คันทรี่ กรุ๊ป ร่วมกับ บีซีอีจี ประกาศความร่วมมือทางการเงินกับ “ไชน่า ผิง อัน” ธนาคารใหญ่จากจีน มูลค่า 375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เดินเครื่องพัฒนาโครงการ “เจ้าพระยา เอสเตท” ตามแผน

19 Sep 2016
บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนในเครือคันทรี่ กรุ๊ป อัพเดทความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ หลังได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคาร ไชน่า ผิง อัน มูลค่ากว่า 375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการพัฒนาโครงการหรูริมแม่น้ำ "เจ้าพระยา เอสเตท" เผยความคืบหน้างานก่อสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นไปตามแผน
คันทรี่ กรุ๊ป ร่วมกับ บีซีอีจี ประกาศความร่วมมือทางการเงินกับ “ไชน่า ผิง อัน” ธนาคารใหญ่จากจีน มูลค่า 375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เดินเครื่องพัฒนาโครงการ “เจ้าพระยา เอสเตท” ตามแผน

นายเบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (CGD) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้บรรลุข้อตกลงกับสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งจะให้การสนับสนุนทางการเงินในการพัฒนาโครงการต่างๆ ภายในโครงการ 'เจ้าพระยา เอสเตท' โดยข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทฯสามารถเดินหน้าพัฒนาโครงการได้อย่างเต็มที่ และเราก็เชื่อมั่นว่าการผสมผสานที่ลงตัวของโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ และโรงแรมคาเพลล่า กรุงเทพ จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโครงการแบบผสมผสานระดับโลกด้วย

สำหรับการสนับสนุนทางด้านการเงินในครั้งนี้มีมูลค่า 375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อการพัฒนาโครงการเจ้าพระยา เอสเตทให้เสร็จสมบูรณ์ โดยเงินทุนดังกล่าวจะได้รับการบริหารจัดการโดยบริษัท แลนด์มาร์ค โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่ได้เพิ่มทุนแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาระหว่างบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีซีอีจี ไทย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

บีซีอีจี หรือ Beijing Construction Engineering Group ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2496 ครองตำแหน่งบริษัทก่อสร้างชั้นนำทั้งในประเทศจีนและระดับโลก เป็น 1 ใน 50 บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีรายได้ดีที่สุดในโลก มีพนักงานราว 20,000 คนทั้งในไซต์งานและสำนักงานสาขาในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

บีซีอีจีได้สร้างสรรค์ผลงานมาแล้วกว่า 130 ล้านตารางเมตร ในจำนวนนี้เป็นผลงานการพัฒนาโครงการที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ในประเทศจีน อาทิ สนามโอลิมปิก 29 แห่ง อาคารสำนักงานไห่หนานแอร์ไลน์แห่งใหม่ โรงยิมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งกรุงปักกิ่ง และศูนย์การประชุมแห่งชาติ เป็นต้น

นอกจากนี้ บีซีอีจียังสร้างสรรค์ผลงานระดับโลกอีกมากมาย อาทิ โครงการเมกะโปรเจ็กต์อย่าง "Al Reem Island" เฟส 1 ในกรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โครงการโรงพยาบาลเอกชน Australian Varsity Lakes ในโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย อีกทั้งยังเป็นผู้ร่วมลงทุนและร่วมก่อสร้างโครงการ Airport City มูลค่า 800 ล้านปอนด์ภายในสนามบินแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษนับตั้งแต่ปี 2556 อีกด้วย

"บีซีอีจีได้ร่วมงานกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในหลากหลายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการได้ร่วมทุนกับคันทรี่ กรุ๊ปในครั้งนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างสองบริษัทใหญ่ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ความเป็นเลิศในการก่อสร้างและการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์" นายซิง หยาน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีซีอีจี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าว "และด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่งจากธนาคารไชน่า ผิง อัน ทีมพัฒนาโครงการประจำประเทศไทยจะเดินหน้าการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้"

ในส่วนของ 'ไชน่า ผิง อัน' นั้น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 เป็นบริษัทประกันภัยร่วมทุนแห่งแรกในประเทศจีน ปัจจุบันบริษัทได้ขยายธุรกิจให้มีความหลากหลายครอบคลุมสาขาต่างๆ มากมาย ทั้งในภาคการเงินและการธนาคาร โดยบริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

ณ สิ้นปี 2558 กลุ่มไชน่า ผิง อัน มีทรัพย์สินรวม 4.77 ล้านล้านหยวน และได้รับการจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 32 ในฐานะบริษัทที่ดีที่สุดในโลกโดยนิตยสารฟอร์บส์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีฐานผู้ใช้บริการทางอินเตอร์เนตราว 242 ล้านราย โดยยึดหลักในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักบรรษัทภิบาลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น ลูกค้า พนักงาน สังคม และผู้ร่วมธุรกิจ

"กลุ่มไชน่า ผิง อัน เชื่อมั่นในความร่วมมือแบบ Win-Win ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สร้างผลดีให้กับทุกฝ่าย เรามุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาโครงการที่มีความยั่งยืนและมั่นคง ร่วมกับแบรนด์และองค์กรที่มีจุดมุ่งหมายเช่นเดียวกันกับเรา" นายเซี้ย จง ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารผิง อัน กล่าว

สำหรับความคืบหน้าในการก่อสร้างอาคารหลักของโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยานั้น ปัจจุบันงานโครงสร้างจากชั้น LG ถึง L8 เสร็จสมบูรณ์ 100% แล้ว ในขณะที่งานก่อสร้างโรงแรมคาเพลล่า และโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ นั้น มีความคืบหน้าตามแผนที่วางไว้ และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ตามกำหนด

นายเบน เตชะอุบล กล่าวเสริมว่า "การสนับสนุนทางการเงินเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาโครงการในระดับบน ในส่วนของการก่อสร้างนั้น ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปี 2557 และด้วยเงินสนับสนุนก้อนนี้ ผนวกกับความแข็งแกร่งของพันธมิตรทางธุรกิจ เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ตามกำหนดในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2561"

โครงการเจ้าพระยา เอสเตท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 35-2-68 ไร่ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำยาว 350 เมตร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ริมน้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เป็นโครงการที่พัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูสหรือผสมผสาน ประกอบด้วยโครงการที่พักอาศัย โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา และโรงแรมระดับเวิลด์คลาส 2 แห่ง ได้แก่ โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา และคาเพลล่า กรุงเทพ มีมูลค่าโครงการกว่า 32,000 ล้านบาท ถือเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดของคันทรี่ กรุ๊ป และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะกลายเป็นแลนด์มาร์คริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่

สำหรับผู้สนใจ สามารถเข้าชมห้องตัวอย่างได้ที่สำนักงานขาย โครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ ณ ที่ตั้งโครงการ ถนนเจริญกรุง 64 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ chaophrayaestate.com.