กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดตัว "คณะทำงานตรวจสอบกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรงงาน" ซึ่งประกอบไปด้วย กรมโรงงานอุตสาหกรรม มณฑลทหารบกที่ 16 และจังหวัดสมุทรสาคร ให้ดำเนินการตรวจสอบดูแลโรงงานและสถานประกอบการโดยกำหนดเป้าหมายในการควบคุมเข้มงวดในกลุ่มโรงงานที่มีการร้องเรียนซ้ำซาก โรงงานที่มีเจตนาไม่ประพฤติตามกฎหมาย ฯลฯ โดยล่าสุดคณะทำงานดังกล่าว พร้อมด้วย ทีมเฉพาะกิจ DIW ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ร่วมมือกับมณฑลทหารบกที่ 16 นำร่องปฏิบัติการตรวจโรงงานแปรูปสัตว์น้ำและอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยหากมีการตรวจสอบพบว่า กระทำผิดไม่เป็นไปตามกฎหมายจะดำเนินคดีทั้งจำและปรับ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันจังหวัดสมุทรสาครมีโรงงานอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับการประมงจำนวนกว่า 300 โรงงาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักโรงงานอุตสาหกรรมรายสาขา 1 – 5 กรมโรงงานอุตสาหกรรม สายด่วน 1564 หรือสอบถามข้อมูลโครงการอื่นๆ ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โทร.0 2202 4014 หรือเข้าไปที่ www.diw.go.th
นายศักดา พันธ์กล้า รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายให้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบกิจการที่ละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 อย่างเคร่งครัด โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดตั้ง "คณะกรรมการตรวจสอบกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมาย" ซึ่งประกอบไปด้วย กรมโรงงานอุตสาหกรรม มณฑลทหารบกที่ 16 และจังหวัดสมุทรสาคร ให้ดำเนินการตรวจสอบดูแลโรงงานและสถานประกอบการโดยกำหนดเป้าหมายในการควบคุมเข้มงวดในกลุ่มโรงงานที่มีการร้องเรียนซ้ำซาก โรงงานที่มีเจตนาไม่ประพฤติตามกฎหมาย โรงงานที่ปล่อยมลพิษด้านน้ำเสียออกสู่สิ่งแวดล้อม และโรงงานที่มีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม โดยการทำงานของคณะกรรมการดังกล่าวจะร่วมดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่อยู่ในพื้นที่ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
ด้านนายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยทีมเฉพาะกิจคณะทำงานตรวจสอบกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรงงาน และมณฑลทหารบกที่ 16 ได้นำร่องคุมเข้มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการประมง ได้แก่ โรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ และโรงงานห้องเย็น โดยโรงงานบางแห่งประกอบกิจการที่ก่อให้เกิดน้ำเสียและมีการระบายน้ำออกนอกโรงงานโดยไม่ปรับคุณภาพของน้ำเสียให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด หรือมีการลักลอบปล่อยน้ำทิ้งสู่แหล่งน้ำสาธารณะ สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชุมชนและสังคม โดยล่าสุดได้นำร่องตรวจสอบเน้นโรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปและโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภทกว่า 5,000 แห่ง โดยเป็นกลุ่มประมงกว่า 300 แห่ง ทั้งนี้ การตรวจสอบกลุ่มโรงงานดังกล่าวยังสอดคล้องกับนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการค้ามนุษย์และการประมงของไทย
นายมงคล กล่าวต่อว่า ทีมเฉพาะกิจ DIW จะดำเนินการตรวจสอบโรงงานในระยะแรกจำนวน 30 โรง ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2559 โดยหากตรวจพบสถานประกอบการละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 อาทิ การประกอบกิจการโดยไม่ได้รับใบอนุญาต การลักลอบปล่อยน้ำเสียโดยไม่ได้ผ่านการบำบัด ระบบบำบัดน้ำเสียไม่มีประสิทธิภาพ เปิดขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โรงงานบางแห่งไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ฯลฯ จะต้องได้รับโทษทางกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น อย่างไรก็ตามหลังจากการดำเนินงานระยะแรกแล้วเสร็จจะมีการประเมินผลการดำเนินการเพื่อปรับปรุงแผนและขยายผลการตรวจสอบโรงงานต่อไป ทั้งนี้นอกจากมาตรการคุมเข้มและดำเนินการทางกฎหมายกับโรงงานที่ละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว ยังมีแนวทางการแนะนำและส่งเสริมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานเพื่อให้ประกอบกิจการได้อย่างถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายโรงงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
นายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่าจังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ทางทิศใต้ติดต่อกับอ่าวไทย มีการประกอบอาชีพทางประมงอย่างกว้างขวาง มีเรือประมงกว่า 1,000 ลำ สามารถจับสัตว์น้ำได้มากที่สุดของประเทศ รวมถึงมีแรงงานรวมกว่า 437,491 คน ส่งผลให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมอยู่ในลำดับต้นๆ ของประเทศ ในขณะเดียวกัน การกำกับดูแลสถานประกอบกิจการให้เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะมีกฎหมายเฉพาะสำหรับใช้กำกับดูแล เช่น กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข กฎหมายว่าด้วยโรงงาน และกฎหมายว่าด้วยแรงงาน โดยที่ผ่านมาจังหวัดสมุทรสาครได้ร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศร.ชล.) เพื่อทำการตรวจติดตามและกำกับดูแลให้ผู้ประกอบกิจการดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
พลตรีชวลิต พงษ์พิทักษ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 16 กล่าวว่า มณฑลทหารบกที่ 16 มีภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแสดงถึงรัฐบาลความเอาจริงเอาจังกับสถานประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงได้จัดตั้งทีมทหารเพื่อดำเนินการตรวจโรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยดำเนินการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งมีเป้าหมายเป็นโรงงานที่ถูกร้องเรียนและโรงงานที่มีน้ำเสีย ที่ผ่านมาได้ดำเนินการตรวจสอบไปแล้วบางส่วน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 - 30 มิถุนายน 2559 ซึ่งในขณะนี้ก็ยังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคม 2559 กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีโครงการตรวจโรงงานเพื่อกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรงงาน มณฑลทหารบกที่ 16 พร้อมให้ความร่วมมือเพื่อให้การตรวจกำกับดูแลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง ตามกฎหมาย
ทั้งนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 16 และจังหวัดสมุทรสาคร จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐในการตรวจสอบกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรงงาน พร้อมจัดพิธีเปิดตัวขบวนคณะทำงานตรวจสอบกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยโรงงาน" พร้อมจัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักโรงงานอุตสาหกรรมรายสาขา 1 – 5 กรมโรงงานอุตสาหกรรม สายด่วน 1564 หรือสอบถามข้อมูลโครงการอื่นๆ ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โทร.0 2202 4014 หรือเข้าไปที่ www.diw.go.th