เคล็ดลับที่ทำให้เด็กเกาหลีเรียนเก่งติดระดับโลกนอกเหนือจากการเรียนอย่างเข้มข้นแล้ว หนังสือการ์ตูนความรู้นับเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เด็กประเทศนี้รักการอ่านและการเรียนรู้ โดยเฉพาะ "หนังสือการ์ตูนความรู้ชุด "Why?" เพราะเป็นหนังสือชุดที่ทำให้เด็กเกาหลีเรียนเก่งเป็นอันดับ 1 ของโลกจากผลการวิจัยของนิตยสาร Timss ปี 2011 นำเสนอความรู้ในรูปแบบการ์ตูน มีเรื่องราวสนุกสนานชวนติดตาม ทำให้เรื่องวิชาการที่เด็กๆ คิดว่ายากกลายเป็นเรื่องง่าย โดยได้รับการแปลแล้ว 12 ภาษาและตีพิมพ์ใน 45ประเทศ ซึ่งฉบับภาษาไทยเองก็ได้รับคำนิยมจากเลขาธิการสภาการศึกษา สสวท. ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ จึงมั่นใจเนื้อหาได้ว่าถูกต้องครบถ้วน สอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระวิชา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551กระทรวงศึกษาธิการ ตามที่เด็ก ๆ เรียนในโรงเรียน
ความโด่งดังของหนังสือการ์ตูนความรู้ชุด Why? ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น คนเกาหลีทุกคนต่างรู้ว่าทุกวันที่ 15 ของเดือนเป็นวัน Why? Day ซึ่งเป็นวันที่สำนักพิมพ์ YeaRimDang ที่เป็นเจ้าของหนังสือชุดนี้จะผลิตหนังสือดีๆ ออกสู่สายตาประชาชน ทั้งยังย้ำเตือนผู้ปกครองทุกคนด้วยว่า วันนี้มีหนังสือ Why? ออกวางแผง อย่าลืมพาลูกๆ หลานๆ มาซื้อ จนตอนนี้ยอดขายหนังสือการ์ตูนเสริมความรู้ชุด Why? กำลังเข้าสู่ 70 ล้านเล่มแล้วทั่วโลก
ครูนัยน์ปพร พญาชน ครูบรรณารักษ์ โรงเรียนวัดยกกระบัตร ซึ่งได้รางวัลครูส่งเสริมการอ่านยอดเยี่ยมระดับประเทศ ปี2554-2555 กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกหนังสือการ์ตูนความรู้ชุด Why? ว่า "ขึ้นชื่อว่า Why? มันก็ต้องเป็นเรื่องของคำถามอยู่แล้ว ที่เลือกชุดนี้เพราะเป็นการ์ตูนความรู้ และ Why? เป็นคำถาม เด็กขี้สงสัยก็จะชอบตั้งคำถาม คิดว่าหนังสือชุดนี้จะมีประโยชน์กับเด็ก และยิ่งมาเจอเรื่องของวิทยาศาสตร์ อังกฤษ และคณิตศาสตร์ ซึ่งครอบคลุมเนื้อหาทุกสาระ เป็นหนังสือเสริมความรู้ได้ด้วย คิดว่าหนังสือชุดนี้จะตอบโจทย์เด็กมากขึ้น เพราะบางทีถ้าเนื้อหาอยู่ในหนังสือเรียน เด็กเขาคงไม่จำ อ่านแล้วคงผ่านเลยไป แต่นี่เป็นการ์ตูน เรื่องราวมันมีอยู่ในนั้นอยู่แล้ว ที่สำคัญนำมาทำกิจกรรมส่งเสริมการอ่านได้ดี อย่างหนึ่งที่จุดประกายคือการทำบันไดงู เป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน อันดับแรกเราให้เด็กเลือกหนังสือในดวงใจของเขาก่อน เขาอยากจะทำเกมบันไดงูเกี่ยวกับหนังสือชุด Why? เพราะเขาอ่านแล้วคิดว่าเรื่องนี้สนุก ใครๆ ก็ถามว่าทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมเป็นแบบนั้น"
หลายคนที่เคยคิดว่าการ์ตูนเป็นเรื่องไม่มีสาระ ไม่น่าช่วยในเรื่องการเรียนการศึกษาได้ ตอนนี้คงเปลี่ยนความคิดแล้ว เพราะเมื่อเรานำการ์ตูนที่เด็กๆ ชื่นชอบมาผนวกเข้ากับความรู้ ผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าทำให้เด็กสนใจการเรียนรู้มากขึ้น และเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน รักการค้นคว้าหาความรู้ เป็นการยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของเด็กได้เป็นอย่างดี
ยกตัวอย่างที่โรงเรียนวัดยกกระบัตร จ.สมุทรสาคร ครูนัยน์ปพร ได้กล่าวถึงผลลัพธ์ที่นักเรียนได้อ่านหนังสือการ์ตูนความรู้ชุดWhy? ว่า "อย่างในช่วงลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ก็ให้เด็กทำบันทึกรักการอ่าน เด็กป.4 ก็มานั่งอ่านหนังสือ ครูถามว่าชอบอ่านเล่มนี้เหรอ เด็กก็ตอบว่าชอบมาก พอครูเห็นหน้าปกเป็นปกหนังสือ Why? ภาษาอังกฤษ ก็ถามต่อว่าทำไมถึงชอบ เด็กก็ตอบว่าภาษาง่าย คือเขาฟังในห้องแล้วครูภาษาอังกฤษสอนยาก ก็เลยมาอ่านเอง แล้วเนื้อหา คำศัพท์ ในนี้มันง่าย มีภาพประกอบ และก็มีประโยคที่เขานำไปใช้ได้ เป็นการ์ตูนด้วย เป็นประโยคที่เขาใช้คุยกับเพื่อน เหมือนเขาเป็นการ์ตูน ตัวการ์ตูนสงสัยยังไง เขาก็สงสัยแบบนั้นแหละ คือการ์ตูนเป็นอะไรที่ใกล้ตัวเขาอยู่แล้ว ฉะนั้นเวลาสื่อสารผ่านการ์ตูนมันง่ายขึ้น เหมือนเพื่อนคุยกับเพื่อน ไม่ใช่ภาษาแบบที่ครูมาสอน อย่างเด็กประถมก็จะชอบอะไรแบบนี้ ส่วนเด็กมัธยม จะมีเด็กม.3 คนหนึ่งที่ชอบอ่านมาก อ่านทุกเล่ม เขาจะตอบคำถามได้หมด เขาบอกเลยว่าเขาอ่านแล้วนำไปใช้ในการเรียนของเขา พอโตขึ้นก็ต้องเรียนเรื่องไฟฟ้า แสง เสียงซึ่งมันยาก เขาก็นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในวิชาที่เรียน เวลาครูให้เขาทำรายงาน เขาก็จะมาค้นตรงนี้เสริมได้"
ล่าสุดสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ได้แปลหนังสือการ์ตูนความรู้ชุด Why? ออกมาแล้วจำนวน 70 เล่ม โดยเน้นด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เช่น "Why? ตะลุยโลกใต้พิภพ" "Why? ไดโนเสาร์" "Why? ชวนรู้เรื่องอึ" "Why? หุ่นยนต์" "Why? รักษ์น้ำ" "Why? ภัยธรรมชาติ" "Why? มนุษย์ต่างดาวกับ UFO" "Why?วิทยาศาสตร์ในโลกอนาคต" "Why? ขั้วโลก" "Why? อาหารและโภชนาการ" "Why? ชายทะเล" "Why? วิทยาศาสตร์การกีฬา" "Why? พันธุกรรม" "Why? จุลินทรีย์" "Why? สิ่งประดิษฐ์" "Why? การทดลอง" "Why? ดาราศาสตร์" "ภาษาอังกฤษ ง่ายนิดเดียว (เก่งไวยากรณ์)" "เก่งสนทนาภาษาอังกฤษ เล่ม 1 และ2""เก่งออกเสียงภาษาอังกฤษ" "ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว (เก่งคำศัพท์และสำนวน)""Why? ช่วยเด็กประถมเก่งคณิต" เป็นต้น
ครูนัยน์ปพร พญาชน ได้เชิญชวนให้ทุกคนอ่านหนังสือชุดนี้ว่า "การ์ตูนความรู้ชุด why? เป็นหนังสือที่ให้ความรู้โดยมีการ์ตูนนำไปสู่ความรู้ เป็นหนังสือที่เราเรียนรู้ได้ง่าย อ่านง่าย คือถ้าเด็กอ่านก็จะเข้าใจ ไขข้อสงสัยว่าทำไม ถ้าโตขึ้นมาหน่อย ก็ได้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนที่เขายังไม่รู้และนำไปใช้ในห้องเรียนได้ ส่วนผู้ปกครอง หนังสือการ์ตูนความรู้ชุด Why? เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเขาอย่างแมลงเขาก็จะรู้ว่าแมลงนี่คืออะไร ก็นำไปใช้ได้ ไม่ใช่เฉพาะเด็ก ผู้ปกครองก็อ่านได้ เด็กอ่านได้ผู้ใหญ่อ่านดี มีประโยชน์มากๆเพราะว่ามันควบคู่ไปกับการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตประจำวันของเราด้วย สนุกไปกับการ์ตูน รูปภาพประกอบ อ่านเองแล้วยังรู้สึกสนุกไปกับตัวการ์ตูนด้วยเลย และตัวเองก็เป็นครูบรรณารักษ์ เราต้องมองว่าตัวเองและห้องสมุดไม่ได้อยู่กับที่ เราต้องเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่เดินไปหาเขาด้วย เพราะฉะนั้นเวลาเจอคุณครูหรือเจอใคร ก็จะเข้าไปคุยว่าหนังสือเล่มนี้มาใหม่นะ เป็นการเชิญชวนเขาไปในตัว เราก็อยากให้คนมาอ่านหนังสือ มาเข้าห้องสมุดเราเหมือนกัน ไม่อยากให้หนังสือตั้งอยู่เฉยๆ ให้เด็กได้จับต้องหนังสือทุกเล่มและคิดว่าหนังสือการ์ตูนความรู้ชุด Why? มีประโยชน์ไม่เฉพาะกับเด็กแต่กับคุณครูด้วย"
น้องเนย หรือเด็กหญิงพิชญาภา สร้อยสมจิตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนวัดยกกระบัตร กล่าวถึงเหตุผลที่ชอบอ่านการ์ตูนความรู้ชุด Why? ว่า "ชอบอ่านเรื่องใกล้ตัวก่อน เหมือนหนูได้หลุดไปในอีกโลกหนึ่งที่มีตัวการ์ตูนมากมาย มีความสุขที่ได้อ่าน ได้ใช้ความคิด ไม่เบื่อ ไม่เหงา เหมือนมีเพื่อนคุย ชอบเพราะหนังสือแต่ละเรื่องมีความรู้สอดแทรกอยู่ อย่างเล่ม Why?นก จะเล่าเรื่องนก ที่ถ้าเรามองด้วยตาเปล่ามันก็เหมือนๆ กันเกือบทุกตัว แต่ในหนังสือจะมีการแยกประเภทเท้าของนก ปีกของนกปากของนก สามารถใช้ในการเรียนได้"
เห็นได้ชัดเจนว่า ความรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในหนังสือเรียน ดังเช่นที่ Why? เป็นการ์ตูนความรู้ซึ่งเปรียบเสมือนห้องสมุดเป็นหนังสือที่จะมาช่วยตอบทุกคำถามที่เด็กสงสัย ทุกบ้านควรมีติดไว้เหมือนสารานุกรมประจำบ้าน
น้องหนูแดง หรือเด็กหญิงจันทกานต์ ดำเวียงคำ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนวัดยกกระบัตร พูดถึงข้อดีของการ์ตูนความรู้ชุด Why? ที่ช่วยในการเรียนว่า "หนังสือเรียนมีแต่ตัวหนังสือและน่าเบื่อ การ์ตูนความรู้ช่วยให้จำได้มากกว่าบางเล่มหนูก็อ่านหลายๆ รอบ ไม่ใช่เพราะจำไม่ได้แต่หนูชอบ จนบางเล่มนี่หนูท่องจำตัวละครได้เลยว่าหน้าต่อไปตัวละครจะพูดว่าอะไร พวกความรู้มันก็สอดแทรกอยู่ในเล่ม เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาเลยทำให้ได้ความรู้ไปด้วย ถ้าไม่อ่านก็อาจจะไม่เข้าใจเนื้อหาทั้งหมด"
เป็นเรื่องน่ายินดีที่สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ของไทยได้ซื้อลิขสิทธิ์หนังสือที่ได้ชื่อว่าขายดีที่สุดในเกาหลีใต้ มาให้เด็กไทยได้อ่าน นอกจากหนังสือชุดนี้จะให้ความรู้เด็กไทยแล้ว ยังปลูกฝังให้พวกเขารักการอ่านอีกด้วย
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit