ่งในพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ก้าวไกลในเวทีโลก เนื่องจากปัจจุบัน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีบทบาทมากขึ้น "ดังนั้น การทำธุรกิจบนพื้นฐานของการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ไม่เพียงแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีแรงงานหรือเครื่องจักรจำนวนมากเท่านั้น แต่ธุรกิจขนาดเล็กหรือแม้แต่ธุรกิจเกิดใหม่ที่เราคุ้นหูว่า Startup นั้น ก็มีความจำเป็นที่จะต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ICT ให้ทันในการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจ เพื่อสอดรับตลาดสากลที่เชื่อมต่อกันเพียงปลายนิ้วจากทุกหนทุกแห่งทั่วโลก"ดร.พันธ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในมุมของรัฐบาลนั้น ก็มีภารกิจสำคัญมากมายที่จะสนับสนุนภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมของประเทศในยุคเศรษฐกิจดิจิตอลให้เดินหน้าอย่างเป็นระบบ เข้มแข็ง พร้อมรับมือกระแสการเติบโตของสังคมโลกที่ต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ผ่านช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและทันสมัย โดยรัฐบาลได้มีการลงทุนและปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารเพื่อรองรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อีกทั้งยังผลักดันนโยบายต่างๆ ให้ผู้ประกอบการธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมทั้งนักศึกษา เยาวชนให้เกิดความตื่นตัว และเตรียมพร้อมต่อทิศทางโลกอย่างมีภูมิคุ้มกัน รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการสร้างธุรกิจแนวใหม่มากมายเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อของงานสัมมนา Thai-BISPA Day 2016 ในการสนับสนุน ส่งเสริม ผลักดันให้เกิด ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทั้งในรูปแบบของสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ตลาด และสามารถสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจรวมถึงความยั่งยืนทางสังคมต่อไปในอนาคตอีกด้วย
นายชูศักดิ์ ลิ่มสกุล นายกสมาคม Thai-BISPA กล่าวว่า งานสัมมนาประจำปี Thai-BISPA Day 2016 เป็นความร่วมมือของหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ (สอว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด ธนาคารกรุงเทพ จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด และธนาคารกสิกรไทย จำกัด ให้เป็นศูนย์กลางเครือข่ายของกิจกรรมบ่มเพาะธุรกิจและอุทยานวิทยาศาสตร์ ซึ่งจัดว่าเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างผู้ประกอบการนวัตกรรมให้ประสบความสำเร็จ ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และ Thai-BISPA หวังว่า จะเป็นศูนย์กลางการส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรมเพื่อตอบรับเศรษฐกิจยุคดิจิตอล ในปีนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญกับปีที่ 7 ของการเจริญเติบโตของสมาคมอย่างต่อเนื่อง สมาคมได้วางแนวทางการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมไทยในยุคดิจิตอล ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และหน่วยงานสมาชิกที่เป็นหน่วยบ่มเพาะธุรกิจและอุทยานวิทยาศาสตร์ พร้อมพัฒนาผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศด้วยการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมในสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัย พร้อมด้วยบริการและโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยบ่มเพาะธุรกิจและอุทยานวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ ให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และใช้ช่องทางการตลาดจากเครือข่ายความร่วมมือทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
"นอกจากนี้ ปีนี้ยังเป็นปีแรกของการมอบรางวัล Thai-BISPA Awards ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 สาขาหลัก ได้แก่ สาขารางวัลหน่วยบ่มเพาะธุรกิจดีเด่น ซึ่งมอบให้แก่หน่วยบ่มเพาะธุรกิจที่มีผลงานดีเด่น เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ และสาขารางวัลผู้ประกอบการดีเด่นภายใต้หน่วยงานสมาชิกที่ดำเนินกิจกรรมบ่มเพาะธุรกิจ นอกจากนี้ ยังพ่วงด้วยอีก 3 รางวัลให้แก่ผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นในมิติของการถ่ายทอดเทคโนโลยี โอกาสการเติบโตในต่างประเทศ และผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ การมอบรางวัลในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อส่งเสริมให้กิจกรรมบ่มเพาะธุรกิจและอุทยานวิทยาศาสตร์เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ รวมถึงเป็นการเตรียมเสนอรายชื่อผู้ได้รับรางวัลดังกล่าวเข้าสู่การประกวดในระดับนานาชาติต่อไป"
"และอีกส่วนสำคัญของงาน Thai – BISPA Day 2016 คือการเป็นช่องทางในการเจรจาทางธุรกิจ เกิดการเชื่อมต่อทางระหว่างกลุ่มบริษัทคู่ค้าและความร่วมมือ ไม่เพียงแต่นักธุรกิจเท่านั้น แต่ผู้ที่สนใจ มีแนวคิดและอยากจะริเริ่มธุรกิจ ก็สามารถเข้าร่วมงานเพื่อต่อยอดไอเดีย พูดคุยแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานสนับสนุนทุกภาคส่วนที่พร้อมให้การสนับสนุน เดินหน้าจับมือไปด้วยกัน เพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืน" นายชูศักดิ์ กล่าวสรุป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit