"หลักๆก็จะมีร้านแว่นตา ตอนนี้มี 15-16 สาขาที่ปิดไปด้วยและสาขาที่เปิดใหม่ มันยังไม่ค่อยนิ่ง ธุรกิจนี้ทำมามากกว่า 30 ปี เป็นธุรกิจครอบครัวครับ ฟลุคเข้ามาบริหารประมาณ 8-9 ปีแล้ว ช่วงจบใหม่ๆ เข้ามาในฐานะคล้ายๆเป็นเซลล์ มาดูแลหน้าบูธ จัดการหน้าร้านแล้วก็ค่อยๆ เปลี่ยน ไปเรื่อยๆ งานก็เริ่มลงลึกมากขึ้น จนถึงขั้นไปดูผลิตภัณฑ์เอง ช่วงที่ทำมาประมาณ 3-4 ปีก็ไปดูผลิตภัณฑ์เอง ไปกับพี่สาว ไปดูงานแฟร์ที่ฝรั่งเศส อิตาลี ฮ่องกง ญี่ปุ่น ก็เอาแว่นมาดิสซิบิวต์เอง เป็นช่วงขยายธุรกิจจากการขายปลีกมาเป็นขายส่ง ทำให้ฟลุคเริ่มมีช่วงเวลาที่สามารถเริ่มมาทำธุรกิจของตัวเองได้ เริ่มมีหุ้นกับค่ายมวย ทำคลินิกของตัวเอง ตอนนี้ฟลุคก็เริ่มถอยหลังมานิดหนึ่ง คืออยู่เป็นที่ปรึกษา ตอนนี้ก็เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท แต่ไม่ได้ลงมือทำทุกอย่าง ก่อนหน้านี้แว่นทุกตัวต้องผ่านตาหมด ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เพียงแค่บอกว่าตัวไหนควรลงทุน ตัวไหนควรถอนออก มองภาพรวมมากขึ้น"ที่เลือกถอยมาเพราะอะไร
"ฟลุคอยากทำธุรกิจของตัวเองมากขึ้น ธุรกิจที่บ้านก็กงสี จริงๆ ธุรกิจแรกคือแว่นตานำเข้า คือ เอสเอ็นอาร์ดี แล้วก็บายแอนด์เอแคร์เจสสิก้า เป็นแว่นตานำเข้าหมด ผมนำมาขายในร้านดิสสิบิวต์ของคุณพ่อ ซึ่งมีทั้งหมด 16 สาขา ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ มีอำนาจในการต่อรองกับซัพพลายเออร์ด้วย หลังทำตรงนั้นลงตัวก็อยากดูแลธุรกิจตัวเองจริงๆ ก็อยากสร้างครอบครัวด้วยครับ ก็เลยคุยกับแอปเปิ้ล มาทำธุรกิจดีกว่า คบน้องมา 6 ปี น้องก็เห็นด้วย อยากทำธุรกิจด้วยกัน มันเป็นวัยอยากสร้างตัว คือ ฟลุคเองมองธุรกิจคุณพ่อก็เป็นของทางบ้าน แต่ฟลุคอยากสร้างตัวดัวยธุรกิจของตัวเองครับ"แล้วทำไมถึงมาเป็น เซ็นโทรล คลินิก
"เราจบการตลาดทั้งคู่ ฟลุคจบเอ็มบีเอ แอปเปิ้ลเองก็จบบีบีเอ ที่เอแบ็กทั้งคู่ ป.ตรีผมเรียนวิศวะคอม แล้วมาต่อเอ็มบีเอ แต่ของน้องจบเอ็มบีเอ เรา 2 คน เห็นรุ่นพี่ เพื่อน ในวงการทำเต็มไปหมด ช่วงนั้นฮิตมากเลยทำครีมขาย 3-4 ปีที่แล้ว ใครคิดไม่ออกทำครีมมาสก์หน้าขาย เราก็อยากมีธุรกิจ เลยคิดถึงคลินิกเสริมความงามขึ้นมาเพราะว่าแอปเปิ้ล จะมีคนมาถามตลอดว่าพี่แอปเปิ้ลใช้ครีมอะไร เขียนตาด้วยอะไร เราคิดว่าเราต้องมาลงทางนี้อยู่แล้ว ไลน์บิวตี้คอสเมติก จึงคิดว่าเปิด คลินิก แล้วกัน เริ่มจากซื้อแฟรนไชส์ก่อน เปิดได้เพียง 3-4 เดือนก็ปิดตัวลง ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งการบริหารที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน สินค้าบริการไม่เหมือนที่เราคิด แต่คิดเสมอว่า เราลงทุนไปแล้ว ยอมลงทุนใหม่อีกรอบ เลยตัดสินใจแยกตัวออกมาทำของตัวเอง ปรับเปลี่ยนหน้าร้าน และเพิ่มระบบในการดูแล รวมถึง เครื่องเลเซอร์ที่เราคิดว่าต้องลงทุนเพิ่ม เมื่อก่อนเราไม่มีออฟฟิศ เซ็นต์เช็คก็ออกไปเซ็นต์ข้างนอก ที่ทำงานเราคือ ร้านกาแฟ (หัวเราะ) ซื้อกาแฟแก้วหนึ่งและแอปเปิ้ลก็นั่งทำบัญชีอยู่ข้างๆ เรารู้ความลำบากของพ่อแม่เราตอนทำธุรกิจใหม่ๆ มันเป็นแบบนี้เลย ผมไม่มีเวลาพัก ไปถ่ายละครแฟนก็ทำงาน ทุกคนก็เหนื่อยกันมาก ก็ถือว่าโชคดีที่ธุรกิจมันไปได้ดี มีผลตอบรับที่ดี มีลูกค้าวอร์คอิน ติดตามมาเยอะ จนเราก็เริ่มมีแคชโฟร์ในบริษัทมากขึ้น เลยลงทุนทำออฟฟิศขึ้นมา อยู่ทาวน์อินทาวน์ เป็นตึก 5 ชั้นดูเหมือนจะประสบความสำเร็จเร็วมาก
"ใช่ครับ รีเทิร์นเร็วมากเปิดมาประมาณ 5-6 เดือนก็เริ่มทำออฟฟิศเลย นาฬิกา กระเป๋า แอร์เมส ก็อดทนกับแฟนมาก เราไม่ซื้อของดีกว่า เก็บเงินไว้ลงทุนทำตึก ทำออฟฟิศใหม่ทุกชั้น พอทำออฟฟิศงานก็เริ่มเป็นระบบมากขึ้น เริ่มขยายสาขา เริ่มมองหาสาขาที่ 2 ว่าเป็นที่ไหนดี ตอนแรกก็เล็งไว้ที่ลาว จะไปเปิดสาขาที่เวียงจันทร์ แต่ติดปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องใบอนุญาต อย. บางคลินิกที่ไปก็เหมือนประสบความสำเร็จ แต่เราไม่รู้เบื้องลึก ลูกค้าของเรามาจากฝั่งลาวเยอะมากครับ ตอนแรกตัดสินใจดันทุรังยังไงก็จะไปเปิดสาขาที่ลาว จนตอนหลังก็คิดว่าทำไมเราไม่เอากลุ่มคนอีสานบ้าง ทางฝั่งลาวก็มาทำได้สะดวก เราเลยเปลี่ยนไปเปิดสาขาที่อุดรครับ เพราะถ้าเราไปเปิดสาขาที่ฝั่งลาว คนไทยไม่ข้ามไปทำ แต่ถ้าเราเปิดสาขาที่ อุดรฯ คนลาวข้ามมาทำ แล้วเราได้ในส่วนของจังหวัดใกล้ๆด้วยครับ ได้ทั้งหนองคาย ขอนแก่น จังหวัดใกล้เคียง จึงตัดสินใจเปิดสาขาที่เซ็นทรัล พลาซา อุดรธานี ตอนนี้ เซ็นโทรล คลินิก มี 2 สาขาแล้วครับ ทั้ง เอสพละนาด รัชดา ชั้น M สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 02-660-9144, 096-828-8684 และสาขา เซ็นทรัล พลาซา อุดรธานี ชั้น 3 สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 042-921-486, 096-868-8684 หรือ Line:@CentralClinic"ทำไมใช้ชื่อ เซ็นโทรล คลินิก
"ตอนแรกเราคิดชื่อไว้มากมายเลยครับ ว่าจะเอาชื่อไหนดี อยากได้ชื่อที่จำง่ายและคนต่างชาติจำได้ด้วย หลายคลินิกใช้ชื่อภาษาไทย แต่เรามองตลาดของเราแล้ว คนส่วนใหญ่ที่ตามไอจี เออีซี หมดเลย เลยตั้งโจทย์เป็นภาษาอังกฤษก่อน มองครั้งเดียวต้องจำได้ เลยตั้งเซ็นโทรล คลินิก กลุ่มลูกค้าอังกฤษเข้าคลินิกเราเยอะมาก เปิดโอพีดีทีเป็นร้อยๆ คน กรุ๊ปนอกมาเป็นร้อยๆ คนเลย ครับ ปีหนึ่งเป็นคนต่างชาติทั้งหมด เราก็รีเสิร์จเลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ลูกค้าที่มาใช้บริการก็บอกว่าชื่อจำง่าย ไปเข้าที่อื่นไม่รู้จะมีคนพูดภาษาอังกฤษได้ไหม เราเลยได้กลุ่มลูกค้า มาเลเซีย สิงคโปร์เยอะมาก รวมถึง ไต้หวันและ จีนด้วย จีนเป็นจีนที่อยู่ในกรุงเทพครับ"เซ็นโทรล คลินิก แตกต่างจากที่อื่นยังไง
"วางบริการให้สูง แต่ราคาจับต้องได้ครับ ราคาไม่ต้องแพงมาก แต่เน้นบริการที่ดี พนักงานทุกคนเน้นให้ดีที่สุด เหมือนอยู่คลินิก 5 ดาว แต่เราไม่ใช่คลินิก 5 ดาวครับ เราอยากดูแลและบริการให้รู้สึกถึงขั้นนั้น ให้ลูกค้ารู้สึกว่าจ่ายเงินน้อย แต่มาแล้วคุ้ม จนในที่สุดเราทำได้ เปิดสาขา 2 ที่เซ็นทรัล อุดรธานี และมีแพลนเปิดสาขา 3 สิ้นปีนี้ จุดเด่นของเราอีกอย่างคือการปรับรูปหน้า เรื่องผิวขาวใส วันหนึ่งสมมติว่ามีลูกค้ามาใช้บริการ 30 คน จะมี คนมาทำกลุ่มไวท์เทนนิ่งประมาณ 25 คน เยอะมากครับ ส่วนอีกกลุ่มที่เหลือก็จะปรับรูปหน้า โบท็อกซ์ ร้อยไหม เลเซอร์ครับ และนอกจากบริการที่มีในคลินิกแล้ว เรายังได้มองไปถึงผลิตภัณฑ์ที่เราจะจัดทำ เราจึงมองผลิตภัณฑ์เป็นโฮมยูส ขายได้ทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์อันแรกเลยเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ครับ นอกจากกลูต้าออร่าไวท์ ก็คือเรามีคอร์สออร่าไวท์อยู่แล้ว ซึ่งเป็นคอร์สที่ขายดีที่สุด เราเลยเอาคอร์สนี้ใส่ไปในชื่อผลิตภัณฑ์ของเรา แล้วขายทั่วประเทศ ตัวนี้ผลิตมาเดือนที่แล้วและเริ่มจำหน่ายไปแล้วครับ ตอนนี้กำลังจะวางจำหน่ายทั่วประเทศ เป็นอาหารเสริมแบบเม็ด ให้ลูกค้ากลุ่มคลินิกของเราซื้อกลับบ้านได้ กลุ่มที่สองคือลูกค้าที่เป็นแฟนคลับคลินิกเราอยากมาทำแต่อยู่ต่างจังหวัด อย่างเช่น ต้องบินมาจากเชียงใหม่ ภูเก็ต ถ้าเราเปิดสาขารองรับไม่ทัน ก็ให้ลูกค้าซื้อไปทานก่อนได้ครับ แล้วเราจะกระจายไปทั่วประเทศ ก็มองว่าน่าจะประมาณต้นเดือนกรกฎาคม จะเห็นวางจำหน่ายแล้ว เพราะตอนนี้คุยกับดิสบิวเตอร์เรียบร้อยครับ พอร์ตการขายของเขาก็ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากธุรกิจหลักของเรา ซึ่งธุรกิจหลัก ก็ คือคลินิก และต่อยอดออกมาเป็น อาหารเสริม ครีมบำรุง โปรดักซ์ อนาคตเราอาจจะมีเวย์โปรตีนของผู้ชายด้วยนะครับ แต่ตอนนี้ขอให้แบรนด์เราแข็งแรงก่อน เหมือนซีพี อะไรก็เป็นซีพีได้หมด เราก็เป็นเซ็นโทรลคลินิกได้หมด แต่ขอเริ่มจากความแข็งแรงของแบรนด์ก่อนนะครับวางไว้กี่สาขาสำหรับการขยาย เซ็นโทรล คลินิก
ธุรกิจนี้เปิดมา 2 ปีแล้วครับ ตอนนี้มี 2 สาขาที่ เอสพละนาด ชั้น M กรุงเทพ และ ที่ อุดร ปีนี้ตั้งใจไว้ว่าจะเปิดอีกหนึ่งสาขา ในกรุงเทพครับ เราแพลนไปเรื่อยๆ อยู่ที่ว่าเรามีกำลังเท่าไหร่ ตอนนี้ฟลุคกับแอปเปิ้ลไม่อยากมีหนี้ เราก็ต้องขยายสาขาหรือขยายการลงทุนจากกำไรที่เราได้ เราก็กดดันตัวเอง ไม่ต้องไปกู้ กดดันสร้างยอดขายเพื่อขยายธุรกิจ อย่างการเปิดสาขาที่ เซ็นทรัล พลาซา อุดรธานี เงินเราหมดเลย เราก็เอากำไรไปลงทุน เราไม่สร้างหนี้ครับ เราเพิ่มธุรกิจจากยอดขายของเราเองดีกว่า ผมว่าเป็นหลักการทำที่โอเคนะ ไปช้าๆ ไม่ต้องโลดโผน แล้วก็ไม่เสี่ยงมาก เราไม่อยากเอาชีวิตมาเสี่ยงกับตรงนี้ ปีหน้าเราจะแต่งงาน เราอยากมีเงินไปแต่งงาน ไม่อยากมีหนี้สิน(หัวเราะ) เราก็ต้องคิดว่าเก็บส่วนหนึ่งสำหรับการลงทุน และเก็บอีกส่วนหนึ่งเข้าตัวเอง ช่วงนี้ก็ใช้เงินน้อยหน่อย กระเป๋าก็ให้น้องเพลาๆ นาฬิกาก็ใส่เดิมๆ ไปก่อน อย่าเพิ่งไปซื้อใหม่ เรามองที่อนาคตของเราสำคัญกว่า แทนที่จะไปซื้อนาฬิกาเป็นแสน เราเก็บเงินไว้ไปลงทุนเพื่ออนาคตดีกว่าครับนอกนั้นเห็นว่ามีธุรกิจอื่น
"นอกจากธุรกิจหลักเรา ผมหุ้นกับเพื่อนๆ ทำฟิตเนสค่ายมวย เฮลธ์มี แอคทีฟ ตอนนี้เปิดบริการอยู่ 2 สาขาครับ มีที่วิภาวดี 64 หน้าปากซอยเลย อีกหนึ่งที่ คือ เบส มินตัน ศรีนครินทร์ อยู่ในซอยตรงข้ามพาราไดร์พาร์คศรีนครินทร์เป็นธุรกิจที่เราจับพลัดจับผลูมาทำ บอกตรงๆ ว่าเราไปฟิตเนสที่เฮ้วส์มีฟิตเนส ตอนนั้นมีเวียร์ พี่บ๊วย พี่ซีหุ้นกันในนั้น เราเป็นคนชอบออกกำลังกายก็ไปเล่นฟิสเนตเป็นประจำ ก็เกิดแนวคิดขึ้นมาว่าอยากทำค่ายมวย ก็ต้องหาคนทำ หาอะไร เพื่อนๆ เลยชักชวนมาทำ ก็มีกรุ๊ปนี้แหละครับ เวียร์ พี่บ๊วย พี่ซี กับผม เป็น 4 คน เป็น 4 หุ้น เป็นหุ้นดาราครับ"คิดอยากทำอะไรอีก
"จริงๆ อิงตามเทรนด์โลกครับ ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จอีกนานคือสุขภาพและความงาม ทำอะไรก็อยู่ในกฎเกณฑ์นี้ เราก็ถือว่าเราถนัดทั้งคู่ เราชอบออกกำลังกาย เขาก็ชอบความสวยความงาม เราทำแล้วไม่เบื่อ เราไม่มีแบบไม่ชอบอะไรเลย เราทำแล้วเรามีความสุข ก็จะมีในส่วนของเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องการทำงาน คนทำงาน ระบบการทำงานของสต็อก เป็นเรื่องที่เราต้องปรับระบบให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น แต่เรื่องที่เราชอบ เราไม่เบื่อเลยครับ เราไปดูงานแฟร์นี่ละลานตา อยากซื้อมาใช้ที่คลินิก ไปเจออะไรใหม่ๆ ครีมลอกหน้าสารพัด เครื่องเลเซอร์ใหม่ๆ เวลาเราไปเดินงานแฟร์ที่เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ ตอนนี้ก็ยังไปอยู่ ไปอัพเดตนวัตกรรมและคู่แข่งหลายอย่างเพื่อนำมาพัฒนาให้คลินิกเราดียิ่งขึ้นครับทำไมลูกค้าต้องมาใช้บริการที่นี่
จริงๆ สองปีที่ผ่านมาผมพยายามพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์คลินิก ว่าของเรา เป็นคลินิกที่ปลอดภัย เป็นคลินิกที่ทำแล้วเห็นผลจริงๆ ไม่ได้หลอกคนมาทำ ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะเจอ และเขารู้สึกว่ากลัว คลินิกที่เข้ามาแล้วโดนฟัน ฟันราคาเยอะไม่พอ เอาของที่ดีมาใช้ให้เราหรือเปล่าก็ไม่รู้ เราจึงเน้นเรื่องนี้ครับ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กับกลุ่มลูกค้าประมาณ 4 พันกว่าคนเป็นกลุ่มลูกค้าที่เขาบอกต่อ เราเห็นการบอกต่อแล้วเรารู้สึกว่า 2 ปีที่ผ่านมาเราได้พิสูจน์ตัวเองแล้วนะ ว่าเราเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง คนที่เคยสนใจแต่ยังไม่มั่นใจ ตอนนี้คนกลุ่มนี้ก็เริ่มมั่นใจที่จะเดินเข้ามาใช้บริการ ส่วนคนที่ไม่เคยสนใจเรา ก็เริ่มให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น และกลุ่มลูกค้าที่ลังเลจะเข้ามา เราก็อยากจะบอกว่าสินค้าของเรา เวชภัณฑ์ของเรา เราใช้สินค้าที่มีอย. ทั้งหมด ไม่ใช่บางคนที่มีอย.อเมริกา แต่ว่ายังไม่ผ่านอย. ไทย ก็เป็นคลินิกผิดกฎหมาย เราเหมือนอยู่ในที่แจ้ง เราต้องทำให้ถูกต้องทุกอย่าง อะไรที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเขาแนะนำมา เป็นกฎหมายเราก็ต้องทำตาม เราไม่ใช่คลินิกเถื่อนที่เวลามีปัญหาก็ปิดไป เราทำแบบนั้นไม่ได้ครับ ก็อยากให้ทุกคนมั่นใจ อย่างน้อยตัวฟลุคและตัวแอปเปิ้ลเองก็การันตีว่าเรายังอยู่บนโลกนี้อีกนาน ไม่ไปไหนแน่นอน ผลิตภัณฑ์ที่เราทำถ้ามีปัญหาเราก็ยังอยู่ตรงนี้ เราไม่ได้มีปัญหาแล้วเลิกไป เราเลิกไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราอยากให้ทุกคนมั่นใจในสินค้าและบริการของเรา เพราะสินค้าและบริการทุกอย่างผ่านการทดลองโดยแอปเปิ้ลทั้งหมดครับ และผ่านการคิดวิเคราะห์จากฟลุคด้วยเช่นกันครับ เราสองคนช่วยกัน และทั้งหมดนี้น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้ลูกค้ามั่นใจที่จะเข้ามาใช้บริการที่เซ็นโทรล คลินิกครับ"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit