ช่อง 8 เปิดแนวรุกใหม่ส่งท้ายปี ดัน "ละครเวลาใหม่" หัวหอกขยายเวลาไพร์มไทม์
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าทีฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 มองว่า แม้อุตสาหกรรมดิจิตอลทีวีจะเข้าสู่ปีที่ 3 แต่ยังไม่นิ่ง ธุรกิจนี้ยังอีกยาวไกลไม่ได้มองกันแค่สั้นๆ เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอนที่ตอนนี้ยังไม่ใกล้เส้นชัยจึงยังตัดสินไม่ได้ว่าใครแพ้หรือชนะ แต่ให้ดูไปยาวๆ เนื่องด้วยอยู่ในช่วงผู้ประกอบการหลายรายเพิ่งเริ่มต้นใส่คอนเทนต์ของจริงกัน เชื่อว่าจะเริ่มเห็นภาพชัดเจนผู้ประกอบการรายใดจะจอดหรือจะรอดหรือจะไปต่อได้หรือไม่ประมาณ 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชำระค่าใบอนุญาตครบทั้งจำนวน โดยส่วนตัวคิดว่าเรตติ้งระหว่างทางไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จว่ารอดและไปต่อได้อย่างเดียว การบริหารต้นทุนควบคู่ไปกับการสร้างรายได้น่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญกว่า ซึ่งโจทย์การทำธุรกิจยังคงแข่งขันทางด้านคอนเทนต์เป็นหลัก เพื่อดึงให้ผู้ชมใช้เวลารับชมรายการของช่องนานขึ้น เชื่อว่าปีหน้าจะเข้มข้นและดุเดือดกว่าปีนี้แน่
สำหรับช่อง 8 ทำธุรกิจด้วยความระมัดระวัง มีความเคลื่อนไหวและก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา ขณะเดียวกันเต็มไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ตอกย้ำจุดยืนของช่อง "เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์" คือ เติมพลังให้คอนเทนต์แม่เหล็ก 4 แกนหลัก ได้แก่ ละคร, กีฬา, ข่าว และวาไรตี้ เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันแบ่งสัดส่วนผังรายการแบ่งเป็นละคร 40% ข่าว 25% วาไรตี้ 25% และกีฬา 10% ซึ่งนับจากนี้จะเติมคอนเทนต์ใหม่ๆ ลงไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มคนเมืองและหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก
ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ได้ส่งสองคอนเทนต์ใหม่ขยายเวลาไพร์มไทม์ ทุกวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี ประเดิมด้วย ละครกระถินริมรั้ว ที่ได้พระเอกระดับแม่เหล็ก เติ้ล-ธนพล ข้ามช่องมาร่วมงานกับช่อง 8 ครั้งแรก ลงจอเปิดแนวรุกละครช่วง "เออร์ลี่ ไพร์มไทม์ (Early Primetime)" เวลา 18.20 น. จากนั้นเสริมทัพต่อเนื่องหลังละครด้วยคอนเทนต์ประเภทวาไรตี้ใหม่แกะกล่อง เวลา 19.05 น. ในวันเดียวกันกับรายการ Dream Song ร้องสร้างฝัน นำโดยพิธีกรคู่หูตั๊ก-มยุรา และไก่-สมพล ซึ่งเปิดโอกาสให้คนที่มีฝันได้ใช้ความสามารถในการร้องเพลงเพื่อสร้างฝันของตัวเอง ซึ่งมั่นใจว่าทั้งละครเวลาใหม่ต่อเนื่องด้วยรายการวาไรตี้รูปแบบใหม่จะเป็นเวลาไพร์มไทม์ใหม่ที่สามารถเจาะกลุ่มครอบครัวที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย และขยายฐานผู้ชมได้ตามเป้าหมาย รวมทั้งทยอยเติมคอนเทนต์ประเภทซีรี่ส์เกาหลีและจีนใหม่ต่อเนื่องในเวลาไพร์มไทม์ช่วง "ดิ เอทพิโซด (The 8PISODE)" เวลา 22.00 น. ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน ได้แก่ Let's Fight Ghost วุ่นรักวิญญาณหลอน, Moonlight Drawn by Cloud รักเราพระจันทร์เป็นใจ, Drinking Solo รินรักหมดใจ, Legendary Warrior ศึกจอมยุทธไร้เทียมทาน, Son of Heaven เจ้าหนูจอมราชันย์
ทั้งนี้ ช่อง 8 เดินหน้ารักษาฐานกลุ่มคอกีฬาไว้ต่อเนื่อง เพราะมีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคว่านิยมกีฬาประเภทใดก็พบว่า ฟุตบอล กับ มวย เป็นกีฬาที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุด แต่เนื่องจากคอนเทนต์ฟุตบอลที่คนไทยให้ความนิยมส่วนใหญ่จะเป็นคอนเทนต์จากต่างประเทศ และมีค่าคอนเทนต์ที่ค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่คอนเทนต์จะถูกนำไปออกอากาศในเพย์ทีวี ทำให้ช่อง 8 เล็งเห็นโอกาสของคอนเทนต์มวย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์กีฬาที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ชมชาวไทยในวงกว้าง ขณะเดียวกันมีฐานผู้ชมแน่นอนและชัดเจน โดยพระเอกของช่อง 8 คือ 8 แม็กซ์มวยไทยที่สามารถคว้าเรตติ้งรายการมวยอันดับ 1ในกลุ่มผู้ประกอบการเลือดใหม่ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ตามด้วยเดอะ แชมป์เปี้ยน มวยไทยตัดเชือกและมวยไทยแบทเทิล ศึกค่ายชนค่ายก็ได้รับความนิยมและมีเรตติ้งอันดับต้นๆ เช่นกัน ดังนั้น จึงเตรียมจะเปิดช่วงไพร์มไทม์ใหม่สำหรับกีฬาเพิ่มเร็วๆ นี้
ในส่วนของกลุ่มรายการข่าวซึ่งปัจจุบันครองเรตติ้งอันดับ 3 ของประเทศ นอกจากมีการขยายเพิ่มรายการข่าวให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ชมในทุกช่วงเวลาตลอด 4 ช่วงหลักของวัน ได้แก่ คุยข่าวเช้า ข่าวเด่นเที่ยง คุยข่าวเย็น และข่าวเด่นรอบวัน ยังมีการดึงบุคลากรข่าวเข้ามาเสริมทีม เพื่อเพิ่มการนำเสนอให้ครอบคลุมทุกประเด็น อีกทั้งเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีการเพิ่มรายการวาไรตี้ข่าวรูปแบบใหม่ คือ สะดุดข่าวเด็ด เวลา 22.00 น. ทุกวันเสาร์ ก็ได้รับการตอบรับจากผู้ชมที่ช่วยเพิ่มการเติบโตของเรตติ้งกลุ่มรายการข่าวอย่างต่อเนื่อง
"ทางช่องทยอยปรับผังรายการใหม่ตั้งแต่หลังเปิดโลโก้ให้สอดรับกับจุดยืนของช่องคือ เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์ ซึ่งในแง่อันดับอาจยังไม่ถูกใจในตอนนี้ แต่ในระยะยาวเชื่อมั่นว่าจะถูกใจแน่ เนื่องจากช่องมีคอนเทนต์ที่หลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันแต่ละคอนเทนต์แข็งแรงและทำงานได้ด้วยตัวเอง ทำให้แต่ละช่วงวันแต่ละรายการมีฐานผู้ชมกลุ่มหลักของชัดเจน" นางพรพรรณ กล่าว
อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าการปรับผังใหม่ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ส่งผลให้มีเรตติ้งทะลุ 4 แสนรายต่อนาที จากปัจจุบัน 3.5 แสนรายต่อนาที ขณะที่ค่าโฆษณาเฉลี่ยอยู่ที่ 3 หมื่นบาทต่อนาที เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับราคาขายสูงสุดอยู่ที่ 2.5-3 แสนบาทต่อนาทีเป็นช่วงละครตอนเย็น รวมทั้งรายการ 8 แม็กซ์มวยไทย และเดอะ แชมป์เปี้ยน มวยไทยตัดเชือก ทำให้เชื่อมั่นว่าจะมีรายได้ทะลุเป้าที่วางไว้ 2 พันล้านบาท
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit