นายประวิทย์ สันติวัฒนา กรรมการบริหารกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง(King Rice Oil Group)เปิดเผยถึงที่มาในการสร้างแคมเปญงานสื่อสารการตลาดใหม่ครั้งนี้ว่า "ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ความตื่นตัวในเรื่องการดูแลสุขภาพ ทำให้ตลาดน้ำมันพืชกลุ่มพรีเมี่ยมหรือน้ำมันประกอบอาหารในระดับราคาลิตรละ100 บาทขึ้นไป มีอัตราการเติบโตและการแข่งขันสูงขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าโซเชียลมีเดีย เป็นหนึ่งในช่องทางที่ถูกใช้ในการสื่อสารกล่าวอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งบางเรื่องก็กล่าวอ้างเกินจริงหรือเลื่อนลอยเพราะไม่มีข้อมูลหรืองานวิจัยมาสนับสนุนการกล่าวอ้างนั้นๆ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนและเข้าใจผิด ที่หนักสุดก็จะเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงจนทำให้ผู้บริโภคเกิดการตื่นตระหนกเช่นกรณีที่มีการบิดเบือนว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเชื่อมโยงเข้ากับอันตรายจากกรดไขมันทรานส์ซึ่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดและอาจนำไปสู่การเลือกบริโภคอย่างผิดๆ ที่อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ"
นายประวิทย์ กล่าวต่อไปว่า "ดังนั้น ในฐานะที่เราเป็นผู้บุกเบิกและดำเนินธุรกิจน้ำมันรำข้าวมานานหลายสิบปี และมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวคิง ว่าเป็นหนึ่งในน้ำมันที่มีคุณประโยชน์เพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง เราจึงต้องการนำเสนอให้ผู้บริโภคได้ทราบถึงคุณค่าของน้ำมันรำข้าวคิง ชนิดโอรีซานอล 6,000 พีพีเอ็ม (King Rice Bran Oil – Oryzanol 6,000 ppm)พร้อมกระตุ้นให้ผู้บริโภคเลือกพิจารณาแต่ข้อมูลที่พิสูจน์ได้จริง สามารถตรวจสอบด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ และได้รับการยืนยันจากผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆ"
ในด้านการตลาด นายประวิทย์ ได้กล่าวว่า "สถานการณ์ปัจจุบันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคิงในการขยายตลาดน้ำมันรำข้าวพรีเมี่ยมเพราะผู้บริโภคให้ความสนใจในเรื่องน้ำมันเพื่อสุขภาพมากขึ้นดังนั้น เราสามารถเน้นผลิตภัณฑ์แบรนด์หลักของเรา คือ น้ำมันรำข้าวคิง ชนิดโอรีซานอล 6,000 พีพีเอ็ม (King Rice Bran Oil – Oryzanol 6,000 ppm) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นแตกต่างจากน้ำมันพรีเมี่ยมชนิดอื่นๆอย่างชัดเจน ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงที่กว้างขึ้น"
น้ำมันรำข้าวคิง ผลิตจากรำข้าวที่อุดมด้วยสารธรรมชาติอันมีคุณประโยชน์สูง อย่างโอรีซานอล ไฟโต- สเตอรอล และวิตามินอีซึ่งล้วนมีผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศสนับสนุนว่าสารเหล่านี้ดีต่อสุขภาพอย่างไร นอกจากนั้น น้ำมันรำข้าวคิง ยังมีคุณสมบัติที่ดีอีกมากมาย เช่น มีสัดส่วนกรดไขมันที่เหมาะสมต่อการบริโภค ไม่มีกลิ่นและมีรสชาติเป็นกลาง มีจุดเกิดควันสูง (High Smoke Point)หมายถึงทนความร้อนได้ดี จึงใช้ประกอบอาหารได้ทุกเมนู ไม่ว่าจะใช้ทอด ผัด หรือ ทำน้ำสลัด ซึ่งคุณสมบัติเด่นทั้งหมดนี้ มีข้อมูลและผลวิเคราะห์สนับสนุนอย่างชัดเจนด้วยเช่นกันจึงนับได้ว่าน้ำมันรำข้าวคิงเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริงเพราะดีพร้อมทั้งคุณค่าโภชนาการและคุณสมบัติเด่นนานับประการ
ผู้บริหารกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง กล่าวยืนยันว่า "เรามั่นใจว่าเราเป็นตัวจริงในเรื่องน้ำมันรำข้าว เพราะเราทำน้ำมันรำข้าวอย่างเดียวมาตลอดหลายสิบปี เรามีโรงงานที่ใช้ระบบการผลิตที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกมีห้องแล็ประดับมาตรฐานสากลที่เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือวิเคราะห์วิจัยทางวิทยาศาสตร์อันทันสมัยทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพของน้ำมันรำข้าวคิงให้ตรงตามที่เราบอกได้อย่างมั่นใจ"
แคมเปญ "รู้จริง เลือกคิง" มาจากเรื่องจริง ความจริงของผลิตภัณฑ์ที่จะถูกนำเสนอผ่าน "ผู้รู้จริง"อันหมายถึง ผู้ที่รู้ความจริงของน้ำมันรำข้าวคิง และมีประสบการณ์ในการใช้น้ำมันรำข้าวคิงจริงๆโดยเลือก โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุลเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะโอปอล์เป็นนักแสดงและพิธีกรมืออาชีพมีบุคลิกมั่นใจ ทันสมัย อีกทั้งยังเป็นผู้ใฝ่รู้ที่จะศึกษาค้นคว้าจนรู้จริงในทุกเรื่องที่จะทำ เพื่อให้ผลลัพธ์ของงานสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งบุคลิกลักษณะเช่นนี้ บ่งบอกถึงความเป็น "ตัวจริง" เช่นเดียวกับ "น้ำมันรำข้าวคิง" ที่ผลิตโดยผู้รู้จริงและเชี่ยวชาญ
ที่สำคัญ โอปอล์ได้ศึกษาข้อมูลน้ำมันรำข้าวคิงมาอย่างละเอียด และเลือกใช้น้ำมันรำข้าวคิง ประกอบอาหารให้ครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ผู้ถ่ายทอดความจริงและเรื่องราวดีๆ ของน้ำมันรำข้าวคิงให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเกิดความมั่นใจในทุกความจริง
ผู้บริหารกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิงกล่าวสรุปปิดท้ายว่า "แคมเปญรู้จริง เลือกคิง จะมีการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆทั้งออฟไลน์และออนไลน์ แต่ไฮไลท์จะอยู่ที่คลิปทั้ง 7 ที่ดูสนุกและได้สาระดีๆของน้ำมันรำข้าวคิงควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ผู้ชมได้รับรู้ความจริงของน้ำมันรำข้าวคิงเช่นเดียวกับผู้รู้จริงของคิงทุกคน โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้บริโภคจะเป็นอีกหนึ่ง 'ผู้รู้จริง ที่เลือกใช้น้ำมันรำข้าวคิง'และร่วมแชร์เรื่องราวดีๆที่มีประโยชน์เหล่านี้ไปสู่คนรอบข้าง"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit