นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการสนับสนุนสร้างแรงจูงใจทั้งด้านภาษี การปรับกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนนั้น ได้ส่งผลให้มีการลงทุนในกลุ่มกิจการใหม่ ๆ และมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาการผลิตในประเทศไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กรกฎาคม 2559) มีการยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนแล้วมูลค่ารวมกว่า 5,100 ล้านบาท มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 252 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่าการยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนอยู่ที่ประมาณ 1,450 ล้านบาท
ทั้งนี้มีกิจการที่บีโอไอได้พิจารณาอนุมัติส่งเสริมการลงทุนแล้ว และเป็นโครงการที่น่าสนใจ อาทิ กิจการชุดน้ำยาตรวจยีน ซึ่งเป็นชุดทดสอบเพื่อตรวจจับความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยชุดผลิตภัณฑ์จะช่วยให้สามารถวินิจฉัยและคัดกรองผู้ที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบได้ภายในเวลาอันสั้นเพื่อทำการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโครงการนี้ผู้ผลิตได้วางแผนเข้ามาลงทุนขยายการผลิตและตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ชุดน้ำยาตรวจยีนในต่างประเทศเป็นครั้งแรกจากเดิมที่มีผลิตแค่ในประเทศจีนเท่านั้น
นอกจากนี้ยังได้อนุมัติส่งเสริมลงทุนแก่โครงการผลิตเลนส์แก้วตาเทียม (Intraocular Lenses) เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาในการมองเห็น เช่น ผู้ป่วยที่เป็นต้อหินหรือต้อกระจก โดยวิธีการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมให้กับผู้ป่วย เกิดจากการนำผลการวิจัยและพัฒนาซึ่งผู้ประกอบการไทยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา เช่น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นต้น ดำเนินการ มาทำการผลิตในเชิงพาณิชย์
โครงการนี้ จะเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตเลนส์แก้วตาเทียมในประเทศไทย จะมีกำลังผลิตปีละประมาณ 50,000 ชิ้น คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้ในช่วงเดือนมกราคม 2561 ส่วนใหญ่ (มากกว่าร้อยละ 80) เป็นการผลิตเพื่อป้อนความต้องการในประเทศ จึงเป็นการทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศและจะช่วยขยายโอกาสการเข้าถึงเลนส์แก้วตาเทียมให้กับผู้ป่วยในประเทศไทย เนื่องจากราคาต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการนำเข้าจากต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ข้างต้นยังมีแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับกระบวนการผลิตเลนส์แก้วตาเทียมที่มีคุณสมบัติสูงขึ้น อาทิ เลนส์แก้วตาเทียมที่สามารถแก้ค่าสายตาเอียงได้ ซึ่งรูปแบบของกิจการผลิตในกิจการนี้จัดเป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และสนับสนุนอุตสาหกรรมบริการทางการแพทย์ สอดคล้องกับนโยบายการมุ่งไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ (Medical Hub) ในภูมิภาคอาเซียนของรัฐบาลต่อไป
นางหิรัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม จะมีพิธีเปิดโรงงานสำหรับผลิตน้ำยาล้างไตทางช่องท้อง ซึ่งเป็นโครงการขยายการลงทุนโครงการที่ 2 ของบริษัท แบ็กซ์เตอร์ แมนูเฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง โดยบริษัทดังกล่าว เป็นผู้ผลิตในกลุ่ม แบ็กเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Baxter International Inc.) ผู้ผลิตและจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์รายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 และขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมูลค่าการลงทุนรวมของบริษัทในประเทศไทยสูงกว่า 6,000 ล้านบาท สร้างรายได้จากการส่งออกเป็นมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อปี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit