นายสุรพันธ์ เมฆนาวิน กรรมการ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยี Virtual Private Network (VPN) ซึ่งเป็นการรับส่งข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์บนอินเทอร์เน็ตมีบทบาทมากขึ้นในระบบไอทีขององค์กรต่างๆ เช่น ระบบงานบุคคล ระบบตรวจสอบสินค้าคงเหลือ ระบบงานสารบรรณ รวมถึงการติดต่อเข้าสู่ระบบควบคุมภายในองค์กร เนื่องจาก VPN ช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการรับส่งข้อมูลระหว่างสาขาด้วยการเชื่อมต่อเครือข่ายแต่ละสาขาเข้าด้วยกัน โดยมีอินเทอร์เน็ตเป็นตัวกลาง มีการสร้างอุโมงค์ข้อมูล (Tunnel) เพื่อเชื่อมต่อระหว่างต้นทางกับปลายทาง โดยข้อมูลจะถูกส่งผ่านไปใน Tunnel มีระบบเข้ารหัสป้องกันการลักลอบใช้ข้อมูล มีความปลอดภัยสูง ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจในการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับการทำธุรกิจได้จากทุกที่ ทั้งยังช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพในส่วนของ CAT ได้ดำเนินการด้านการพัฒนาและปรับปรุงระบบไอทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนทางธุรกิจตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอี (SMEs) ที่ต้องการรับส่งข้อมูลระหว่างสาขา เพื่อให้สอดรับกับการเติบโตของธุรกิจยุคไอทีที่ต้องรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ที่มีผลกระทบจากภายนอก ด้วยการทำงานที่มีความคล่องตัว
ในทุกสถานที่ไม่เพียงแต่ในสำนักงานเท่านั้น โดยล่าสุดได้เปิดตัวโซลูชั่น "CAT managed VPN" ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "CAT พร้อมแล้วทุกการเชื่อมต่อ ด้วยความมั่นใจ ปลอดภัย กับความสำเร็จของธุรกิจท่าน" สามารถรองรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานจากภายนอกองค์กร หรือภายนอกสำนักงานแบบ Remote Access หรือการเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายในระยะไกล ที่ให้ความปลอดภัยเหมือนการทำงานอยู่ในสำนักงาน ด้วยระบบการตรวจสอบตัวตน การพิสูจน์สิทธิ์ในการเข้าถึงทรัพยากรด้านไอทีขององค์กร เพื่อให้ธุรกิจมีความปลอดภัย และมั่นใจในทุกการเชื่อมต่อจากบุคลากรที่ทำงานอยู่นอกพื้นที่ แต่มีความจำเป็นต้องติดต่อเข้าสู่ระบบในสำนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่านระบบ WiFi หรือระบบ 3G/4G
นายสุรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริการ "CAT managed VPN" พร้อมอำนวยความสะดวกสำหรับธุรกิจที่ต้องการการทำงานจากภายนอกบริษัท ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจการประกันภัยที่ต้องให้พนักงานสามารถทำงานจากภายนอกบริษัทเพื่อดึงข้อมูล หรือ Update ข้อมูลที่สำคัญของลูกค้าจากภายนอกผ่านทางอินเทอร์เน็ต ในขณะที่บริษัทที่มีการขายตรงโดยการตรวจสอบ Inventory จากสำนักงานใหญ่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงการบันทึกข้อมูลลงระบบ SAP, ERP จากพนักงานที่อยู่ภายนอกสำนักงานใหญ่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ในกรณีที่เกิดสภาวะไม่ปกติ เช่น การชุมนุมทางการเมือง บริษัทสามารถทำงานผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ด้วยความปลอดภัย มั่นใจในการทำงานกับระบบข้อมูลที่สำคัญ
"CAT managed VPN" จะช่วยสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าด้วยการจัดการการเชื่อมต่อเพื่อรับส่งข้อมูลที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจผ่านอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบของการใช้งาน 2 ลักษณะ คือ 1.การเชื่อมต่อสื่อสารในรูปแบบของ Site-to-Site ตอบสนองการใช้งานเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ระหว่างหน่วยงานต่อหน่วยงาน เช่น สำนักใหญ่กับสาขา และ 2.การเชื่อมต่อสื่อสารในรูปแบบของ Client-to-Site เพื่อความคล่องตัวในการทำงานที่เหมาะกับลูกค้า SMEs ที่ไม่ต้องการสร้างสำนักงานสาขา สามารถทำงานรับส่งข้อมูลจากภายนอกสำนักงานเข้าสู่สำนักงานได้ เป็นการทำงานในลักษณะของ Mobile Worker โดยที่ User ไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ประจำที่ สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ Tablet, Notebook หรือ Smartphone
"CAT ในฐานะผู้ให้บริการระบบเน็ตเวิร์ก อยากเห็นการใช้ไอทีเป็นเครื่องมือช่วยผลักดันธุรกิจของลูกค้าให้เดินหน้าได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ซึ่งบริการ CAT managed VPN จะช่วยให้ลูกค้าที่เป็นองค์กรธุรกิจสามารถใช้เครือข่ายได้อย่างคุ้มค่า เต็มประสิทธิภาพ เพราะไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ที่ใดในโลกก็สามารถเข้าถึงเครือข่ายของตนเองได้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารและการดูแลรักษาระบบ รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งระบบสื่อสารข้อมูลองค์กรของลูกค้าให้ก้าวหน้า สร้างความแตกต่างให้หนีจากธุรกิจคู่แข่ง ควบคู่ไปกับการสร้างความปลอดภัยระดับสูงให้กับธุรกิจของลูกค้า นอกจากนี้ CAT ยังให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพบริการและการสร้างความเชื่อมั่น ความพึงพอใจในการใช้บริการของ CAT ควบคู่ไปกับการพัฒนาตลาดใหม่ในเซกเมนต์ต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย" นายสุรพันธ์ กล่าวในตอนท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit