"ในขณะที่เรากำลังเริ่มเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโรลส์-รอยซ์ เรามีความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอบีสโป๊ก คอลเล็กชั่นที่มีความโดดเด่นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองสุดยอดยนตรกรรมหรูที่หาได้ยากของโลก นั่นคือ แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ และแฟนธอม คูเป้ ดังนั้น แฟนธอม ซีนิธ คอลเล็กชั่น จึงสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของโรลส์-รอยซ์ในการสร้างมาตรฐานใหม่ที่สูงกว่าสินค้าหรูอื่นเท่าที่สามารถวัดได้" มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด กล่าว
นับแต่การก่อตั้งบริษัทฯ เมื่อ 113 ปีที่ผ่านมา บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด ได้ถูกนิยามจากความมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการสินค้าหรู โดยวันที่ 1 มกราคม 2546 ปรัชญานี้ได้เป็นรูปธรรมขึ้นเมื่อมีการส่งมอบยนตรกรรมแฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 คันแรกให้กับลูกค้า ณ บ้านหลังใหม่ของโรลส์-รอยซ์ที่กู้ดวูด สหราชอาณาจักร ที่ทำให้วงการธุรกิจสินค้าหรูของโลกและนักวิจารณ์ทั่วโลกต่างพากันทึ่งในสมรรถนะและความสง่างามของยนตรกรรมหรูร่วมสมัย จึงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่โรลส์-รอยซ์สร้างตำนานในฐานะผู้ผลิต "ยนตรกรรมที่ดีที่สุดในโลก"
สี่ปีต่อมา แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับรถยนต์ทัวร์ริงเปิดประทุนหรู ตำนานแห่ง ยนตรกรรมที่ส่งต่อความงามให้กับโรลส์-รอยซ์ ดอว์น รุ่นปี 2016 และต่อมาในปีพ.ศ. 2551 แฟนธอม คูเป้ ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะสุดยอดยนตรกรรมแกรนด์ทัวร์เรอร์ตลอดกาลที่หาได้ยาก ที่ต่อมาได้ส่งมอบคุณลักษณะอันโดดเด่นให้กับโรลส์-รอยซ์ เรธ ในฐานะสุดยอดแห่งยนตรกรรมแกรนด์ ทัวริสโมของสุภาพบุรุษในปีพ.ศ. 2556
ปัจจุบัน แบรนด์โรลส์-รอยซ์ สะท้อนให้เห็นถึงจุดสูงสุดของยนตรกรรมยุคใหม่ ด้วยการประกาศของแฟนธอม เจนเนอเรชั่น 8 ที่จะใช้โครงสร้างรถยนต์อลูมิเนียมใหม่ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ในอนาคต
ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ และแฟนธอม คูเป้ ต้องกล่าวคำอำลาด้วยที่สุดแห่งบีสโป๊ก คอลเล็กชั่น ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือการสร้างมาตรฐานที่สูงสุดเท่าที่สามารถวัดได้ให้กับยนตรกรรมหรู
แฟนธอม ซีนิธ คอลเล็กชั่น ประกอบด้วยรถยนต์แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ และแฟนธอม คูเป้ รุ่นล่าสุดที่เคยสร้างสรรค์ขึ้นมาสำหรับนักสะสมตัวจริง โดยทั้ง 50 คันนี้ได้ถูกสั่งทำจากลูกค้าที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ที่ต้องการเป็นเจ้าของหนึ่งในคอลเล็กชั่นยนตรกรรมสุดหรูของโลกที่มีจำนวนจำกัดและมูลค่าที่จะไม่มีวันลดลง
แฟนธอม ซีนิธ คอลเล็กชั่น เป็นการเฉลิมฉลองยนตรกรรมทั้ง 2 รุ่นนี้ของแฟนธอม ด้วยคุณสมบัติและฟังค์ชั่นที่สั่งทำขึ้นพิเศษ และการออกแบบที่คงความสง่างามและหรูหราของยนตรกรรมรุ่น แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ และ แฟนธอม คูเป้ ที่หายากและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในโลก
ในการสร้างสรรค์แฟนธอม 2 รุ่น ทีมงานออกแบบของบีสโป๊ก ได้ทุ่มเททำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงการที่รถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้จะสามารถเข้าถึงไลฟสไตล์ของลูกค้า จึงให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด ตัวอย่าง ห้องเก็บสัมภาระส่วนท้ายที่เปิดแยกออกเป็นสองส่วนบน-ล่าง เพื่อความลงตัวและสวยงามในยามใช้ชุดปิกนิก ชั้นวางแก้ว ที่ติดตั้งในห้องเก็บสัมภาระส่วนท้าย เพิ่มความสะดวกในการเสิร์ฟแชมเปญ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งตู้แช่แชมเปญสำหรับแชมเปญขนาดมาตรฐาน 2 ขวด แก้วโรลส์-รอยซ์ 8 ใบ อีกทั้งยังมีเบาะรองนั่งหนังเพื่อความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ต้องการนั่งเล่นที่บริเวณฝากระโปรงท้ายขณะเปิดออก
ลูกค้าของแฟนธอม ซีนิธ คอลเล็กชั่น จะได้รับเชิญให้มาชมชุดปิกนิกบีสโป๊กของโรลส์-รอยซ์ ที่สามารถเลือกที่จะติดตั้งเพิ่ม โดยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีเอกลักษณ์นี้รังสรรค์ขึ้นเพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับการเดินทาง ที่สามารถเสริมความลงตัวของแต่ละบุคคลด้วยโทนสี และวัสดุที่เข้ากับกับตัวรถ
เมื่อเปิดประตูรถออก เจ้าของรถจะได้พบกับที่พักแขนที่แกะสลักด้วยเลเซอร์เพื่อเป็นที่ระลึกของการเผยโฉมรถยนต์ต้นแบบรุ่น 100EX ที่วิลล่า เดสเต้ บนชายฝั่งของทะเลสาบโคโม ที่ต่อมากลายเป็นแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ และรุ่น 101EX ที่ทะเลสาบเจนีวา ที่ได้ถูกพัฒนาต่อให้กลายเป็นแฟนธอม คูเป้
การใส่ใจในทุกรายละเอียดของยนตรกรรมแฟนธอม ทำให้รถยนต์หรูนี้เป็นยนตรกรรมหรูที่มีผู้ชื่นชอบมากที่สุดในโลก โดยแฟนธอม ซีนิธ คอลเล็กชั่น เป็นการเฉลิมฉลองลักษณะอันโดดเด่นด้วยช่องเก็บสัมภาระที่บริเวณแผงหน้าปัด เมื่อเปิดออกจะได้พบกับกล่องอลูมิเนียมสีดำ พร้อมหมายเลขประจำรถยนต์แต่ละคันแกะสลักด้วยเลเซอร์ที่สามารถดึงออกมาได้ โดยภายในกล่องจะพบกับชิ้นส่วนที่ระลึกที่ระบุว่ามาจากสายการผลิตใดในการรังสรรค์แฟนธอมในคอลเล็กชั่นนี้
ทั้งนี้ แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ และ แฟนธอม คูเป้ มี 3 จุดหลักที่สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบที่สง่างาม ได้แก่ แผงหน้าปัดรถยนต์ทำจากสตีลขัดลายฝีแปรงที่โดดเด่นจนไม่อาจละสายตาได้ โทนสีอ่อนภายในส่วนที่นั่งด้านหน้าจะกลมกลืนอย่างสมบูรณ์แบบกับโทนสีที่เข้มขึ้นในส่วนของด้านหลัง และสุดท้ายคือ ผ้าบุเพดาน ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ขึ้นครั้งแรกโดยการทอมือในยนตรกรรมแฟนธอม คูเป้ ที่เรียงร้อยดาวแต่ละดวงเข้าด้วยกัน สร้างบรรยากาศให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้รู้สึกถึงความอบอุ่น และเชื้อเชิญ
ส่วนการจัดวางโทนสีและสีของวัสดุที่ใช้ทั้งภายนอกและภายใน ทีมนักออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์อันน่าประทับใจของโรลส์-รอยซ์ อาทิ แฟนธอม คูเป้ สีแดงเข้ม มาเดียรา เรด และสีเทา จูบิลี ซิลเวอร์ ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟนธอม ซีรี่ส์ II ในยุคช่วงปี 1930 ในขณะที่ความเข้มดุดันเหนือกาลเวลาสะท้อนให้เห็นในสีน้ำเงินเข้ม มิดไนท์ บลู และสีขาวอาร์ติก ไวท์ ที่สร้างความพิเศษให้กับโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม ซีรี่ส์ II คอนติเนนตัลในยุคช่วงปี 1930 พร้อมด้วยกระจก clear coat ที่ถูกติดตั้งเพื่อให้ความเงาสูงดุจดั่งกระจกสะท้อน
นอกจากนี้ การออกแบบยังได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เพิ่งเกิดขึ้นของโรลส์-รอยซ์ ได้แก่ แฟนธอม คูเป้ เอวิเอเตอร์ คอลเล็กชั่น ในขณะที่ขอบหน้าปัดสีส้ม บลัด-ออเรนจ์เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบแผงหน้าปัดแบบเครื่องบินในโรลส์-รอยซ์ เรธ การใส่ใจในรายละเอียดยังคงเห็นได้จากที่วางแก้วอลูมิเนียม ที่มอบทั้งความงามทางสายตาและผิวสัมผัสได้อย่างลงตัวสมบูรณ์แบบสะท้อนให้เห็นถึงความสง่างามเหนือกาลเวลาของการออกแบบที่ร่วมสมัย อีกทั้ง การใช้วัสดุอันทันสมัยในการทำพื้นผิวของแผงหน้าปัดของยนตรกรรมทั้ง 2 รุ่น
การสร้างสรรค์ยนตรกรรมแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ และแฟนธอม คูเป้ครั้งสุดท้ายกำลังเกิดขึ้นที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ และปีพ.ศ. 2559 ยังเป็นปีสุดท้ายของการผลิตยนตรกรรมแฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 บริษัทฯ จึงเชิญชวนให้ลูกค้าที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแฟนธอมมารังสรรค์รถยนต์รุ่นนี้ครั้งสุดท้ายในแบบฉบับเฉพาะบุคคล ซึ่งการรับออร์เดอร์ในการสั่งทำรถยนต์ครั้งนี้ใกล้ที่จะปิดลงแล้ว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit