นายวสันต์ สิงคเสลิตรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ด้วยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงประทานคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาผู้ต้องขังที่จะพ้นโทษให้มีวิชาชีพติดตัว โดยเล็งเห็นว่าอาชีพเกษตรกรรมเป็นพื้นฐาน ที่ผู้ต้องขังสามารถนำความรู้กลับไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเองได้และเมื่อพ้นโทษแล้วสามารถใช้ชีวิตร่วมกับสังคมภายนอกได้อย่างปกติสุข จึงมีพระดำริในการสร้างโอกาสให้กับผู้ต้องขังได้รับความรู้และฝึกทักษะการทำงานด้านการเกษตรอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยให้มีการจัดตั้งและดำเนินโครงการศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่และสุกรขุน ณ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ โดยโครงการดังกล่าวจะเป็นต้นแบบในการนำเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ได้มาตรฐานสากลมาใช้ในฟาร์มและระบบบริหารมาตรฐานในการจัดการฟาร์มให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งองค์ความรู้เหล่านี้จะมีการถ่ายทอดให้กับผู้ต้องขังเพื่อให้เกิดทักษะและความรู้ในการนำไปประกอบอาชีพหลังพ้นโทษออกไป
ในการนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ จะเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการเลี้ยงสัตว์ การเพาะปลูก และการบริหารจัดการฟาร์มที่ทันสมัย รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมและสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยผู้ต้องขังจะได้รับการฝึกทักษะจนเกิดความเชี่ยวชาญ
ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว ฯ เครือเจริญโภคภัณฑ์ จะเป็นผู้รับผิดชอบการจัดสร้างศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรกรรรมฯ ในพื้นที่ที่กำหนด สนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ให้มีความหน้า รวมไปถึงกำกับและติดตามการดำเนินงานของศูนย์ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
สำหรับกรมราชทัณฑ์ จะเป็นผู้จัดเตรียมพื้นที่และคัดเลือกผู้ต้องขังที่มีความพร้อมเหมาะสม เข้ารับการอบรมและฝึกทักษะในโครงการดังกล่าวฯ ขณะเดียวกันจะติดตามประเมืนผลความก้าวหน้าของร่วมมือเพื่อและปรับปรุงแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน เพื่ออำนวยความสะดวกโครงการให้มีความเจริญก้าวหน้า
"การดำเนินงานครั้งนี้ ยังสามารถตอบโจทย์การพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายและหลักการพัฒนาของสหประชาชาติหลังปี พ.ศ. 2558 ที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals - SDGs) และเป็นทิศทางการพัฒนาก้าวทันโลกในอนาคตข้างหน้า โดยดำเนินโครงการก่อสร้างและพัฒนาทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริกให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในประเทศภายใต้การบริหารงานของกรมราชทัณฑ์ และโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา" นายวสันต์ กล่าวทิ้งท้าย
นายสมควร ชูวรรธนะปกรณ์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจสุกร บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ จะนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจด้านเกษตรอุตสาหกรรมแบบครบจร มาสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้แห่งนี้ให้พร้อมด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและวิธีบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยจะมีความเชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงสัตว์และผู้เชี่ยวด้านการบริหารมาเป็นวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้และฝึกทักษะให้กับผู้ต้อง
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะเป็นผู้ทำแผนการใช้พื้นที่ การออกแบบกก่อสร้างโรงเรือน ติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องตามาตรฐานภายใต้ความตกลง กล่าวคือ ร่วมดำเนินการโครงการเลี้ยงสุกรขุน จำนวน 2,400 ตัว โครงการเลี้ยงไก่ไข่ จำนวน 100,000 ตัว พร้อมจัดหาพันธุ์สัตว์ อาหาร ยา วัคซีนและเวชภัฑณ์ต่างๆ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้ต้องขัง และ จัดทำโครงการสร้างระบบแก๊สชีวภาพจากมูลไก่ไข่และสุกร ซึ่งช่วยในการบำบัดของเสียที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์ และเป็นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ในการลดกลิ่น ลดแหล่งเพาะเชื้อโรค ลดผลกระทบต่อชุมชน และแก๊สที่ได้จากระบบไบโอแก๊ส ยังสามารถนำมาเป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าใช้ ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าภายในฟาร์ม
นอกจากนี้ยังมีการจัดทำโครงการศูนย์เรียนรู้การปลูกทุเรียนและพืชเสริม(กล้วย) มีการออกแบบการใช้พื้นที่และวางระบบการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก และฝึกอบรมกรีดยางพารา และ โครงการสร้างศูนย์เรียนรู้การเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาเป็นเกษตรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
โครงการความร่วมมือนี้ มุ่งหวังเพื่อให้ผู้ต้องขังได้เรียนรู้และฝึกทักษะวิชาชีพด้านเกษตรกรรม ด้านการเลี้ยงสุกรขุน เลี้ยงไก่ไข่ ในรูปแบบฟาร์มสมัยใหม่ รวมถึงการปลูกพืชตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาเป็นเกษตรอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยประสงค์ให้ผู้กระทำผิดที่ใกล้พ้นโทษ สามารถออกไปประกอบอาชีพสุจริต และเพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรกรรมต้นแบบ รวมถึงยังสามารถเป็นแหล่งศึกษาดูงานให้กับบุคคลทั่วไป./
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit