นายวีรชัย รัตนบานชื่น ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ ธุรกิจไก่เนื้อ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจไก่เนื้อได้รับการยอมรับจากนานาประเทศในด้านมาตรฐานอาหารปลอดภัยและมีคุณภาพสูง ส่งผลให้การส่งออกผลิตภัณฑ์จากไก่เนื้อเติบโต 17% โดยส่งออกไปตลาดในประเทศอียูสูงเป็นอันดับ 1 ของไทย ขณะที่ยอดขายในญี่ปุ่นเติบโตขึ้นสูงถึง 30%
"สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เข้มงวดกับคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ มีการตรวจสอบคุณภาพ และสารตกค้าง ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ของไทยมีข้อได้เปรียบในเรื่องของศักยภาพในการแข่งขันด้านต่าง ๆ เหนือกว่าเมื่อเทียบกับประเทศผู้ผลิตอื่นๆ ในภูมิภาค ทั้งประสิทธิภาพในการผลิต ปัจจัยการผลิต มาตรฐานการผลิต และเทคโนโลยีการผลิต เป็นต้นส่งผลให้ไทยสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีกว่า" นายวีรชัยกล่าว
ในช่วงปี 2558 ที่ผ่านมา ซีพีเอฟได้ขยายและพัฒนาธุรกิจไก่เนื้อเพื่อรองรับความต้องการของตลาดได้มากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาความปลอดภัยของอาหาร อาทิ ระบบป้องกันแมลงปีกแข็ง หนู และระบบกรองอากาศในฟาร์มเลี้ยง รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลิตภัณฑ์ไก่สดและไก่ปรุงสุกครอบคลุมกว่า 700 รายการของซีพีเอฟได้รับการรับรองให้เป็นผลิตภัณฑ์ไก่ที่ยั่งยืนรายแรกของโลกจากDNV (Det Norske Veritas) องค์กรรับรองมาตรฐานชั้นนำระดับโลกต่อเนื่องมานับตั้งแต่ปี 2556
สำหรับสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นนั้นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในอาหารขั้นสูงสุดและเข้มงวดในการนำเข้าอาหารจากประเทศอื่นๆเป็นอย่างมาก โดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหารของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ แบบไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า (Surprise Check) ทำให้บริษัทฯต้องดำเนินการในมาตรฐานดังกล่าวอย่างเคร่งครัดเพื่อพร้อมรับการตรวจสอบได้ทุกเมื่อทุกขั้นตอน และที่ผ่านมาซีพีเอฟผ่านการตรวจสอบทุกครั้ง จึงเป็นที่มาของชื่อเสียงในด้าน Food Safety ที่นานาประเทศให้การยอมรับ
นอกเหนือจากมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหารแล้วประเทศญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ต้องการผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ที่มีการตัดแต่งพิเศษ ซึ่งซีพีเอฟมีความพร้อมในด้านแรงงานที่มีทักษะความชำนาญ ในการตัดแต่งเนื้อไก่พิเศษและใช้ความประณีตสูง ประกอบกับการที่บริษัทฯ เข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของอิโตชูจากความสามารถในการเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น ทั้ง ร้านแฟมิลี่มาร์ท ร้าน 7-eleven ที่มีกว่า 10,000 สาขา ร้าน Circle K ที่มี 6,000 สาขาทั่วประเทศ ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นตลาดที่ขยายตัวเร็วมากของซีพีเอฟ มียอดสั่งซื้อสินค้าอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้นประมาณ 350-400 ตัน/เดือน ส่งผลให้ยอดส่งออกไก่เนื้อไปญี่ปุ่นสูงขึ้นถึง 30%
สำหรับ ตลาดในประเทศ ซีพีเอฟยังมองหาโอกาสเข้าสู่ตลาดธุรกิจร้านอาหารมากขึ้น ทั้ง โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร รวมถึงธุรกิจให้บริการอาหาร (Catering) เป็นตลาดที่มีความต้องการเนื้อไก่แปรรูปพร้อมปรุงหลากหลายประเภท ที่มีคุณภาพ และปลอดภัย รองรับความต้องการของธุรกิจร้านอาหารปปรุงเป็นอาหารประเภทต่างๆ ของร้านค้าได้สะดวก รวดเร็ว และ สามารถรักษาคุณภาพและรสชาติได้มาตรฐาน
"ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญในเรื่องนโยบายความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) และคุณภาพ (Food Quality) มาอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ได้รับรองมาตรฐานระดับโลกอย่างครบถ้วนทั้ง GMP, HACCP, ISO9002, ISO14001, TIS18001, ISO/IEC17025, BRC รวมถึง HALAL และหลักสวัสดิภาพสัตว์ หรือAnimal Welfare ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งระบบ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังเข้าร่วมเป็นสมาชิก The UN Global Compact (UNGC) และสมาชิก The World Business Council for Sustainable Development (WBCSD) หรือสภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย และมุ่งลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย" นายวีรชัยกล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit