โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สำหรับผู้ประกอบกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

29 Jun 2016
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้ประกอบกิจการ SMEs ในฐานะที่เป็นฟันเฟืองสำคัญที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และเพื่อเป็นการช่วยผู้ประกอบกิจการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำได้มากขึ้น ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เอกชนตัดสินใจลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น กระทรวงการคลังจึงได้เสนอโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สำหรับผู้ประกอบกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ขึ้น ภายใต้วงเงิน 30,000 ล้านบาท และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2559 โดยสรุปได้ ดังนี้

วัตถุประสงค์ : เพื่อเป็นสินเชื่อระยะยาว (L/T) เพื่อการลงทุน หรือการต่อเติมเปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ แต่ไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม ให้แก่ผู้ประกอบกิจการSMEs ตามนิยามของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศซึ่งมีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน

อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลา : กำหนดให้ธนาคารออมสินให้สินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.1 ต่อปี และธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน เฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบกิจการ SMEs เฉพาะการปล่อยสินเชื่อใหม่ โดยมีเงื่อนไขไม่ให้Refinance หนี้เดิม ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาให้สินเชื่อไม่เกิน 7 ปี และรัฐบาลจะชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยให้กับธนาคารออมสิน โดยผู้ประกอบกิจการ SMEs สามารถยื่นขอสินเชื่อภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 หรือจนกว่าวงเงินจะถูกจัดสรรหมด แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน

นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า "โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สำหรับผู้ประกอบกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จะช่วยให้ผู้ประกอบกิจการ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำได้มากขึ้น เป็นการเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบกิจการ SMEs รวมถึงเป็นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป"

สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3207 โทรสาร 0 2618 3374