เล่าเรื่องราวในวันนั้นให้ฟังหน่อย?
"เรื่องเกิดขึ้นวันที่ 2 มิถุนายน 59 นี้เองค่ะ เวลาประมาณบ่าย3 – บ่าย4โมง ก็ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ไปกันทั้งครอบครัวเลย 4 คน มีพ่อแม่ลูกสองคน ลูกชายคนโตอายุ 5 ขวบ และก็ลูกชายคนเล็กอายุ 2 ขวบ จากนั้นคุณพ่อก็ขอไปทำธุระที่ธนาคารแป็บนึง คุณแม่ก็พาน้อง ๆ ไปเล่นเกมส์อยู่ด้านหน้าและน้องก็ซนมาก แต่ก็คุณแม่ก็หยอดเหรียญให้น้องเล่นเกมส์ปกติ ทีนี้ลูกคนเล็กหิวนม แม่เลยเข็นลูกคนเล็กใส่รถเข็นห้างค่ะ ไปให้พ่อเค้า และก็บอกให้พ่อคอยมองลูกชายคนโตหน่อย คือคุณพ่อกับลูกชายคนโตอยู่ไม่ห่างกันค่ะ คุณพ่อกำลังขอสินเชื่อที่ธนาคารอยู่ใกล้ ๆ ก็เป็นตู้เกมส์อยู่ คอยมองคอยสังเกตอยู่ตลอดเวลาเพราะว่าคุณแม่กำลังชงนมให้กับคนเล็กอยู่ ส่วนพ่อก็หันไปเรียกลูก น้องดิจิ ซึ่งลูกก็ไม่หันยังเล่นกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไร ซึ่งผู้ชายคนนั้นใส่แมสหน้ากากปิดปาก แต่ในใจตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรแค่คิดว่าเขาอาจไม่สบายหรือเปล่า ตอนนั้นแค่เป็นห่วงลูกว่าทำไมลูกไม่เข้ามาหาเรา และก็ยังเล่นกับเขาอยู่ ซึ่งคุณแม่ก็เห็นด้วยยังบอกให้คุณพ่อดูหน่อยว่าใครมาเล่นกับลูก ทีนี้จังหวะที่แม่กำลังเอานมให้น้องคนเล็ก สายตาเราที่มองลูกมันหลุดเฟรมออกไปละ ทีนี้พ่อก็บอกว่าแม่ไปดูหน่อย แม่ก็วิ่งไปดู เห็นมือลูกกับมือเขา(คนที่ใส่หน้ากากปิกปากมาเล่นกับลูก)จับกันแบบแน่นหนา น้องก็อยู่ประชิดตัวเขาเลย แม่ก็วิ่งออกไปคว้าหัวลูก กระชากน้องมาแล้วก็บอกว่าจะไปไหนกัน จะเอาลูกชั้นไปไหน ในจังหวะนั้นคือใจจดจ่ออยู่กับลูกอย่างเดียว ตกใจมาก ไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้นเลย ในระหว่างที่คว้าตัวลูก คนในธนาคารก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เพราะเสียงดังมาก คนในธนาคารก็ตกใจ แล้วเราเองก็แบบดุน้องด้วยว่าไปกับเขาได้อย่างไร แล้วก็ถามผู้ชายคนนั้นว่าจะเอาลูกเค้ไปไหน จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็"ไปเลยค่ะ เดินหนีไปเลยไม่ให้หนูเห็นหน้า และเราก็เอาลูกเข้ามาในแบงค์มานั่งเก้าอี้ เจ้าหน้าที่ก็ออกไปดูให้ว่าเขาคนนั้นไปไหนแล้ว เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่เจอแล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้วเห็นหลังไวไว จากนั้นก็เช็ดมือน้องก่อน เพราะได้กลิ่นไม่ค่อยดี เหมือนแบบมีกลิ่นเหงื่อสาบ ๆ เราก็พยายามเช็ดมือลูก ตอนนั้นน้องนั่งงง และก็เหมือนจะร้องไห้และก็มองหน้าแม่กึ่งหนึ่ง และก็บอกว่าหิวข้าว ตอนนั้นเราก็เดินบ่นลูกไปด้วย และก็ไปเข้าห้องน้ำล้างมือ เสร็จก็เช็ดตัวให้น้อง และก็ไปหาร้านอาหาร พอถึงร้านอาหารปุ๊บ หันไปเห็นน้องหลับ พิงกระจกหลับ ตอนนั้นแม่ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเป็นอะไร ภายในหนึ่งชั่วโมงคุณพ่อเขาก็พยายามเรียกน้องตลอด แต่น้องก็ไม่ตื่น พ่อเขาตีแรง ๆ ก็ไม่ตื่น เลยเอามือลงไปถังน้ำแข็ง ควักน้ำแข็งเต็มมือมาละเลงหน้าน้อง เขาก็ค่อย ๆ รู้สึก พ่อเขาละเลงไปจนน้องเขาพูดว่าป๊าตื่นแล้ว แต่ก็งัวเงีย ผมก็บอกว่าถ้าตื่นแล้วต้องลุก พอลูกลุกขึ้นมาก็งัวเงีย งง จากนั้นก็หลับต่อ พอลูกฟื้นสติมาอีก เขาบอกว่าเขาหิวข้าว หิวน้ำ ก็ให้เขากินข้าวกับน้ำ พอกลับไปบ้านเขาก็บอกพ่อว่า ป๊ามีอะไรจะบอก เขาก็บอกว่าเนี่ยแม่ดึงหูหนู กระชากหนูมาเนี่ย หนูจะไปช่วยเขาตากผ้า เขาบอกว่าให้ไปช่วยตากผ้า ไปทำงาน หนูเป็นเด็กดี พอหนูไปช่วยคุณแม่ก็มาดึงหนู เขาชวนไปตากผ้าแล้วเดี๋ยวพามาส่ง และก็จะหยอดเกมส์ให้เล่นเยอะ ๆ เลย คือพอมารู้ทีหลังก็ตกใจ ตอนแรกที่แม่จะแชร์นะค่ะ ก็คิดแล้วคิดอีกว่าจะลงดีไหม เพราะเราก็ไม่ได้แจ้งความ อารมณ์นั้นคือตัวเองพะรุงพะรังมากเลย และก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องราว มาคิดตอนที่เอาน้ำแข็งละเลงหน้า"
คุณพ่อคุณแม่อยากฝากอะไรถึงพ่อแม่ท่านอื่น?
"ตอนนี้ก็ให้ลูกดูข่าวที่เด็กโดนลักพาตัว ก็สอนเขาตลอด บอกเขาเช้าเย็น จนตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว บอกว่าเขาขอโทษครับ และเขาจะไม่ไปกับคนแปลกหน้าอีก และก็จะระวังตัวเอง ก็อยากจะบอกว่าอย่าปล่อยลูกคาดสายตา ขนาดเราเอง เราระวังแล้ว แต่แค่จังหวะเค่แป็บเดียวเท่านั้นเอง ทุกวันนี้มีที่ผูกแขนจูงกันมาเลย อยากจะฝวากแม่ ๆ บางท่านที่ไปห้างแล้วให้น้องเข้าห้อวน้ำชายไปเอง ซึ่งนอ้งยังเด็กมากเราไม่รู้ว่าในห้องน้ำมีอะไร และเราเป็นคุณแม่เราพาน้องเข้เองดีกว่า อยากให้ระวัง และก็อยากจะฝากคนที่แชร์ภาพเด็ก ก็ขอให้กรุณาเบลอ ภาพน้อง เข้าใจว่าทุกคนหวังดีและก็อยากช่วยหลือสังคม แต่บางทีมันอาจมีข้อกฎหมายเล็ก ๆ น้อยที่เขาห้ามอยู่ จะมีพรบ.คุ้มครองเด็กอยู่ค่ะ"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit