กฤษณ์ ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูสปอต คอมมิวนิเคชั่น จำกัด เผยภาพรวมของธุรกิจ "มูลค่าทางการตลาดทั้งหมดของธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ในปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท โดยมีมูลค่าการผลิตส่งออกอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากคนไทยมีความเกี่ยวข้องกับดิจิทัลคอนเทนต์มากขึ้น รวมถึงการที่ทางภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง เริ่มร่วมกันจัดงานนิทรรศการต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงฝีมือให้นานาประเทศได้เห็นมากขึ้น และในส่วนของการซื้อขายสินค้าที่เป็นลิขสิทธิ์ "คาแรคเตอร์" จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท ในช่วง 3–4 ปีที่ผ่านมานั้น มีการขยายตัวและเติบโตอย่างมากเช่นกัน มีการซื้อขายลิขสิทธ์เป็นจำนวนมหาศาล เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการนำสินค้าที่ทางผู้ประกอบการคาแรคเตอร์จัดทำไปจำหน่ายต่อ หรือการซื้อลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์เพื่อนำไปผลิตสินค้า เช่น ของเล่น ของใช้ ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้าแฟชั่น รวมไปถึงช่องทางการออนไลน์และมีเดียต่างๆ ฯลฯ ที่เห็นชัดๆ คือมีบางองค์กรหรือแบรนด์สินค้าใช้กลยุทธ์นำตัวคาแรคเตอร์ไปใช้สื่อสารการตลาด ทั้งโฆษณาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่องค์กรหรือตัวสินค้า บางแห่งมีการออกแบบคาแรคเตอร์เพื่อทำเป็นมาสคอตเสมือนเป็นพรีเซนเตอร์ทำหน้าที่สร้างการจดจำและโปรโมทให้แบรนด์มีศักยภาพทางธุรกิจไปอีกระดับ"
ในมุมมองคาแรคเตอร์ไม่ใช่แค่ตัวการ์ตูน โดยซีอีโอของทูสปอตฯ กล่าวเพิ่มเติม "ในส่วนของทางทูสปอตฯ เองก็เป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ และเป็นเจ้าของคาแรคเตอร์ไทยอยู่หลายตัว เช่น Unsleep Sheep ซึ่งตอนนี้ได้มีโอกาสร่วมงานกับทาง มาม่า ในโปรเจกต์ Unsleep Sheep x MAMA project collaboration เพื่อส่งเสริมการตลาดในช่องทางใหม่ๆ ให้แก่แบรนด์ อีกทั้งยังสามารถส่งตัวคาแรคเตอร์ออกสู่สายตาผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือตัว Bloody Bunny กระต่ายโหด คาแรคเตอร์จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จดจำง่าย มีการนำเอาศิลปะจากญี่ปุ่นและอเมริกามาผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยจึงค่อนข้างลงตัว ทูสปอตฯ สร้างบุคลิกของ บลัดดี้ บันนี่ ให้เป็นตุ๊กตากระต่าย สีขาว หน้าตาน่ารัก ปนโหด และ มีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่น ในภาพของฮีโร่นักสู้ แอบโหด ต่างไปจากกระต่ายธรรมดาทั่วไป เราจึงตั้งกลุ่มเป้าหมายของบลัดดี้ บันนี่ มีอายุ 13-19 ปี โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีผลตอบรับที่ค่อนข้างดี จึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถก้าวไปประสบความสำเร็จในตลาดลิขสิทธิ์ระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน อเมริกา จนเคยได้รับรางวัลชนะเลิศ Grand Prize จาก Asean Character Award ประเทศญี่ปุ่น และได้ร่วมงานกับศิลปินระดับโลก เช่น Hamasaki Ayumi และ Kyary Pamyu Pamyu ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคจะพบเห็น บลัดดี้ บันนี่ ได้ทั้งสติ๊กเกอร์ไลน์ แอนิเมชั่น ของใช้ และ แฟชั่น ฯลฯ ในชื่อคอลเลกชั่น My Enemy Collection ประกอบไปด้วย เสื้อผ้าแฟชั่น , ตุ๊กตา, เครื่องเขียน ฯลฯ ที่นอกจากความหลากหลายของตัวสินค้าแล้ว ผู้บริโภคที่ชื่นชอบในคาแรคเตอร์ ยังได้เก็บสะสมสินค้าคอลเลกชั่นของบลัดดี้ บันนี่ ในราคาที่สมเหตุสมผล ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ เริ่มตั้งแต่ 90-1,590 บาท เพราะเราไม่ได้นำเข้าลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ แต่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยฝีมือคนไทย และต้องการตอบสนองความต้องการของแฟนๆ บลัดดี้ บันนี่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องตั้งราคาสินค้าแพงเกินไป โดยทุกคนสามารถแวะไปชมหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ของบลัดดี้ บันนี่ ได้ที่ เทอร์มินอล 21 สยามพารากอน เดอะมอลล์ สาขาบางแค, งามวงศ์วาน, บางกะปิ (แผนก Betrend) B2S สาขาเมกาบางนา, เซ็นทรัลบางนา, เอสพลานาด รัชดา นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ ที่เฟสบุ๊ค 2SPOT Fanshop (www.facebook.com/2SpotShop) ได้อีกด้วย และล่าสุดทางทูสปอตฯ ได้ขยายช่องทางธุรกิจใหม่ นำคาแรคเตอร์ บลัดดี้ บันนี่ เข้าใกล้ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่หลงรักคาแรคเตอร์และชื่นชอบรับประทานอาหาร โดยเปิดโปรเจกต์ Bloody Bunny Cafe มีการเชื่อมโยงบรรยากาศของคาเฟ่และคาแรคเตอร์เข้าด้วยกัน ซึ่งมีการพัฒนารูปแบบอาหารและแพคเกจโดยใช้บลัดดี้ บันนี่ เป็นสัญลักษณ์ ทั้งเบเกอรี่ อาหารคาว และเครื่องดื่มหลากชนิด ทุกคนจะได้อารมณ์และสัมผัสประสบการณ์ความเป็นตัวตนของบลัดดี้ บันนี่ โดยประเดิมลองตลาดเปิดคาแฟ่แรกในงาน Bangkok Comic Con 2016 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ในอนาคตเราอาจจะได้พบ Bloody Bunny Cafe เพื่อสร้างความสุขและความแปลกใหม่ให้คนรักคาแรคเตอร์และชื่นชอบการรับประทานควบคู่กันไป"
สำหรับแอนิเมชั่น BLOODY BUNNY : The First Blood ที่กำลังโด่งดังอยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้ ได้เริ่มโปรเจกต์เมื่อต้นปี ถือเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นที่จะสร้างสรรค์สื่อแอนิเมชั่น ในชื่อ BLOODY BUNNY : The First Blood นำทีมโดย อัครัชญ์ จารุศิลาวงศ์ Head Creative Designer จากทูสปอตฯ ที่ร่วมมือกับ ริฟ สตูดิโอ ผลิตเป็นแอนิเมชั่น 3D ขนาดสั้น จำนวน 15 ตอน เผยแพร่ทาง Facebook และ Youtube (คีย์เวิร์ด Bloody Bunny) ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากเหล่าแฟนพันธุ์แท้ของกระต่ายโหด และจากความสำเร็จของแอนิเมชั่นชุดนี้ ทำให้ตัวคาแรคเตอร์ใหม่ๆ ในเรื่องเป็นที่รู้จักมากขึ้น ที่โดดเด่นที่สุดคือ Dark Rabbit กระต่ายดำซึ่งเป็นคู่ปรับของ บลัดดี้ บันนี่ จนมีการต่อยอดทางธุรกิจโดยการนำตัวคาแรคเตอร์ Dark Rabbit มาพัฒนาเป็นโปรดักส์ชุดใหม่ในคอลเลกชั่นพิเศษให้กับผู้ที่ชื่นชอบ และล่าสุดด้วยความยอดเยี่ยมด้านเนื้อหาและภาพการนำเสนอ ทำให้ BLOODY BUNNY : The First Blood คว้ารางวัล BIDC Awards ได้ถึง 3 ประเภท ทั้ง Best Animation series, Best Short Animation และ Character of the Year ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ประกอบการด้านแอนิเมชั่นและดิจิทัลคอนเทนต์ของไทย ที่มีศักยภาพโดดเด่น ทั้งในประเทศและเป็นที่ยอมรับระดับสากล
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit