ทั้งนี้ ผู้โดยสารในทุกระดับชั้นจะได้รับสิทธิ์ในการเพิ่มน้ำหนักสำหรับโหลดกระเป๋าสัมภาระขึ้นอีก 10 กิโลกรัม ส่วนสมาชิกมาร์โคโปโลคลับในระดับซิลเวอร์จะได้รับสิทธิ์เพิ่มน้ำหนักสำหรับโหลดกระเป๋าสัมภาระขึ้นอีก 10 กิโลกรัม ระดับโกลด์เพิ่มอีก 15 กิโลกรัม และระดับไดมอนท์เพิ่มอีก 20 กิโลกรัม
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ค่าธรรมเนียมสำหรับน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระที่เกินกำหนดในแต่ละโซนเส้นทางบินได้รับการปรับเปลี่ยนเช่นกัน โดยมีการปรับลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวในโซนเส้นทางบินต่างๆ สูงสุดถึงร้อยละ 40
นโยบายเกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระใหม่นี้จะใช้ควบคู่กับการจำกัดจำนวนกระเป๋า เพื่อให้ขั้นตอนการเช็คอินมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยผู้โดยสารชั้นธุรกิจ ผู้โดยสารชั้นประหยัดพรีเมียม และผู้โดยสารชั้นประหยัดสามารถโหลดกระเป๋าสัมภาระได้จำนวน 2 ใบ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม สำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง สามารถโหลดกระเป๋าสัมภาระได้จำนวน 3 ใบ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และสมาชิกมาร์โคโปโลคลับ ระดับโกลด์และไดมอนด์ จะได้รับสิทธิโหลดกระเป๋าสัมภาระเพิ่ม 1 ใบ
นอกจากการปรับนโยบายเกี่ยวกับการโหลดกระเป๋าสัมภาระแล้ว สายการบินดรากอนแอร์ยังมอบสิทธิในการเพิ่มน้ำหนักสำหรับสัมภาระถือขึ้นเครื่องให้เทียบเท่ากับสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค โดยปรับจาก 5 กิโลกรัม เป็น 7 กิโลกรัม สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัดและชั้นประหยัดพรีเมียม ส่วนผู้โดยสารชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่ง จะปรับเป็น 10 กิโลกรัม และ 15 กิโลกรัมตามลำดับ
นโยบายเกี่ยวกับการโหลดกระเป๋าสัมภาระใหม่นี้จะสามารถใช้ได้กับเที่ยวบินที่มีการออกหรือเปลี่ยนบัตรโดยสารในวันที่ 15 กันยายน 2559 หรือหลังจากนั้น ส่วนนโยบายสำหรับกระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่องจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2559 เป็นต้นไป
ผู้โดยสารสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายเกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคได้ที่ www.cathaypacific.com และสายการบินดรากอนแอร์ที่ www.dragonair.com ภายใต้หัวข้อ 'ข้อมูลสัมภาระ'
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit