สวาดแคทเปิดบ้านทำศึกดาร์บี้แม็ตซ์ต้อนรับบุรีรัมย์ ย้อนรอยแมตซ์ประวัติศาสตร์ กองเชียร์ล้นสนาม

19 Sep 2016
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย พร้อมด้วยสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เปิดบ้านทำศึกแห่งศักดิ์ศรีดาร์บี้แม็ตช์แห่งภาคอีสาน ต้อนรับการมาเยือนของทีมท้อปทรีอย่าง "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" มีบรรดาแฟนบอลเจ้าแมวพิฆาต "สวาดแคท" ร่วมแสดงพลังศรัทธาย้อนรอยประวัติศาสตร์เข้าชมเกมส์แน่นสนามทำสถิติสูงสุดในฤดูกาลนี้ หลังจากที่เคยทุบสถิติกองเชียร์ที่เข้าชมเกมมากที่สุด ขุนพลสวาดแคทยังฟิตเพื่อลุ้นเก็บแต้มใน 5 นัดที่เหลือ ด้านโค้ชมิลอสปลุกเร้าทีมสู้สุดฤทธิ์จบฤดูกาลตั้งเป้าหมายคือติดท็อป 10 ของตาราง
สวาดแคทเปิดบ้านทำศึกดาร์บี้แม็ตซ์ต้อนรับบุรีรัมย์ ย้อนรอยแมตซ์ประวัติศาสตร์ กองเชียร์ล้นสนาม

ผลการแข่งขันในศึกดาร์บี้แมตช์นัดที่ 30 สวาดแคทโชว์แข้งพิฆาตเก็บแต้มได้ตามเป้าเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 โดยเจ้าแมวพิฆาตขึ้นนำก่อนครึ่งแรกในนาทีที่ 30 โดยแข้งของมาร์โก ทักบาจูมี่ หมายเลข 33 และโชว์ฟอร์มก่อนปิดแมชต์ได้สวยงามจากการทำประตูของ บียอร์น ลินเดมันน์ เลี้ยงบอลจากเข้าเขตโทษก่อนฟาดแข้งซ้ายเก็บได้อีก 1 ลูก โดยมาร์โก ทักบาจูมี่ หมายเลข 33 หมดเวลาการแข่งขัน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ชนะ 3-0 เก็บ 3 คะแนนได้สมใจ ในแมตช์นี้เรียกพลังศรัทธาของเหล่าแฟนบอลชาวอีสานได้กว่า 33,029 ชีวิต จากความสำเร็จในเกมนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับทีมทั้งสตาฟโค้ช และนักเตะ ร่วมถึงแฟนบอล ว่าจะสามารถไต่อันดับได้สำเร็จอย่างแน่นอนนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ได้รับการสนับสนุนหลัก คือ มาสด้า มาถึงวันนี้ต้องบอกว่ามาสด้านั้นประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการขายรถยนต์มาสด้าในประเทศไทย แต่สิ่งที่มาสด้าทำมาตลอด คือ การส่งเสริมการกีฬาของประเทศไทย โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลที่มากระโดดเข้ามาปลุกปั้นทีมเล็กๆ ที่ยังไม่มีใครรู้จักมากมายนัก ตั้งแต่อยู่ในลีกดิวิชั่น 2 และก้าวขึ้นมาเล่นในลีกดิวิชั่น 1 จนสามารถก้าวขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดของประเทศในฐานะแชมป์ และเข้ามาโลดแล่นในไทยพรีเมียลีกในฤดูกาลแรกก็สามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นทุบสถิติต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะแฟนบอลที่ต่างหลั่งไหลมาทั่วทุกสารทิศเข้ามาชมเกมส์การแข่งขันจนสร้างสถิติมีแฟนบอลเข้าชมมากที่สุดกว่า 35,000 คน ในเกมส์ต้อนรับทีมแชมป์หลายสมัยอย่างบุรีรัมย์ยูไนเต็ด

ความสำเร็จในการทำตลาดแบบ Sport marketing ของมาสด้าถูกกล่าวขานถึงอย่างรวดเร็ว จากการร่วมสนับสนุนเพื่อสร้างความสำเร็จร่วมกับทีมฟุตบอล "สวาดแคท" นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ซึ่งถือเป็นโมเดลของภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนและตอบแทนสังคม โดยเฉพาะการกล้าตัดสินใจที่นำเอางบประมาณลงไปสู่ระดับท้องถิ่น ซึ่งแทบจะไม่มีใครทำกัน แต่มาสด้ากลับกล้าที่จะแตกต่างจากธุรกิจเจ้าอื่นๆ และพิสูจน์ให้เห็นอย่างเด่นชัดด้วยระยะเวลาเพียง 4 ปี ก็สามารถสร้างทีมเล็กๆ ขึ้นมาเทียบชั้นอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมืองทอง ยูไนเต็ด หรือแม้กระทั่ง ชลบุรี เอฟซี

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่มาสด้าตั้งใจที่จะพัฒนาและยกระดับวงการลูกหนังของเมืองไทย และด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ไม่ยอมแพ้ของทีม "สวาทแคท" เปรียบเสมือนสปิริตนักสู้อันแรงกล้าของชาวมาสด้า ที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ จนกระทั่งก่อเกิดปรากฎการณ์ที่สั่นสะเทือนไปทั้งวงการลูกหนังไทยมากมาย อาทิ ด้วยฝีเท้าพิฆาตจนลบล้างอาถรรพ์ที่ว่า แชมป์ลีกวันจะต้องตกชั้นในปีเดียว การเป็นยอดทีมฟุตบอลที่มีแฟนบอลร่วมเชียร์ในสนามสูงสุดเป็นอันดับสองของสโมสรในภูมิภาคอาเซียน, สร้างสถิติแห่งประวัติศาสตร์ของยอดผู้เข้าชมสูงสุดตลอดกาลของไทยพรีเมียร์ลีก และจบฤดูกาลล่าสุดด้วยการครองอันดับ 8 จากฝีเท้าอันยอดเยี่ยมและจิตวิญญาณนักสู้ของพวกเขาได้สร้างความสุข และความภาคภูมิใจให้แก่มวลชนชาวอีสานเป็นอย่างมาก ทุกหนทุกแห่งที่ทีมสวาดแคทอออกศึกภายในสนามจะแน่นขนัดไปด้วยกองทัพสีส้มจนกลายเป็นภาพชินตา เป็นสีสันของวงการลูกหนังเมืองไทย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของมาสด้าเช่นกันที่ได้มีส่วนร่วมต่อสู้ไปด้วยกันรวมถึงศึกดาร์บี้แมตซ์แห่งภาคอีสานในครั้งนี้ด้วย

นายประเสริฐ บุญชัยสุข ประธานสโมสร นคราชสีมา มาสด้า เอฟซี กล่าวว่า ฟอร์มการเล่นของทีมสวาดแคทของเราในฤดูกาลนี้แม้ผลงานตอนต้นฤดูกาลจะไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ ผลคะแนนช่วงนั้นร่วงไปอยู่ในอันดับรั้งท้ายตาราง จนตกอยู่ในพื้นที่เรดโซน แต่ผู้ร่วมทีมทุกคนทั้งนักเตะ สตาฟโค้ช รวมถึงผู้บริหารทีม ไม่เคยถอดใจ หรือหมดหวังแม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะแฟนๆ กลับเทกำลังใจทั้งหมดเพื่อให้ทีมกลับมาแข็งแกร่งให้ได้ โยเฉพาะนักเตะต่างปล่อยสัญชาตญาณนักสู้ออกมา ปลุกขวัญกำลังใจซึ่งกันและกัน ร่วมวางแผนการเล่น ปรับเกม เร่งพัฒนาฝีเท้า ความฟิตของนักเตะทุกคน และอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทีม คือการได้โค้ชฝีมือฉกาจชาวเซิร์บอย่าง มิลอส โจซิค มาเป็นกุนซือนำทัพ ทำให้เราก้าวพ้นจากโซนอันตรายนั้นมาได้

นายมิลอส โจซิค เฮดโค้ชของทีม กล่าวว่า ผมเชื่อมั่นในฝีมือของนักเตะทุกคน ด้วยแรงใจของทุกคนจะสามารถพาทีมไต่ตารางขึ้นมาได้ติดท็อป 10 ของตาราง เราต้องดึงศักยภาพความสามารถของนักเตะออกมาใช้ให้หมดในเกมที่เหลือ และด้วยแรงศรัทธาที่แฟนๆ มีต่อทีมสวาดแคทอย่างไม่สิ้นสุด ประกอบกับเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล เรายังเหลืออีก 4 เกม จากทั้งหมด 34 นัด ที่ผ่านมาเราชนะ 9 เสมอ 5 แพ้ 15 เกมที่เหลือหลังจากนี้เราจะพยายามเก็บ 3 แต้มให้ได้ทุกนัด ซึ่งนัดนี้ก็เช่นเดียวกันเราต่างกระหายในชัยชนะ เราจะสู้เพื่อทีมของเรา เพื่อแฟนบอลของเรา การเปิดบ้านรับการเยือนทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสมือนย้อนรอยศึกดาร์บี้แมตช์แห่งประวัติศาสตร์อีกครั้งพร้อมๆ กับแฟนบอล ผลการแข่งขันไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด แต่การเล่นเพื่อชัยชนะคือสิ่งที่เราต้องมุ่งมั่น เกมนี้ทุกคนต้องสู้ให้ถึงที่สุด

หลังจากนี้ทีมสวาดแคทจะไปเยือนทีมพัทยายูไนเต็ด ณ สนามเทศบาลเมืองหนองปรือ ในวันที่ 25 กันยายน 2559 นี้ เวลา 18.00 น. ยังคงลุ้นไปกับเจ้าแมวพิฆาตว่าจะโชว์พลังฝีเท้าไต่อันดับได้สำเร็จหรือไม่ ซึ่งมาสด้าเชื่อว่ากองเชียร์สวาดแคทที่เหนียวแน่นจะเป็นแรงผลักดันให้ทีมก้าวขึ้นสู่จุดหมายสูงสุด