เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้วที่ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร (The House on Sathorn) เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ อาคารสไตล์โคโลเนียลอายุกว่า 127 ปี ที่ตั้งสง่าโดดเด่นให้เห็นความแตกต่างระหว่างความเก่าแก่และอิทธิพลของโลกปัจจุบันของอาคารโรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ (W Bangkok) เดอะเฮ้าส์ออนสาทรได้สร้างประสบการณ์ใหม่ของวงการร้านอาหารและไนท์ไลฟ์ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือบาร์ที่นำเสนออาหารและเครื่องดื่มออกมาในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร
เดอะ คอร์ทยาร์ด (The Courtyard) อีกหนึ่งที่โปรดของใครหลายๆคน สวนสวยใจกลางบ้านที่ให้คุณนั่งพักผ่อนและหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองกรุงเทพมหานครได้ตลอดวัน เดอะ คอร์ทยาร์ด นำเสนอเมนูอาหารคอมฟอร์ทฟู้ดหลากหลายเมนูที่เชฟเลือกสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากในประเทศไทยและต่างประเทศ ครั้งนี้เชฟฟาติห์ ทูทัค (Fatih Tutak) เสนอเซ็ทมื้อกลางวันที่คุณสามารถเลือกรับประทานได้ทั้งที่เดอะ คอร์ทยาร์ด หรือ ภายในห้องอาหาร เดอะ ไดน์นิ่ง รูม เช่นกัน
เมนูใหม่ของ เดอะ คอร์ทยาร์ด มีให้เลือกมากมายด้วยกัน ตั้งแต่สลัดจนถึงแซนด์วิช เช่น เมนูเคบับสไตล์ตุรกี (Adana Kebab Durum with Lamb) แผ่นแป้งบางนุ่มสอดไส้เนื้อแกะบดคลุกเคล้ากับเครื่องเทศและมะเขือเทศ หรือส้มตำในรูปแบบของเดอะเฮ้าส์ออนสาทรที่เพิ่มความพิเศษให้กับจานนี้ด้วยกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ (Jumbo Tiger Prawns Som Tum Our Way) เมนูไฮไลท์ที่เชฟภูมิใจนำเสนอ คือ ข้าวบาร์เลย์ผัดสไตล์อิตาเลียน เสิร์ฟพร้อมเนื้อหมูก้อนสับทรงเครื่องและซอสมะเขือเทศ (Black Pork Risolles with Orzotto and Tomato Sauce) และ เนื้อแกะแทนดูรีหมักเครื่องเทศ เสิร์ฟคู่กับข้าวหมกสูตรพิเศษหุงด้วยหญ้าฝรั่นและซอสมะเขือม่วง (Tandoori Lamb Cutlets with Saffron Biryani and Smoked Eggplant) และพลาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเมนูย่าง เพลิดเพลินไปกับเมนูเนื้อย่างเกรด
พรีเมียมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมูคุโรบูตะ เนื้อวากิว และซีฟู้ดที่นำไปย่างบนเตาถ่านร้อนสไตล์ญี่ปุ่น (Robata Grill) และเครื่องเคียง และซอสอีกมากมาย
คอนเซ็ปต์ของเมนูใหม่นี้ยังคงความเป็นคอมฟอร์ทฟู้ดที่เชฟมุ่งคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั้งในและนอกประเทศ นอกจากนั้นยังมีเซ็ทมื้อกลางวันให้เลือกระหว่าง เซ็ทเมนูอาหาร 2 คอร์ส ในราคาเพียง 640++ บาทต่อท่าน และ เซ็ทเมนูอาหาร 3 คอร์ส ในราคา 780++ บาทต่อท่าน ซึ่งคุณสามารถเลือกเมนูได้เอง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อริบอายดรายเอจ (Dry Aged) ที่ใช้เวลาบ่มนานถึง 55 วัน หมักด้วยซอสทาร์ทาร์ เสิร์ฟกับไข่แดงและเฟรนช์ฟราย, ไก่ไทยตัวเล็กครึ่งตัวหมักเครื่องเทศต้มยำย่างถ่าน เสิร์ฟพร้อมสัปปะรดย่าง หรือตัวเลือกสำหรับผู้ทานมังสวิรัติ เช่น รีซอตโต้ข้าวบาร์เลย์เสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศเฟต้าชีสและมะกอก (Barley Risotto, onfit Tomatoes, Feta Cheese, Olives) เป็นต้น จบท้ายด้วยขนมหวาน เซ็ทมื้อกลางวันเสิร์ฟวันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 12.00 – 14.30 น.
นอกจากคุณสามารถอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารจากเดอะ คอร์ทยาร์ด ท่ามกลางสวนสวยบรรยากาศร่มรื่น คุณยังสามารถเลือกที่จะรับประทานภายในห้องอาหาร เดอะ ไดน์นิ่งรูม ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00 - 17.30 น. เดอะ ไดน์นิ่งรูม เปิดบริการปกติสำหรับมื้อเย็น ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.30 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 344 4000 หรือ อีเมล [email protected]
ติดตามข่าวสารอัพเดทของเดอะเฮ้าส์ออนสาทรได้ที่ www.facebook.com/thehouseonsathorn หรือ
เว็ปไซต์ www.thehouseonsathorn.com
ชุบชีวิตใหม่ให้กับแลนด์มาร์คใจกลางกรุงเทพ
อาคารหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2432 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นบ้านพักของครอบครัว หลวงสาทรราชายุกต์ นักธุรกิจผู้มั่งคั่งและเป็นผู้ริเริ่มขุดคลองสาทร อาคารนี้กลายเป็นมรดกตกทอดสู่รุ่นลูกหลาน จนกระทั่งช่วงปี พ.ศ. 2463 ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงแรมหรู โฮเทล รอยัล จากนั้นระหว่างปี พ.ศ. 2491- 2542 คฤหาสน์นี้ถูกนำไปเช่าต่อเป็นที่ทำการสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย
ด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันสำคัญของตัวอาคาร ทีมงานได้ร่วมมือกับกรมศิลปากรอย่างใกล้ชิด เพื่อบูรณะอาคารหลังนี้ให้กลับมาสวยสง่างามดังเช่นในอดีต และเพื่อรับหน้าที่ใหม่สำหรับ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร การปรับปรุงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับตึกหลักทั้งสี่หลังรวมทั้งสนามหญ้าโดยยังรักษาโครงสร้างเดิมของตึกไว้อย่างครบถ้วน เช่นเดียวกับรายละเอียดภายใน แนวทางการใช้สี ราวบันไดไม้ที่สลักลายอย่างวิจิตร และรูปปูนเปียกนูนต่ำลวดลายประจำตระกูลของหลวงสาทรราชายุกต์ก็ได้รับการบูรณะไว้ตามแบบเดิมไม่ผิดเพี้ยนในความดูแลของกรมศิลปากร ในด้านรายละเอียดสมัยใหม่ที่เพิ่มความขัดแย้งอย่างลงตัวให้กับอาคารนี้เป็นผลงานการออกแบบของบริษัทออกแบบตกแต่งภายในชื่อดัง AvroKO จากนิวยอร์ก
เชฟ ฟาติห์ ทูทัค
เชฟฟาติห์ ทูทัค ผู้อำนวยการด้านอาหาร (Director - Culinary) ของ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร มาจากกรุงอิสตันบูลในประเทศตุรกี เชฟฟาติห์เป็นผู้ควบคุมดูแลทั้งด้านอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด เมนูต่างๆเชฟได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางท่องไปทั่วเอเชียและประเทศอื่นๆ เชฟฟาติห์ไม่หยุดยั้งการค้นหาเมนูและวิธีการปรุงอาหารแบบใหม่ๆ และมักจะสนทนากับแขก ผ่านรสชาติ สัมผัสและสีสันที่นำเสนอพร้อมกับเรื่องราวของเมนูอาหารแต่ละจาน
"ผมสนใจการทำอาหารมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะอาหารฝีมือคุณแม่ ความสนใจนั้นกลายมาเป็นความหลงใหลที่เติมเต็มความฝันของผมในการมาเป็นเชฟ" เชฟฟาติห์อธิบาย "การนำเอาส่วนผสมตามฤดูกาลที่ดีที่สุดจากเอเชียมาใช้ ทำให้ทุกจานที่ผมทำสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวการเดินทางของผมและความตื่นเต้นเมื่อผมค้นพบสิ่งใหม่ๆ คอนเซ็ปต์ที่ผมเรียกว่า "ฟันไดน์นิ่ง (Fun Dining)" นี้เป็นความลงตัวของเทคนิค ความสามารถในการทำอาหารและอารมณ์ขัน ที่เข้ากันกับเรื่องราวของบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี"
เชฟฟาติห์ เข้ามาร่วมงานกับ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร หลังจากร่วมงานกับ ร้านอาหาร เดอะ เบลบรู๊ค ฮ่องกง (The Bellbrook Hong Kong) ที่ได้รับการยอมรับใน ฮ่องกง – มาเก๊า มิชลิน ไกด์ 2015 (Hong Kong-Macau Michelin Guide 2015) ประสบการณ์การทำงานอื่นๆ ของเชฟ ได้แก่ ห้องอาหารโนม่า (NOMA) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในโคเปนเฮเกนและเป็นห้องอาหาร มิชลินสตาร์สองดาว และ นิฮอนเรียวริ ริวกิง (Nihonryori Ryugin) ในโตเกียว ที่เป็นห้องอาหารมิชลินสตาร์สามดาว เชฟฟาติห์ ยังเคยได้รับตำแหน่งซูส์เชฟที่ มารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sands) ในประเทศสิงคโปร์ด้วย
ดื่มด่ำไปกับรสชาติของอาหาร
ด้วยความรักในการเดินทางของเชฟฟาติห์เป็นทุนเดิม แขกที่มารับประทานอาหารจะอิ่มเอมไปกับประสบการณ์ที่ยากจะลืมที่ เดอะ ไดน์นิ่งรูม อย่างซาซิมิสดๆ จากตลาดปลาซึกิจิในโตเกียว (Tsukiji Market) กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของเมนูปลาดิบที่ชื่อ "Early Morning at Tsukiji Market" ในขณะที่กล้วยปิ้งแบบไทยกลายมาเป็นของหวานแสนปราณีตเมื่อจับคู่กับน้ำตาลโอกินาว่าและไนโตรเจนเหลว ที่ชื่อว่า ''On My Way Home to Silom'' อาหารจานเด่นเหล่านี้รวมอยู่ในเมนูอาหารสไตล์เอเชียสมัยใหม่ หรือ New Asian Cuisine ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจจากประเทศต่างๆในทวีปเอเชียก้าวออกไปด้านนอก เดอะ คอร์ทยาร์ด คือที่พักผ่อนหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองหลวง นำเสนอที่รับประทานอาหารกลางแจ้ง และเมนูอาหารง่ายๆ แขกยังสามารถพักผ่อนจิบชากลางสวยสวนในยามบ่าย พร้อมชุดน้ำชายามบ่ายและขนมหวานหลากหลายเมนู
วิสัยทัศน์ด้านอาหารของเชฟฟาติห์ ยังครอบคลุมไปถึงคราฟท์ค็อกเทล ที่ เดอะ บาร์ บริเวณชั้นหนึ่งที่ซึ่งจะเสิร์ฟค็อกเทลที่มีกลิ่นอายความเป็นเอเชีย รวมไปถึงแชมเปญ สาเก ไวน์และกับแกล้มที่น่าลิ้มลองเพื่ออุ่นเครื่องสำหรับปาร์ตี้ในตอนดึก และ อัพสแตร์ส เปิดประตูต้อนรับเหล่าเทรนเซ็ทเตอร์ทั้งหลายให้มาร่วมสังสรรค์ในบรรยากาศปาร์ตี้แบบส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร สามารถดูได้ที่ www.thehouseonsathorn.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit