มร.แลรี่ ลี เชียว ลิม กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัททีเอพี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ และเชียร์ ในประเทศไทย กล่าวว่า "การได้มาซึ่งความสำเร็จไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ทั้งหมดเกิดจากความมุมานะ ความพยายามในการศึกษาหาความรู้ ซึ่งบริษัทฯมองเห็นว่า การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้ในระยะยาว จึงสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชนอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรม 'ทุนน้ำใจทีเอพี' และการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรพนักงานของบริษัทฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อสังคมที่ทางบริษัทฯทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี"
บริษัทฯ ได้เริ่มยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนโดยรอบโรงงานในตำบลไทรใหญ่ และตำบลราษฎร์นิยม อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ด้วยการจัดตั้ง 'ทุนน้ำใจทีเอพี' ขึ้น โดยมอบให้กับนักเรียนที่มีผลการเรียนดีและมีความประพฤติดี ให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือจนจบชั้นอุดมศึกษาโดยไม่ต้องชดใช้ทุน
อ.วารุณี บรรจง อาจารย์ประจำโรงเรียนราษฎร์นิยม ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับ'ทุนน้ำใจทีเอพี' กล่าวว่า ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่ ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง หรือไม่ก็เกษตรกร ซึ่งรายได้ต่อเดือนอาจไม่สามารถจุนเจือการศึกษาของเด็กได้ในระยะยาวจนจบระดับชั้นอุดมศึกษา ซึ่งทุนการศึกษานี้สามารถต่อยอดความฝันของเด็กหลายคนให้เป็นจริงขึ้นมาได้
นายสิทธิโชค นรจีน อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สายวิทย์-คณิต เป็นหนึ่งในเยาวชนคนเก่งที่ได้รับทุนน้ำใจทีเอพี ต่อเนื่อง มาตั้งแต่ตอนเรียนม.1 และกำลังมุ่งมั่นกับการเรียน เพื่อคว้าความฝันกับอาชีพวิศวกร "พ่อแม่ปลูกฝังมาตลอดให้ตั้งใจเรียน ให้เรียนสูงที่สุดเท่าที่จะสามารถ ซึ่งผมเองก็อยากทำความฝันของทั้งสองท่านให้เป็นจริง จึงตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด โดยคิดไว้ว่าอยากเรียนให้จบระดับปริญญาโท และอยากทำงานเป็นวิศวกร เพราะผมชอบคำนวณ ชอบออกแบบ และทุนน้ำใจทีเอพีช่วยแบ่งเบาภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนได้มาก ซึ่งผมจะพยายามตั้งใจเรียนให้เต็มที่ที่สุด"
นางสาวมะลิวัลย์ ม่วงป๋อ หรือเนย นักกีฬามวยปล้ำทีมชาติไทย อายุ 20 ปี หนึ่งในนักเรียนที่ได้รับทุนน้ำใจทีเอพี มาตั้งแต่ปีแรกที่ได้จัดตั้งโครงการ ซึ่งในตอนนั้นเธอยังอายุเพียง 14 ปี แต่ด้วยเงินสนับสนุนทางด้านการศึกษาทำให้มะลิวัลย์สามารถเดินตามความฝันทั้งในเรื่องเรียน และด้านกีฬาได้
เรียนดี กีฬาเด่น เป็นคำที่บ่งบอกถึงตัวตนของเนยได้ดีที่สุด แม้ครอบครัวจะขัดสนในเรื่องเงินทอง เนื่องจากมีอาชีพเกษตรกรและต้องเช่าพื้นที่ในการทำนา แต่ไม่สามาถบั่นทอนความมุ่งมั่นของเนยที่มีต่อเป้าหมายทางการศึกษาได้ เธอตั้งใจเรียนอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ชั้นประถม เพื่อเดินหน้าคว้าฝันในอาชีพ "ครู"
จุดเปลี่ยนในชีวิตของเนยมาถึงเมื่ออายุได้ 13 ปี ขณะกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในโรงเรียนวัดปลายคลองขุนศรีเมื่อได้รู้จักกับกีฬาประเภท "มวยปล้ำ" เนยตั้งใจฝึกกีฬาประเภทนี้อย่างจริงจัง ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการนำเงินที่ได้จากการเล่นกีฬามาจุนเจือครอบครัวและเป็นทุนการศึกษาต่อไป จากเดิมที่มีหน้าที่ตั้งใจเรียนในห้องเรียน เนยต้องตื่นขึ้นมาฝึกตั้งแต่ตี 5 ก่อนจะมาเข้าเรียนให้ทันตอน 8 โมงเช้า และเมื่อเลิกเรียนก็เริ่มซ้อมอีกครั้งตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึง 2 ทุ่ม เป็นแบบนี้อยู่ถึง 2 ปี ก่อนที่เนยจะสามารถคว้าเหรียญรางวัลแรกมาครองได้ "ตอนแรกเล่นเพราะอยากลอง แต่พอรู้ว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเอง ก็เลยตั้งความหวังกับกีฬาประเภทนี้มาเรื่อยๆ โดย 2 ปีแรกที่ฝึกไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย มีเพียงแค่เบาะสำหรับยืดหยุ่นเท่านั้น แต่ก็ค่อยๆ ทำผลงานจนได้รับเหรียญเยาวชนแห่งชาติ ติดทีมชาติชุดเยาวชน และเป็นตัวแทนทีมชาติไทยชุดใหญ่ร่วมแข่งขันซีเกมส์ และเอเชี่ยนเกมส์"
ถึงแม้จะประสบความสำเร็จระดับทีมชาติในกีฬามวยปล้ำ แต่เรื่องการเรียนเป็นสิ่งที่เนยไม่เคยละเลย และรักษาเกรดเฉลี่ยให้ได้เกิน 3 อยู่ตลอดทุกเทอม จนได้รับทุนน้ำใจทีเอพี อย่างต่อเนื่องมาถึง 6 ปีจนถึงปัจจุบันซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ที่คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเชียงใหม่ "แม้จะทุ่มเทให้กีฬามากแค่ไหน แต่เนยก็ไม่เคยทิ้งการเรียน เพราะความรู้เป็นสิ่งสำคัญมาก นักกีฬาเมื่อวันหนึ่งร่างกายไม่ไหวก็ต้องเลิก แต่การศึกษาและความรู้จะอยู่ติดตัวเราไปตลอด เนยจึงแบ่งเวลาให้กับการเรียนพอๆ กับกีฬา ซึ่งต้องขอบคุณกลุ่มบริษัททีเอพี ที่สนับสนุนทุนการศึกษาให้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้เนยเติมเต็มความฝันที่จะเป็นครูได้สำเร็จ"
นอกจากนี้ พนักงานกลุ่มบริษัททีเอพี นำโดย มร.แลรี่ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและตัวแทนพนักงาน ได้ร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรมเพื่อสังคม ด้วยการบริจาคสิ่งของใช้ที่จำเป็น ให้กับสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งของกลุ่มบริษัททีเอพี ที่มุ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนต่อไป
"ผมและพนักงานทุกคน ยังให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนต่อไป โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชน เพื่อเป็นการขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนบริษัทฯให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องมาถึง 21 ปี เราเชื่อว่าการสนับสนุนการศึกษาไม่เพียงส่งผลดีต่อเยาวชนที่ได้รับทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อทั้งสังคม เศรษฐกิจและความก้าวหน้าของประเทศ เรารู้สึกยินดีทุกครั้งที่ได้เห็น เยาวชนรุ่นใหม่ได้รับโอกาสในการพัฒนาความรู้และประสบการณ์ โดยพวกเขาเหล่านั้นจะร่วมกันกลับมาทำสิ่งดีๆ ตอบแทนให้กับชุมชนของตน และสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศชาติของเราในอนาคต" มร.แลร์รี่ กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit