รมช. กระทรวงพาณิชย์ ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ กล่าวว่าประเทศไทย 4.0 จะมุ่งเน้นการลงทุนด้านบุคลากร

12 Sep 2016
ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในปาฐกถาพิเศษที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2559 ว่า การเปลี่ยนแปลง ประเทศไทย 3.0 ไปเป็น ประเทศไทย 4.0 จะต้องเน้นการลงทุนด้านบุคลากร เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่อ ด้านทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านความรู้ ซึ่งจะช่วยประชาชนเปลี่ยนแปลงจากการทำการเกษตรแบบดั้งเดิมไปเป็นการเพาะปลูกแบบอัจฉริยะ เปลี่ยนจากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไปเป็นวิสาหกิจเชิงนวัตกรรม อีกทั้งเกษตรที่เน้นเทคโนโลยีให้แรงงานฝีมือต่ำกลายเป็นแรงงานที่มีความรู้
รมช. กระทรวงพาณิชย์ ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ กล่าวว่าประเทศไทย 4.0 จะมุ่งเน้นการลงทุนด้านบุคลากร

ดร.สุวิทย์แสดงวิสัยทัศน์ของโมเดลประเทศไทย 4.0 ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเป็นการประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงจากแอนะล็อกไทยแลนด์ไปเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ การลงทุนต่างๆทางด้านเทคโนโลยีจะเน้นทางด้านอาหาร การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ สุขภาพ การมีสุขภาพแข็งแรงและวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ เครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติและเมคาทรอนิกส์ เทคโนโลยีดิจิทัล อินเทอร์เน็ตสำหรับสิ่งของ ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว และงานบริการทางด้านวัฒนธรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์และมีมูลค่าสูง โดยจะเน้นทางด้านโครงสร้างพื้นฐานเชิงสังคม และสร้างสังคมที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วม ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของระบบสวัสดิการ

ดร.สุวิทย์ซึ่งได้อธิบายคำว่าประเทศไทย 4.0 ว่า "เป็นการก้าวเข้าสู่ความเจริญเติบโตในศตวรรษที่ 21 ผ่านความมั่นคง ความมั่งคั่งและความยั่งยืน" และยังได้ยกตัวอย่างถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน อินเดียและเกาหลีใต้ อีกทั้งกล่าวว่าเศรษฐศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ของประเทศไทยจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของสามเสาหลักคือ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงต่างๆจะครอบคลุมถึงการปฏิรูปเศรษฐกิจ การยกระดับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกทั้ง "งานวิจัยและพัฒนา" นอกเหนือจากการปฏิรูปการศึกษา

"ความต้องการโมเดลประเทศไทย 4.0 เกิดขึ้นเนื่องจากประเทศไทยจำเป็นที่ต้องก้าวพ้นกับดักของประเทศรายได้ปานกลาง ตลอดจนกับดักของความไม่เท่าเทียมกัน และต้องแก้ไขความไม่สมดุลย์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ" ท่านรมช.กล่าว และเสริมอีกว่าประเทศไทยสามารถบรรลุผลในเรื่องดังกล่าวได้โดยการสร้างเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวที่เน้นการมีส่วนร่วม

การผลักดันทางยุทธศาสตร์ของโมเดลประเทศไทย 4.0 จะรวมถึงการเชื่อมโยง (ระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาคและระดับโลก) และการสร้างองค์กรเชิงนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดยภาคประชาชน ในด้านการค้า ประเทศไทยจะพยายามยามเปลี่ยนจากพรมแดนให้กลายเป็นสะพาน ท่านรัฐมนตรีช่วยสุวิทย์ยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงสี่ประการ จากตลาดระดับชาติสู่ตลาดระดับโลก จากข้อกำหนดด้านการค้าสู่การอำนวยความสะดวกด้านการค้า จากการเพิ่มมูลค่าเป็นการสร้างมูลค่า และการเปลี่ยนแปลงจากการขายสินค้าไปเป็นขายงานบริการดร.สุวิทย์ได้กล่าวถึงบทบาทของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ในการบรรลุวิสัยทัศน์ของโมเดลประเทศไทย 4.0 ด้วย

ศ.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย อธิการบดีสถาบันเอไอที ได้กล่าวขณะต้อนรับ ดร.สุวิทย์ ว่าสถาบันเอไอทีมีความกระตือรือร้นที่จะได้รับข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับประเทศไทย 4.0 "ในขณะที่ช่วงประเทศไทย 1.0 เน้นในการเพิ่มผลผลิตของภาคเกษตรกรรม ในช่วงประเทศไทย 2.0 เน้นอุตสาหกรรมเบา ในช่วงประเทศไทย 3.0 เน้นอุตสาหกรรมหนักเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ช่วยเปลี่ยนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่สถานะประเทศที่มีรายได้ปานกลาง" ศ.วรศักดิ์กล่าว "จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้รับฟังข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เป็นทั้งริเริ่มและผลักดันนโยบายโมเดลประเทศไทย 4.0 โดยตรง" ศ.วรศักดิ์กล่าวเสริม

อธิการบดีสถาบันเอไอทียังกล่าวถึงวิธีการจัดตั้งโครงการเมืองนวัตกรรมอาหารเพื่อสนับสนุนการผลิต การแปรรูปและการตลาดสินค้ามูลค่าเพิ่มทางการเกษตร ภายใต้ความริเริ่มประเทศไทย 4.0 รัฐบาลไทย ทั้งนี้สถาบัน เอไอทีได้ลงนามในข้อตกลงกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในโครงการดังกล่าว และสถาบันเอไอทีได้เสนอที่จะเป็นสถานที่ตั้งศูนย์นานาชาติเพื่อความมั่นคงและคุณภาพอาหารแบบบูรณาการ (International Center for Integrated Food Safety and Quality) เพื่อสนับสนุนโครงการเมืองนวัตกรรมอาหารด้วย

รมช. กระทรวงพาณิชย์ ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ กล่าวว่าประเทศไทย 4.0 จะมุ่งเน้นการลงทุนด้านบุคลากร