พม. มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ปี ๒๕๕๖ - ๒๕๕๗ (ชีวิตและร่างกาย)

31 May 2016
วันนี้ (๓๐ พ.ค. ๕๙) เวลา ๑๐.๓๐ น. ที่ห้องประชุมชั้น ๒ อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ปี ๒๕๕๖ - ๒๕๕๗ (ชีวิตและร่างกาย) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฯ และครอบครัว สามารถเข้าถึงสิทธิและโอกาส ในการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐได้โดยทั่วถึง
พม. มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ปี ๒๕๕๖ - ๒๕๕๗ (ชีวิตและร่างกาย)

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) มีความมุ่งหวังในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์และลดความขัดแย้งในสังคมไทย คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๘ เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗ (ชีวิตและร่างกาย) ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้เปิดรับคำร้องจากผู้ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๙ มีจำนวนผู้ยื่นคำร้องทั้งสิ้น จำนวน ๘๒๐ คน โดยยื่นที่ส่วนกลาง จำนวน ๕๗๗ คน และภูมิภาค จำนวน ๒๔๓ คน แบ่งตามระดับความเสียหาย ดังนี้ เสียชีวิต จำนวน ๔๖ คน ทุพพลภาพ จำนวน ๒๓ คน บาดเจ็บสาหัส จำนวน ๙๗ คน บาดเจ็บ จำนวน ๒๕๑ คน บาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน ๔๐๓ คน

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับหน่วยงานของรัฐ ๒๐ กระทรวง และหน่วยงานอิสระ ตรวจสอบการรับเงินช่วยเหลือและการถูกดำเนินคดีหรือถูกฟ้องร้อง ตลอดจนการลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ทุพพลภาพ ก่อนเสนอคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม แก่ผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗ และได้ประชุมพิจารณาคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา โดยมีผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาในรอบที่ ๑ รวมทั้งสิ้น จำนวน ๑๒๕ ราย แบ่งเป็นกรณีเสียชีวิต จำนวน ๒๕ ราย บาดเจ็บสาหัส จำนวน ๑๕ คน บาดเจ็บ จำนวน ๑๘ คน บาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน ๖๗ คน รวมเงินช่วยเหลือทั้งสิ้นจำนวน ๑๐,๘๗๘,๔๕๙ บาท (สิบล้านแปดแสนเจ็ดหมื่นแปดพันสี่ร้อยห้าสิบเก้าบาทถ้วน) ทั้งนี้ สำหรับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม ประกอบด้วย กรณีเสียชีวิต รายละ ๔๐๐,๐๐๐ บาท ทุพพลภาพ รายละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ทุพพลภาพและต้องฟื้นฟูสมรรถภาพ รายละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท บาดเจ็บสาหัส (เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและนอนเป็นผู้ป่วยในเกิน ๒๐ วัน หรือแพทย์มีความเห็นว่าจะต้องได้รับการรักษาตามปกติเป็นเวลาเกิน ๒๐ วัน) รายละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท บาดเจ็บ (เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลและนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในไม่เกิน ๒๐ วัน) รายละ ๖๐,๐๐๐ บาท บาดเจ็บเล็กน้อย (เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ไม่ใช่ผู้ป่วยใน) รายละ ๒๐,๐๐๐ บาท นอกจากนี้ ยังมีการช่วยเหลือเป็นเงินยังชีพรายเดือน และเงินทุนการศึกษารายปีให้แก่บุตรของผู้เสียชีวิต และบุตร ของผู้ทุพพลภาพที่กำลังศึกษาอยู่ ตามระดับการศึกษา

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาแล้ว คณะอนุกรรมการช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗ กำลังเร่งรัด ตรวจสอบคุณสมบัติอย่างรอบคอบ เพื่อให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาตามหลักเกณฑ์อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองคุ้มครองสวัสดิภาพ และเสริมสร้างคุณภาพชีวิต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โทร ๐๒-๖๕๙ ๖-๕๓๖ หรือ สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร. ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชม. และทางเว็บไซต์ www.dsdw.go.th

HTML::image( HTML::image( HTML::image(