ใกล้เวลาเข้ากรมเข้ามาทุกที ?
"เข้ากรมวันที่ 1 พ.ย. นี้ครับ"
คนชื่นชม ?
"มันก็ดีใจนะครับที่คนชื่นชม แต่ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร มันเป็นหน้าที่หนึ่งของผู้ชายที่เกิดมาในประเทศไทย ที่พออายุเท่านี้คุณต้องเลือกแล้วนะว่าคุณจะเป็น รด. หรือคุณจะเป็นทหาร ผมมีข้อจำกัดบางอย่างที่ผมหายจากการเรียน รด. ไป 1 ปี เพราะผมไปเรียนต่างประเทศ ผมก็ต้องมาเกณฑ์ทหาร ซึ่งหลายคนก็บอกว่าทำไมไม่ลองเหมือนคนอื่น ลองซิกแซกดูไหม ผมมีความรู้สึกว่าบางทีเราขับรถ เราอยู่ในเลนเราก็คิดว่าเราจะไปปาดข้างหน้าแน่นอน แต่พอผ่านไป 5 นาที คนปาดข้างหน้าเต็ม ทุกคนโกงหมด แล้วทำเป็นเรื่องปกติ ผมรู้สึกว่าแบบนี้มันทำให้คนลืมไปว่าสิ่งที่ถูกต้องจริงๆ มันคืออะไร ทุกคนมองว่าทหารไม่เป็นไรสบาย เอาชื่อไปลงต่างจังหวัดสิ ผมไม่ได้โจมตีนะครับ โอเคถ้าผมทำแบบนั้นผมจะมีหน้าไปวิจารณ์สิ่งที่มันไม่ได้ดีได้ยังไง ในเมื่อผมก็ยังทำสิ่งที่ไม่ดีเลย ก็เลยรู้สึกว่าเราไปตรงๆ ดีกว่า(ยิ้ม) เผื่อวันหนึ่งเราจะได้มีโอกาสที่จะได้เป็นคนผู้นำทางความคิดหรืออะไรบางอย่าง เราจะได้พูดอย่างเต็มปากว่าสุดท้ายแล้ว การที่เราจะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องทำตามกติกาก่อน เท่านั้นเอง"
กลัวเรื่องการฝึกที่ลำบากมั้ย ?
"มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าถ้าคนเราเปลี่ยนที่อยู่ เปลี่ยนสไตล์การใช้ชีวิตให้มันลำบากมากขึ้นเราก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น เราตึ้นในทุกๆ วัน โรงเรียนอาจจะเป็นเลเวล 1 ที่ทำงานเลวล 2 เจอเรื่องอะไรที่มันหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วพอกลับมาเจออะไรที่มันเบาๆ มันก็จะรู้สึกว่าชิวมากเลย ทุกวันนี้ผมยังบ่นเหนื่อย บ่นว่าลำบากกับอะไรที่มันสบายอยู่เลย อยากให้ไปเจออะไรที่มันลำบากก่อนกลับมาจะได้รู้ว่าอาหารที่เรากิน เตียงที่เรานอน บ้านที่เราอยู่แค่นี้มันคือแฮปปี้มากแล้ว"
ถ้ากลับมางานหาย คนจำไม่ได้ทำไง ?
"มันไม่มีคำว่าหายไปหรอกครับ เราก็ยังมีตัวตนอยู่ ในก็ต้องพิสูจน์ถ้ากลับมาแล้วไม่มีตัวตนจริงๆ ก็ต้องยอมรับ แต่ผมมั่นใจอยู่ลึกๆ เหมือนกันนะว่ากลับมาจะเป็นอีกในเวอร์ชั่นหนึ่ง ซึ่งเวอร์ชั่นนั้นจะเป็นเวอร์ชั่นที่เราเองก็ชอบ มีวินัยมากขึ้น ทุกอย่างดีขค้นหมด แล้วก็จะพรีเซ็นต์ตรงนั้นให้คนชอบได้ด้วย"
ภูมิใจกับสิ่งที่เลือก ?
"ก็ภูมิใจนะครับเพราะบางทีเรารู้สึกว่า โอเค เราเป็นคนไทย อยู่ในประเทศไทย เราไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ทำผิดกฏหมาย เราจ่ายภาษีตรง แค่นี้เราก็ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แต่ว่าของผมมันเป็นผู้ชายครับ มันก็เลยมีเขียนเพิ่มไว้ว่าพออายุครบแล้วต้องเป็นทหารนะ"
ถ่ายเซ็กซี่ทิ้งทวน ?
"คือมันเป็นเรื่องอย่างนี้ครับ ผมเริ่มจับเวทครั้งแรกสุดในชีวิตคือตอนเรียนปี 2 เล่นมาเรื่อยเลย เล่นบ่อย เล่นหนัก แต่เป็นคนแฮปปี้กับการกินมาก จะไม่เคยเห็นผมอ้วนเพราะผมเล่นฟิตเนสตลอด แต่ว่ามันก็จะไม่ได้เป็นทรงที่ดีที่สุด เพราะว่าไม่คึมอาหาร ก็ไปคุยกับพี่เทรนด์เนอร์เขาก็บอกว่าเอี๊ยงเล่นมานานแล้วเสียดายไม่มีถ่ายรูปเจ๋งๆ สักทีเลย แล้วก็จะบวชก็เลยกลับไปนั่งคิดคืนหนึ่ง พี่ที่นิตยสารก็ทีมาหาหลายทีแล้วว่าอยากให้เอี๊ยงมาถ่ายให้ แต่ผมก็บอกพี่เขาไปว่าผมขี้เกียจไดเอ็ท แต่วันนั้นพอได้ฟังพี่เทรนด์เนอร์พูดก็เลยคิดว่าเอาวะ เอาซักที เพราะไม่งั้นก็เดี๋ยวบวช เดี๋ยวเป็นทหาร กล้ามเนื้อมันก็คงหายไปเหมือนกัน ก็เลยเล่นหนักขึ้น คุมอาหารมากขึ้น พีคสุดคือทำเหมือนนักกล้าม เอาอกไก่ใส่น้ำแข็ง ใส่น้ำแล้วปั่นกินวันละ 3-4 มื้อ มันก็เป็นจุดที่ทำให้เรารู้สึกว่าการที่ฟิตเนส หรือการทำหุ่นดีมันไม่ได้ยากเลย ซึ่งเราก็ภูมิใจว่าเราก็ทำได้เหมือนกัน คนอื่นมีเราก็มี(ยิ้ม)"
โป้สุดแล้วในชีวิต ?
"ใช้คำว่าเซ็กซี่ดีกว่า เดี๋ยวแม่ฟังแล้วจะตกใจ(ยิ้ม) ก็เซ็กซี่ที่สุดแล้วครับ ก็ไม่เคยถอดเสื้อเนาะลงนิตยสาร ปกติก็จะใส่เสื้อ งานนี้ก็ถือเป็นงานเปลี่ยนลุคส์เราด้วย อเพราะคนก็ติดภาพเราบอยแบนด์ เข้าวงการตั้งแต่ยังวัยรุ่นอยู่ คนก็จะมองเราเด็กตลอดเวลา แต่จริงๆ ปีนี้ก็ 25 แล้ว(ยิ้ม)"
เบื้องหลังมียัด หรือเติมแต่งอะไรเพิ่มไหม ?
"ไม่มีเลย(ยิ้ม) ไม่รู้ว่าเขาพอใจแล้ว หรือว่าเขาไม่ได้โฟกัสตรงนั้นก็ไม่รู้(ยิ้ม) ถอดหมดไม่มีครับ โหดไป(ยิ้ม) อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปตอนก่อนๆ ว่าลิมิตที่ผมถ่ายก็คือให้แม่ผมรับได้ เห็นแล้วไม่ตกใจ อันนี้ผมโอเค เพราะว่าแม่ผมจะต้องส่งไลน์ไปให้ญาติ(ยิ้ม) บางทีแล้วมันก็ส่งผลกระตบต่อคนใกล้ตัวเหมือนกัน เราก็เซฟตัวเองว่าแบบนี้แม่โอเคก็โอเค ถ้ามากกว่านี้ก็ไม่ได้แล้ว"
ติดตามบทสัมภาษณ์แรง ตรง จัดเต็ม ของคนดังได้ในรายการ "ตัวจริง เสียงจริง" ทาง www.youtube.com/thaich8
คลิปเต็ม https://www.youtube.com/watch?v=WtrtFIlUX70
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit