สำหรับงานในปีนี้ได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "มาตรการจัดการ การคอร์รัปชันของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม" พร้อมรับฟังผลงานของทั้งภาครัฐและเอกชนจาก พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ที่จะรณรงค์ให้คนไทยทั่วประเทศร่วมต่อต้าน คอร์รัปชัน เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือที่ดีและการวางเป้าหมายเพื่ออนาคตร่วมกันของคนไทยทุกภาคส่วน
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า "ในเดือนกันยายนของทุกปี จะเป็นวาระสำคัญที่คนไทยผู้รักชาติต้องมาร่วมแสดงพลังในวันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ ซึ่งจัดต่อเนื่องขึ้นเป็นประจำในทุกปี โดยในปีนี้เป็นปีที่ 6 ภายใต้แนวคิด 'กรรมสนองโกง' กฏหมายจะลงโทษ กฏแห่งกรรมจะตามไปลงทัณฑ์ คนโกงชาติกำลังโดนกรรมตามสนอง เพื่อเตือนสติคนโกงและสังคมว่าผลของกรรมมีจริง กรรมจะตามสนองในชาตินี้ไม่ต้องรอชาติหน้า กรรมโกงของคนทุจริตกำลังโดนกฏหมายตามลงโทษอยู่อย่างจริงจัง เด็ดขาด และรวดเร็ว ตามที่เราได้อ่านได้ฟังจากการรายงานของทุกสื่อในประเทศ"
นายประมนต์ กล่าวถึงงานวันต่อต้านคอร์รัปชันในปีนี้ว่า "งานที่จัดขึ้นในวันนี้ถือเป็นงานสำคัญของชาติ เป็นงานที่เราทุกคนไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่ออนาคตของประเทศเรา เป็นการรวมพลังครั้งประวัติศาสตร์ของประชาชนคนไทยที่ต้องการเปลี่ยนสังคมไทยให้ปราศจากการทุจริตคดโกง โดยรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวอีกระดับด้วยการเป็น Active Citizen พลังพลเมืองตื่นรู้ต่อต้านคอร์รัปชันด้วยการตระหนักรู้ในหน้าที่ ซื่อตรงต่อวิชาชีพ อย่ายอมให้ใครเอาเงินมาซื้อศักดิ์ศรีไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าความเสียหายของประเทศ ปลูกฝังพลเมืองให้มีจิตสำนึกรักชาติ ร่วมเป็นหูเป็นตาในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศต้องเป็นผู้ขับเคลื่อน หากประชาชนนิ่งเฉยปล่อยให้การโกงเกิดขึ้นก็จะมีความเลวร้ายเทียบเท่ากับการโกงด้วยตนเอง"
"สำหรับไฮไลท์พิเศษของงาน จะมีการร่วมแสดงพลัง Active Citizen พลเมืองตื่นรู้ต่อต้านการโกงด้วยการ "เปิดไฟไล่โกง" สร้างความสว่างไสวเพื่อไม่ให้มีที่ว่างให้คนโกงไว้เป็นที่หลบซ่อนอีกต่อไป เพื่อตอกย้ำว่าคนที่กระทำความผิดทุจริตต่อประเทศชาติจะต้องได้รับผลของการกระทำ ทั้งบทลงโทษทางกฏหมายและกฏแห่งกรรม ซึ่งในปีนี้มีตัวอย่างของ 6 คดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนชาวไทยและถูกบรรจุอยู่ใน "พิพิธภัณฑ์กลโกงชาติ 2559" ได้แก่ 1) คดีเครดิตยูเนี่ยน 2) คดีโกง VAT 4,300 ล้าน 3) คดีทุจริตซื้อปุ๋ย 4) คดียึดบ้าน 5) คดีจำนำข้าว 6) คดีช่วยเลี่ยงภาษี ซึ่งจะเสนอความจริงที่คนทำผิดได้สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติอย่างมหาศาล โดยการตีแผ่เรื่องราวให้ประชาชนได้รู้อย่างทั่วถึง พร้อมรับชมพิพิธภัณฑ์กลโกงชาติ ดิจิตอล เผย 15 คดีโกง ที่จำลองพฤติกรรมการโกง เพื่อเตือนให้คนไทยได้
ติดตามผลการลงโทษตัดสินได้ที่ www.facebook.com/act.anticorruptionThailand" นายประมนต์กล่าวในที่สุด