อุตฯ อ้อยและน้ำตาลหนุนภาครัฐให้ความรู้การบริโภคน้ำตาลอย่างสมดุล มั่นใจระยะยาวช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมลดเครื่องดื่มที่มีความหวานได้อย่างยั่งยืน

29 Aug 2016
อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย สนับสนุนภาครัฐสร้างความตระหนักให้ผู้บริโภคกินหวานให้พอดีต่อร่างกาย ชี้เป็นทางออกในการแก้ปัญหาที่ช่วยลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีความหวานที่ยั่งยืนกว่า พร้อมระบุหากภาครัฐเดินหน้าจัดเก็บภาษีจริงต้องสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทุกฝ่าย

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์และสันทนาการ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย หรือ TSMC เปิดเผยว่า จากนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้ประชาชนลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีความหวาน โดยมีการมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติในเรื่องดังกล่าว ซึ่งโดยหลักการนั้นทางอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเห็นด้วย ที่ภาครัฐจะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจการบริโภคเครื่องดื่มที่มีความหวานอย่างสมดุลเพื่อไม่ให้เกิดโทษต่อร่างกาย และนำไปใช้เป็นข้อมูลในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารอย่างสมดุล และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน

ทั้งนี้ ในการประชุมระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในประเด็นนี้ อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนพร้อมสร้างความเข้าใจแก่ทุกฝ่ายว่า แต่ละคนมีความต้องการสารอาหารที่ให้พลังงานในระดับแตกต่างกัน ผู้ที่ใช้แรงงานมากย่อมต้องการอาหารที่ให้พลังงานมากขึ้น และน้ำตาลเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย และไม่ได้เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ หรือโรคที่ไม่ติดต่อ (NCDs) ดังนั้น หากผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจในด้านโภชนาการ ก็จะสามารถเลือกรับประทานเครื่องดื่มที่มีความหวานได้ในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงต้องหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดี

อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐมีแนวคิดจัดเก็บภาษีความหวานจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ก็จะเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์และทำให้เกิดการสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อการบริโภค เครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลว่าเป็นพิษต่อร่างกายหรือเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสน อันนำไปสู่การลดการปริมาณบริโภคน้ำตาล จนอาจส่งผลให้ร่างกายขาดความสมดุลและส่งผลกระทบต่อสุขภาพในอีกทางหนึ่งได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงร่างกายก็มีความต้องการน้ำตาลเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานในแต่ละวัน

"อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าน้ำตาลเป็นสารอาหาร ที่จำเป็นต่อร่างกายและไม่ใช่ต้นเหตุที่ก่อให้เกิดโรค หากบริโภคอย่างสมดุลกับความต้องการของร่างกาย ดังนั้น เรามีจุดยืนว่าการให้ความรู้ความเข้าใจด้านการบริโภคที่ถูกต้อง จะเป็นแนวทางทางการแก้ปัญหาที่ดีในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีความหวานได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐมองว่า การจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เป็นวิธีปฏิบัติที่จะทำให้ประชาชนสามารถลดการบริโภคลงได้จริง ก็ควรจัดเก็ษภาษีอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม และสามารถสร้างการยอมรับแก่ทุกฝ่าย พร้อมกับมีมาตรการส่งเสริมสุขภาพและให้ความรู้ด้านโภชนาการที่ถูกต้องควบคู่กันไปด้วย" นายสิริวุทธิ์ กล่าว