นายมีศักดิ์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่กรมประมงได้ออกหนังสือใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ให้กับเรือประมงพาณิชย์ที่มีขนาด ตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไป เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 บัดนี้ เห็นสมควรให้มีการตรวจสอบเรือและเอกสารสำคัญในการทำการประมงพาณิชย์ทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 โดยเอกสารสำคัญประกอบด้วย
1. ใบอนุญาตใช้เรือ : ที่ระบุหมายเลขทะเบียนเรือ ชื่อเรือ ชื่อสกุลเจ้าของเรือ วันหมดอายุ หมายเลขเครื่องยนต์ และยี่ห้อเครื่องยนต์ให้ชัดเจน
2. ใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ต้นฉบับ ที่ได้รับจากกรมประมง ที่ระบุหมายเลขใบอนุญาต ประเภทของเครื่องมือทำการประมง ใบอนุญาตที่ติดภายในเรือประมง พร้อมบัตรอนุญาต เลขที่ QR-Code ซึ่งจะต้องตรงตามใบอนุญาตทำการประมงที่ประมงออกให้ โดย QR-Code ดังกล่าวจะต้องติดไว้กับเรือ
3. เครื่องมือประมง โดยชนิดและจำนวนเครื่องมือต้องถูกต้องตามใบอนุญาต รวมทั้งขนาดของตาอวน ขนาดความยาว ของเครื่องมือต้องเป็นไปกฎหมายด้วย
และสำหรับเรือประมงพาณิชย์ ขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอสขึ้นไป จำนวน 5,941 ลำ ต้องแสดงอุปกรณ์ติดตามเรือ (VMS) ที่มีเอกสารกำกับ หมายเลข VMS ในใบอนุญาต หมายเลขเครื่องที่ใช้ในปัจจุบัน สถานะภาพการใช้งาน และแสดงLogbook/ เครื่องหมายประจำเรือ / สภาพเรือ / ระวางบรรทุกของเรือ ด้วย
ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ ขนาด 10 - 30 ตันกรอส จำวน 5,277 ลำ สามารถยื่นเอกสารขอรับการตรวจได้สำนักงานประมงจังหวัด 22 จังหวัดชายทะเลและสำนักงานประมงอำเภอ ส่วนเรือประมงพาณิชย์ ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป สามารถยื่นเอกสารแก่เจ้าหน้าที่ศูนย์แจ้งเข้า-ออกในจังหวัดนั้นๆ ส่วนในกรณีเรือขึ้นคานหรือไม่ได้ทำการประมง ให้นัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจแยกจากการตรวจที่ท่าเรือ
ทั้งนี้ เป็นการยื่นนัดหมาย ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ สามารถนัดหมายกับเจ้าหน้าที่เพื่อนำเรือมาแสดงตนได้ ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2559 เป็นต้นไป ซึ่งเรือประมงพาณิชย์ที่ผ่านการตรวจรับรองโดยกรมประมงเรียบร้อยแล้ว จะได้รับสติ๊กเกอร์รับรองไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการไม่นำเรือมาให้ตรวจโดยไม่มีเหตุผลออันสมควรอาจเป็นสาเหตุให้ถูกยกเลิกใบอนุญาตทำการประมงได้
"กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงจึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์โปรดให้ความร่วมมือนำเรือและเอกสารที่ถูกต้องมาแสดงตนตามกำหนดการและสถานที่ดังกล่าวด้วย โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์เฉพาะกิจตรวจเรือประมงพาณิชย์ โทร. 0 2561 1418 หรือ สำนักงานประมงจังหวัดชายทะเล 22 แห่ง หรือwebsite : http ://www.fisheries.go.th/inspector" นายมีศักดิ์ กล่าว