เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2559 บริษัทโรงพยาบาลราชธานี จำกัด(มหาชน) หรือ RJH ได้มีการลงนามแต่งตั้งผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด(มหาชน) เป็นที่ปรึกษาการเงินและแกนนำการจัดจำหน่าย ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) และ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) จำนวนทั้งสิ้น 74.99 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 16 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยจะเปิดจองซื้อหุ้นตั้งแต่วันที่ 24-26 สิงหาคมนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเดือนกันยายนนี้
นางสาวพิมพ์ผกา นิจการุณ กรรมการผู้จัดการธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าหุ้น RJH ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยจากการสำรวจจากความต้องการซื้อของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่ามียอดจองล้น 12 เท่า ซึ่งสาเหตุที่นักลงทุนให้ความสนใจ เนื่องจากมองว่าบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีแนวโน้มเติบโตสูงจากการขยายกิจการและการให้บริการทางด้านการแพทย์ที่ครบวงจร ประกอบกับภาพรวมของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเป็นที่สนใจของนักลงทุนอยู่แล้ว เพราะนอกจากการขยายตัวจากภายในประเทศแล้วยังได้รับอานิสงส์จากการเปิดเสรีอาเซียนด้วย
ด้านนายแพทย์วชิระ วุฒิกุลประพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) (RJH) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายกิจการของบริษัทฯ และบริษัท โรงพยาบาลราชธานี โรจนะ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการแพทย์ โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และภาคกลาง ซึ่งในปัจจุบันโรงพยาบาลราชธานี ได้รับการรับรองคุณภาพ Hospital Accreditation (HA) ขั้นที่ 3 เรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาล แบ่งออกเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป 49.7% และกลุ่มลูกค้าตามโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐประมาณ 50.3% ซึ่งโรงพยาบาลมีนโยบายเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าทั่วไปด้วยการพัฒนาศักยภาพในการรักษาพยาบาล โดยการเพิ่มจำนวนแพทย์และพยาบาล รวมถึงขยายขอบเขตการรักษาโรคเฉพาะทางที่มีความซับซ้อนสูง ส่วนลูกค้ากลุ่มสวัสดิการภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประกันสังคม บริษัทฯ มีนโยบายมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนการให้บริการให้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องต่อรายได้เหมาจ่ายที่ได้รับจากโครงการประกันสังคม
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2558 รายได้รวมอยู่ที่ 1,034.91 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 63.77 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2558 อยู่ที่ 1,075.70 ล้านบาท หนี้สินรวม 800.57 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 275.12 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 1/2559 บริษัทฯมีรายได้รวม 298.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 39.01 ล้านบาท
ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ประกอบด้วย กลุ่มประสิทธิ์หิรัญ ถือหุ้น 73,526,382 หุ้น คิดเป็น 32.68% หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 24.64% รองลงมาเป็นกลุ่มวุฒิกุลประพันธ์ ถือหุ้น 32,647,299 หุ้น คิดเป็น 14.51% หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 11.05% ขณะที่กลุ่มรพ.วิภาราม ถือ 10.58 % หลังขายหุ้นเพิ่มทุนลดลงเหลือ 7.94 % และกลุ่ม รพ.ธนบุรี ถือหุ้น 9.43% หลังขายไอพีโอสัดส่วนหุ้นจะลดลงเหลือกลุ่มละ 7.07%
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit