"ไทยเคยเป็นผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ปีกหลักไปยังสาธารณรัฐเกาหลี แต่ได้หยุดการส่งออกไปตลาดนี้ ตั้งแต่ปี 2547 เนื่องจากปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก ปัจจุบันสาธารณรัฐเกาหลียังมีความจำเป็นที่จะต้องนำเข้าไก่สดแช่เย็น/แช่แข็งจากต่างประเทศ เช่น บราซิล และสหรัฐอเมริกา เกือบร้อยละ 95 ของการนำเข้ารวม ดังนั้น นับเป็นโอกาสดีไทยจะกลับมาส่งออกเนื้อสัตว์ปีกสดแช่เย็น/แช่แข็ง ไปยังสาธารณรัฐเกาหลี เนื่องจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบในเรื่องระยะเวลาขนส่งสินค้า โดยในช่วงปี 2554 - 2557 สาธารณรัฐเกาหลีนำเข้าไก่สดแช่เย็น/แช่แข็ง โดยเฉลี่ยประมาณ 115,000 ตันต่อปี และในปี 2558 คาดว่าการบริโภคไก่ในสาธารณรัฐเกาหลีจะอยู่ที่ประมาณ 864,000 ตัน เพิ่มจากปี 2557 ประมาณร้อยละ 1.5 โดยจะเป็นการบริโภคไก่ ที่ผลิตได้ในประเทศจำนวนประมาณ 749,000 ตัน คิดเป็น 87% และไก่นำเข้าประมาณ 115,000 ตัน คิดเป็น 13%"
อีกสินค้าหนึ่งที่ได้เจรจาขอรับการสนับสนุนจากเกาหลี คือ การเปิดตลาดนำเข้ามะม่วงพันธุ์มหาชนกของไทย ซึ่งความคืบหน้ากระบวนการพิจารณาการเปิดตลาดมะม่วงพันธุ์มหาชนก ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 5 จากทั้งหมด 8 ขั้นตอน ทั้งนี้ สาธารณรัฐเกาหลีเป็นตลาดคู่ค้ามะม่วงอันดับ 1 ของประเทศไทย โดยในปี 2558 นำเข้ามะม่วงจากไทย มูลค่าประมาณ 660 ล้านบาท สาธารณรัฐเกาหลีนำเข้าผลไม้สดหลายชนิดจากต่างประเทศ ในปี 2557 ผลไม้สดที่มีการนำเข้ามากที่สุด คือ มะม่วงอบไอน้ำจากไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 90 ของปริมาณผลไม้นำเข้าทั้งหมด ปัจจุบันไทยส่งออกมะม่วงไปยังสาธารณรัฐเกาหลี 3 สายพันธุ์ (น้ำดอกไม้ หนังกลางวัน แรด) สาธารณรัฐเกาหลีนำเข้ามะม่วงจากประเทศไทยมากเป็นอันดับ 2 รองจากฟิลิปปินส์ โดยมีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง ส่วนแบ่งตลาดมะม่วงที่นำเข้าจากไทย คิดเป็นร้อยละ 45 ของปริมาณการนำเข้ามะม่วงทั้งหมดของสาธารณรัฐเกาหลี ผลไม้อื่นๆ ที่ผู้นำเข้าเห็นว่ามีศักยภาพในตลาดสาธารณรัฐเกาหลี ได้แก่ ลำไย ส้มโอ และเงาะ