พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม พระราชทานให้วันที่ 1 สิงหาคม ของทุกปี เป็น "วันสตรีไทย" เพื่อเสริมสร้างค่านิยมให้สังคมมีเจตคติยอมรับบทบาทความสามารถและคุณค่าของสตรีไทย รวมทั้งบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนให้ร่วมกันส่งเสริมศักยภาพ ความรู้และความสามารถของสตรีไทย เพื่อร่วมเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทางหน่วยงานภาครัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสดังกล่าวมาโดยตลอด เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงหน้าที่ของสตรีไทยที่พระองค์ ทรงพระกรุณาพระราชทานไว้ในวันสตรีไทย เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 อันมีหน้าที่หลัก 4 ประการ คือ ประการที่ 1 พึงทำหน้าที่ "แม่" ให้สมบูรณ์ ประการที่ 2 พึงทำหน้าที่ของ "แม่บ้าน" ให้ดี ประการที่ 3 พึง "รักษาเอกลักษณ์ของความเป็นสตรีไทย"มีความนุ่มนวล อ่อนโยน สุภาพ เมตตา และยิ้มแย้มแจ่มใส และประการที่ 4 พึง "ฝึกฝนตนเอง" ให้มีความรู้ความสามารถ ขยัน อดทน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย รักษาความสามัคคีในหมู่คณะให้มั่นคง รวมถึงการช่วยรักษา และเชิดชูเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติ และภูมิปัญญาท้องถิ่นให้สืบทอดไปยังอนุชนรุ่นต่อไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้น้อมนำพระราชดำรัสดังกล่าวมาเป็นพันธกิจ ที่สำคัญในการดำเนินงานด้านสตรีของประเทศ มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของสตรี การส่งเสริมความมั่นคงของชีวิต และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมทั้งการสนับสนุนเครือข่ายของสตรีให้มีส่วนร่วมในวาระแห่งการพัฒนาทุกระดับ ทั้งนี้ ในปี 2559 ถือเป็นปีแห่งมหามงคลของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ เนื่องจากเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองมหามงคลวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี พร้อมทั้งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันสตรีไทย 1 สิงหาคม และวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2559 กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตลอดจนภาคีเครือข่ายภาครัฐ และภาคอกชน จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพสตรีไทย เนื่องในวันสตรีไทย ประจำปี 2559 ขึ้น
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดงานในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "พลังสตรีไทยทั่วหล้า ใต้พระบารมี ร่วมใจภักดี พระบรมราชินีนาถ ของแผ่นดิน" จัดขึ้นระหว่างวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม ถึงวันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2559 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเฉลิมพระเกียรติในปีมหามงคลของทั้งสองพระองค์ และธำรงเชิดชูให้วันสตรีไทยเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาติ เพื่อน้อมนำกระแสพระราชดำรัสมาเป็นแนวทางร่วมพัฒนาศักยภาพสตรี ในอันที่จะช่วยกันสร้างความสงบสุข ร่มเย็นให้เกิดแก่ครอบครัว สังคม และประเทศชาติได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ นิทรรศการครบรอบ 60 ปี การออกบูธและแสดงนิทรรศการจากศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว 8 แห่ง ภาคีเครือข่าย ด้านสตรี อาทิ มูลนิธิส่งเสริมศูนย์ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรมการพัฒนาชุมชน กรมหม่อนไหม และเครือข่ายในต่างประเทศ (All CHaina) เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมงาน จากหน่วยงานภาคีเครือข่าย จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,500 คน