ไฮคิว 1 พลัส ซูเปอร์ โกลด์ จึงจัดงาน "ไฮคิว 1 พลัส เชปปิ้ง เดสทินี" (Hi-Q 1 Plus Shaping Destiny) แนะนำโซลูชั่นส์ใหม่ที่จะเป็นเสมือนโค้ช ที่ช่วยสนับสนุนคุณแม่เข้าถึงข้อมูลสำคัญทั้งด้านโภชนาการ และวิธีการเลี้ยงลูกที่เหมาะกับยุคนี้
นางสาวเรืองรัตน์ ว่องสุวรรณเลิศ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดูเม็กซ์ จำกัด ประเทศไทย กล่าวว่า "ไฮคิว 1 พลัส ซูเปอร์โกลด์ พร้อมเคียงข้างคุณแม่ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ลูกน้อยทั้งด้านร่างกายและจิตใจเพื่อเป็นพลังสู่ความสำเร็จในอนาคต ผ่านโซลูชั่นส์ที่มีจุดเด่นทั้งด้านโภชนาการและพัฒนาการ โดยด้านโภชนาการนั้นพัฒนาโดย สถาบันนิวทริเซีย ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านโภชนาการช่วงแรกของชีวิต โดยผลิตภัณฑ์จะมีสัดส่วนของดีเอชเอ และซินไบโอติกเอกสิทธิ์เฉพาะที่พัฒนาอย่างเหมาะสม เพื่อตอบโจทย์แม่ที่ต้องการ ให้ลูกรักมีร่างกายที่แข็งแรง เพื่อช่วยสกัดกั้นอุปสรรคต่างๆ ที่จะแทรกแซงพัฒนาการของลูก
ในส่วนของพัฒนาการ ทีมไฮคิว 1 พลัส ซูปเปอร์โกลด์ ได้ร่วมมือกับแพทย์พัฒนาการเด็ก และนักจิตวิทยาชั้นแนวหน้าของไทยเป็นเวลากว่า 1 ปี ในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น Today for Tomorrow (ทูเดย์ ฟอร์ ทูมอโร) เพื่อเป็นแนวทางช่วยคุณแม่ดูแลลูกโดยมีจุดเด่นคือการชี้แนะแนวทางการเลี้ยงลูกเชิงบวก เพื่อสร้างวินัย และส่งเสริมพัฒนาการที่ดีรวมถึงแบบทดสอบวัดแวว ที่จะช่วยให้คุณแม่ประเมินความชอบ ความสนใจของลูก เพื่อที่จะส่งเสริมให้เป็นความถนัดและทักษะในอนาคต คุณแม่ทุกคนสามารถใช้แอปพลิเคชั่นนี้ฟรีเพื่อสร้างผู้นำในอนาคตตั้งแต่วันนี้"
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรางสาธารณสุข กล่าวว่า "หลักสำคัญในการเลี้ยงลูกคือ พ่อแม่ต้องเริ่มต้นด้วยความรักความผูกพัน เพราะความสุขและทัศนคติที่ดีของลูกจะเป็นแกนกลางสำคัญสำหรับการสร้างความสำเร็จของเขาอย่างยั่งยืน ความใกล้ชิดจะช่วยให้พ่อแม่มองเห็นความชอบและความถนัดของลูกได้อย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อพบแล้วก็ควรส่งเสริมหรือกระตุ้นให้ลูกได้ลองเรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำสิ่งที่ยากและท้าทายยิ่งขึ้น ให้เขาได้แก้ปัญหา ได้ลองผิดลองถูกในเรื่องที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มพูนทักษะด้วยตนเอง โดยพ่อแม่สามารถร่วมเรียนรู้ สนุกไปกับลูก สร้างบรรยากาศของการชื่นชมและเป็นกำลังใจ จะทำให้เขามีความมั่นใจ ภูมิใจในตนเอง และมุ่งมั่นที่อยากจะประสบความสำเร็จด้วยตนเอง
เด็กบางคนอาจแสดงความถนัด หรือ ความสนใจของตนเองอย่างเด่นชัดได้ตั้งแต่ไม่กี่ขวบปีแรก เช่นเด็กที่มีแววนักคิด ซึ่งมักจะมีไอคิวสูง เรียนรู้เร็ว ช่างสังเกต สนใจเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวตลอดเวลา มีสมาธิดี ความจำดี พ่อแม่ควรส่งเสริมให้ลูกมีประสบการณ์ที่หลากหลาย และสนับสนุนให้ทำกิจกรรมที่ท้าทายความคิด เช่นการต่อจิ๊กซอว์ที่ยากขึ้น การเล่นเกมส์หรือต่อบล๊อกเป็นรูปทรงต่างๆ ที่ซับซ้อนขึ้นเด็กที่มีความสามารถด้านภาษาหรือการสื่อสาร อาจจะพูดได้เร็วกว่าเด็กวัยเดียวกัน มีคำศัพท์ที่ก้าวหน้าเกินวัย พ่อแม่ควรสนับสนุนให้ลูกสนุกสนานกับการอ่านและการเล่านิทาน ชักชวนลูกพูดคุยและตั้งคำถามให้ลูกคิดและตอบ นอกจากนี้ควรที่จะใช้การเรียนรู้ภาษาไปเชื่องโยงกับการพัฒนาการลูกในด้านอื่นๆ ด้วย เช่นการสื่อท่าทางประกอบคำ หรือ การอธิบายงานศิลปะ ซึ่งเป็นการส่งเสริมด้านการแสดงออกและด้านศิลปะไปด้วยในตัว"
แม้ในเด็กบางคนที่ซุกซน ชอบปีนป่าย กระโดดโลดเต้น ความใกล้ชิดและการรู้จักวิธีเล่นกับลูกอาจเป็นวิธีที่ช่วยพ่อแม่ช่วยส่งเสริมแววความเป็นนักกีฬาให้เด่นชัดได้ในอนาคต
สำหรับเด็กที่ยังไม่ฉายแววความถนัดในด้านหนึ่งเลย พ่อแม่ก็ไม่ต้องกังวล อย่ากดดันลูกเพราะจะเป็นการบั่นทอนความรู้สึกและความมั่นใจ ในทางตรงกันข้ามความรัก ความอ่อนโยนใกล้ชิด และความช่างสังเกตุของพ่อแม่จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เขาค่อยๆ มีความพร้อมและค้นหาความชอบหรือความถนัดของตนเองได้ในที่สุด"
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit