นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า การจัดขายทอดตลาดรถยนต์ของกลางในครั้งนี้ กรมศุลกากรได้มอบหมายให้ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการขายทอดตลาดตามสภาพที่เป็นอยู่ และเป็นการประมูลด้วยวาจา เหมือนเช่นที่ผ่านมา โดยเปิดให้ผู้สนใจที่จะเข้าร่วมประมูลสามารถเข้าชมสภาพภายนอกรถยนต์ของกลางฯ ได้ในวันที่ 18 - 19 สิงหาคม 2559 เวลา 09.00 - 18.00 น. ณ ลานจอดรถหน้าส่วนของกลาง สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร สำหรับผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมประมูลรถยนต์ดังกล่าว สามารถลงทะเบียนและวางเงินค้ำประกันเป็นแคชเชียร์เช็คของธนาคารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สั่งจ่ายกรมศุลกากร (พักรายได้) ได้ที่ เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนส่วนของกลาง กรมศุลกากร ในวันที่ 18, 19, 22 สิงหาคม 2559 เวลา 8.30-16.30 น. และในวันที่ 23 สิงหาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป จนกว่าจะเสร็จสิ้นการประมูล สำหรับการวางเงินค้ำประกันการประมูลจะมีอัตราที่แตกต่างกัน โดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เปิดราคาประมูลต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท จะต้องวางเงินประกันคันละ 1 แสนบาท ส่วนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เปิดราคาประมูลตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องวางเงินประกันคันละ 2 แสนบาท ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนและวางเงินค้ำประกันแล้วเท่านั้นจึงจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการประมูลและเสนอราคา โดยการยกป้ายเสนอราคาแต่ละครั้งจะต้องเป็นไปตามระเบียบของกรมศุลกากร กล่าวคือ 1) รถยนต์และรถจักรยานยนต์ราคาต่ำกว่า 500,000 บาท ราคาจะปรับขึ้นครั้งละ 5,000 บาท 2) รถยนต์และรถจักรยานยนต์ราคาตั้งแต่ 500,000-1,000,000 บาท ราคาจะปรับขึ้นครั้งละ 20,000 บาท 3) รถยนต์และรถจักรยานยนต์ราคาตั้งแต่ 1,000,000-2,000,000 บาท ราคาจะปรับขึ้นครั้งละ 50,000 บาท และ 4) รถยนต์และรถจักรยานยนต์ราคาตั้งแต่ 2,000,000 บาทขึ้นไป ราคาจะปรับขึ้นครั้งละ 100,000 บาท
สำหรับรถยนต์ที่มีราคาการเปิดประมูลสูงสุด ได้แก่ ลำดับที่ 181 ยี่ห้อ ROLLS ROYCE รุ่น Phantom black edition ปี 2006 เปิดประมูลด้วยราคา 10.75 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ที่มีราคาการเปิดประมูลสูงที่สุด ได้แก่ ลำดับที่ 195 ยี่ห้อ HARLEY DAVIDSON เปิดประมูลด้วยราคา 560,000 บาท โดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของกลางที่ประมูลได้ สามารถออกแบบ 32 และนำไปจดทะเบียนได้ เมื่อมีการปรับปรุงสภาพตามที่กรมขนส่งทางบกกำหนด เป็นรถที่มีสมองกลครบถ้วน และจะต้องไม่มีสภาพเป็นรถยนต์จดประกอบ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวกรมศุลกากรได้ประสานแจ้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกรมขนส่งทางบกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อนึ่ง ในวันเดียวกัน (วันที่ 23 สิงหาคม 2559) ก่อนมีการประมูลขายทอดตลาด กรมศุลกากรทำการส่งมอบรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศมาเลเซียซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วคืนแก่ผู้แทนสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เพื่อส่งคืนให้แก่เจ้าของรถยนต์ที่แท้จริงต่อไป เพื่อเป็นการตัดวงจรหลีกเลี่ยงการเสียภาษี การนำเข้าเพื่อเลี่ยงใบอนุญาต และตัดวงจรการฟอกรถยนต์ ในการนี้ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.customs.go.th ส่วนของกลาง สำนักสืบสวนและปราบปราม โทร. 0 2667 6843 และ www.union-auction.com บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2934 7340
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit