นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICONเปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ TMAN ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มไทคอน ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยมีการปรับเปลี่ยนทีมงานบริหารเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับการบริหารกอง TREIT ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยทีมนำโดยนายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ ทั้งนี้ทีมผู้บริหารชุดใหม่มีจุดแข็งที่ผสมผสานทั้งด้านการเงิน การลงทุน การบริหารกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และที่สำคัญ คือ มีความรู้ ความเข้าใจ และเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการบริหารกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เช่นนี้ จึงมั่นใจว่า ผู้บริหารและทีมงานบริหารชุดปัจจุบันนี้จะสามารถเดินหน้าบริหารสินทรัพย์ในกอง TREIT ให้ได้ผลประโยชน์ที่ดีกับนักลงทุนได้อย่างเต็มศักยภาพ และผลักดันให้องค์กรเป็นผู้นำในธุรกิจ REIT Manager ในระดับแนวหน้าได้อย่างแน่นอน
ด้าน นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ TMAN ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ TREIT กล่าวว่า "สำหรับดีลสำคัญของ TMAN ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 นี้ คือ กองทรัสต์ TREITจะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ในทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าจาก TICON และ TPARK ซึ่งเป็นโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า รวมจำนวน 28 ยูนิต พื้นที่ทั้งหมด 69,021 ตารางเมตร มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 1,443.20 ล้านบาท โดย TREIT จะใช้เงินลงทุนจากการออกหุ้นกู้เพื่อเสนอขายแก่นักลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ในวงเงินไม่เกิน 1,470 ล้านบาท ระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ TMANได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ครั้งที่ 1/2559 ในวันที่ 22 กันยายนนี้ เพื่อพิจารณาการลงทุนเพิ่มเติมโดยการออกหุ้นกู้ ซึ่งหากมตินี้ผ่านการพิจารณาจากผู้ถือหน่วยทรัสต์ คาดว่า TREIT จะสามารถสร้างมูลค่าสินทรัพย์ให้ได้รับผลประโยชน์ในรูปแบบเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตราที่เพิ่มมากขึ้นได้
อีกทั้ง TREIT จะนับเป็นกองทรัสต์แห่งแรกที่สามารถออกหุ้นกู้ได้สำเร็จโดยคาดว่าการลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งนี้จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้แน่นอน
ทั้งนี้ การลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 2 เป็นไปตามนโยบายการลงทุนของกองทรัสต์ TREIT ที่เน้นการลงทุนในทรัพย์สินประเภทอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานที่มีความพร้อม มีศักยภาพที่ก่อให้เกิดรายได้แก่กองทรัสต์ฯและก่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยทรัพย์สินดังกล่าวมีอัตราการเช่าพื้นที่อาคาร (Occupancy Rate) ปัจจุบันเฉลี่ยที่ร้อยละ 100 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและคมนาคมที่สำคัญอาทิ ระยอง ชลบุรี อยุธยาและสมุทรปราการ จะเอื้อให้ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นที่ต้องการของตลาด ทำให้กองทรัสต์TREIT มีโอกาสรับรายได้ค่าเช่าและค่าบริการจากทรัพย์สินดังกล่าวต่อเนื่องไปในอนาคต
บริษัทฯ ยังมีแนวคิดในการนำทรัพย์สินทั้งในและนอกกลุ่มไทคอนทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาเพิ่มเติมในกองทุน TREITอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมองโอกาสในการแปลงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มไทคอนทั้งกองทุน TFUND TLOGISและ TGROWTH เข้ามาในกอง TREIT ด้วย หากรัฐบาลขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษีและค่าธรรมเนียมการโอนในการแปลงสภาพกองรีทที่จะหมดอายุสิ้นปี 2559 ออกไปอีก 1 ปี ซึ่งหากดำเนินการสำเร็จจะทำให้ขนาดกอง TREIT มีขนาดสินทรัพย์แตะระดับ 30,000 ล้านบาททันที ซึ่งจะส่งผลให้กอง TREIT สามารถก้าวขึ้นมาแข่งขันระดับภูมิภาค ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
"เรามองว่ากอง TREIT ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากกลุ่มไทคอนมีทรัพย์สินอยู่ในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ และด้วยประสบการณ์บริหารจัดการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าคุณภาพสูงที่ยาวนานกว่า 26 ปี จนก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาด ทำให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่ไทคอนได้ขยายการลงทุนไปด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญของกลุ่มไทคอน" นายพีระพัฒน์กล่าวสรุป
ปัจจุบัน TMAN บริหารกองทรัสต์ TREIT ที่เข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าคุณภาพสูงของกลุ่มไทคอนที่มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 7,687 ล้านบาท (ณ เดือนกรกฎาคม 2559) และขณะนี้ TREIT เป็นกองทรัสต์แห่งเดียวที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตในประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับที่ 'A-' จาก ฟิทซ์เรทติงส์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit