"เมื่อปลายปี 2558 ทรัพย์สินสุทธิของกองทุนดังกล่าว มีราว 1,300 ล้านบาทเท่านั้น แต่เมื่อเข้าปี 2559 จนถึงสิ้นสุดเดือนสิงหาคม ยอดซื้อหน่วยลงทุนของ B-SENIOR พุ่งขึ้น จนเกินกว่าที่ตั้งไว้ 5,000 ล้านบาท ไปอยู่ที่ 6,500 ล้านบาทไปแล้ว เราจึงต้องขอจดทะเบียนเพิ่มทุนอีกเท่าตัวเป็น 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความเติบโต" นายพีรพงศ์ กล่าว
ผลการดำเนินงานของกองทุน B-SENIOR ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2559 ย้อนหลัง 3 เดือน เท่ากับ 2.82% (2.64%) 6 เดือน เท่ากับ 4.56% (4.06%) 1 ปี เท่ากับ 6.58% (5.02%) 3 ปี เท่ากับ 14.25% (10.31%) และตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (16 ส.ค. 2556) เท่ากับ 14.34% (7.93%) (ในวงเล็บ คือ เกณฑ์มาตรฐานผลตอบแทนช่วงเวลาเดียวกัน)
กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ (B-SENIOR) เป็นกองทุนรวมผสม ที่คาดหวังว่าจะให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอและสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ โดยกำหนดสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศไม่น้อยกว่า 70% ส่วนที่เหลืออีก 30% จะลงทุนในตราสารทุนในประเทศ รวมทั้งหน่วยลงทุนกองทุนรวมในประเทศ (เช่น กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น) และยังเปิดโอกาสให้ลงทุนในกองทุนรวมในต่างประเทศได้ แต่ต้องไม่เกิน 15% ทั้งนี้ การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ (B-SENIOR) เหมาะสำหรับนักลงทุนในวัยเกษียณ ที่สามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางค่อนข้างต่ำ และยังสามารถกำหนดให้ขายคืนหน่วยลงทุนเป็นรายเดือนได้ เพื่อให้นักลงทุนสะดวกที่จะควบคุมค่าใช้จ่ายรายเดือนของตนเอง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit