"ตั้งแต่ก่อตั้งกองทุน BTSGIF ได้จ่ายเงินปันผลรวมทั้งงวดนี้ 13 งวด คิดเป็นเงิน 2.066 บาท แล้วยังจ่ายเงินลดทุนคืนแก่ผู้ถือหน่วยอีก 3 งวด เป็นเงิน 0.189 บาท คิดรวมเป็นเงิน 2.255 บาท ถือว่าให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนเป็นกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ" นายสุทธิพงศ์ กล่าว
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2559/60 (1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2559) กองทุนมีรายได้รวม 1,160.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.5% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 8.6% โดยเป็นรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาซื้อและโอนสิทธิรายได้สุทธิ 1,155.2 ล้านบาท (มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.7% และมากกว่าไตรมาสก่อน 8.7%) ซึ่งรายได้ส่วนนี้มาจากรายได้ค่าโดยสาร 1,586.7 ล้านบาท หักลบด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโดยรวม 431.5ล้านบาท (เช่น ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าซ่อมบำรุง ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เป็นต้น)
สำหรับจำนวนผู้โดยสารรวมในไตรมาสเดียวกันนี้ มีจำนวน 56.5 ล้านเที่ยวคน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 1.0% ส่วนอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยประจำไตรมาสเท่ากับ 28.1 บาทต่อเที่ยวการเดินทาง เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 4.6% และเพิ่มจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย 0.6%
ทั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ณ 30 มิถุนายน 2559 เท่ากับ 66,743.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.5313 บาทต่อหน่วย
ผู้ลงทุนและผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ กองทุนบัวหลวง โทร. 02 674 6488 กด 8 หรือ www.bblam.co.th หรือโปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของกองทุน หรือข้อมูลทั่วไปของกองทุนที่ http://www.btsgif.com/
การลงทุนมีความเสี่ยงนักลงทุน ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit