มิวเซียมสยาม เปิดไอเดียกระตุ้นคนไทยเรียนรู้ผ่านพิพิธภัณฑ์ ชู 3 โครงการนิทรรศการเคลื่อนที่ ตั้งเป้าเสิร์ฟความรู้ทั่วไทย

25 Aug 2016
มิวเซียมสยาม รุกกระตุ้นคนไทยสร้างนิสัยการเรียนรู้ผ่านพิพิธภัณฑ์ นำร่องชู 3 โครงการนิทรรศการเคลื่อนที่ อันได้แก่ โครงการมิวเซียมติดล้อ โครงการมิวส์คาราวาน และโครงการมิวเซียมสยามมินิ โดยทั้ง 3 โครงการเป็นการนำองค์ความรู้จากการจัดทำนิทรรศการในอดีตของมิวเซียมสยาม ทั้งนิทรรศการชั่วคราว นิทรรศการพิเศษ รวมไปถึงนิทรรศการถาวรที่เคยจัดแสดงอยู่ ณ มิวเซียมสยาม มากว่า 8 ปี มาประยุกต์ให้เกิดเป็นสื่อการเรียนรู้ที่มีศักยภาพในการกระจาย องค์ความรู้สู่สังคมในวงกว้าง ตลอดจนมีความทันสมัย และเข้าใจง่าย ภายใต้แนวคิด "ให้ทุกการเรียนรู้ สนุกกว่าที่คิด" ทั้งนี้ มิวเซียมสยามได้จัดงานเปิดตัว"มิวเซียมสยามมินิ" กรุงเทพมหานคร พร้อมเปิดให้เข้าชม ระหว่างวันที่ 17 – 21 สิงหาคม 2559 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ลานเอเทรี่ยม 1 ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-225-2777หรือเข้าไปที่ www.facebook.com/museumsiamfan
มิวเซียมสยาม เปิดไอเดียกระตุ้นคนไทยเรียนรู้ผ่านพิพิธภัณฑ์ ชู 3 โครงการนิทรรศการเคลื่อนที่ ตั้งเป้าเสิร์ฟความรู้ทั่วไทย

นางซองทิพย์ เสริมสวัสดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายมิวเซียมสยาม กล่าวว่า มิวเซียมสยาม ในฐานะพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ มีพันธกิจในการส่งเสริมและผลักดันค่านิยมการท่องเที่ยวและแสวงหาความรู้ผ่านพิพิธภัณฑ์ (Museum Culture) ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประชาชนมีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างห่างไกลจากการเข้าถึงพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ดังนั้นในปี 2559 มิวเซียมสยาม จึงตั้งเป้าที่จะนำองค์ความรู้ออกนอกรั้วพิพิธภัณฑ์ พร้อมกระจายองค์ความรู้เหล่านั้นสู่สังคมไทยในสถานที่ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้เครือข่าย ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค ผ่าน 3 โครงการนิทรรศการเคลื่อนที่ ภายใต้แนวคิด "ให้ทุกการเรียนรู้ สนุกกว่าที่คิด" อันได้แก่ มิวเซียมติดล้อ มิวส์คาราวาน และมิวเซียมสยามมินิ

สำหรับโครงการ "มิวเซียมติดล้อ" เป็นการจัดนิทรรศการอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยภายในคอนเทนเนอร์ที่สามารถเคลื่อนที่ไปจัดแสดงยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 ชื่อนิทรรศการ "เรียงความประเทศไทย ฉบับย่อ" ปัจจุบันจัดแสดง ณ อุทยานการเรียนรู้ตราด จังหวัดตราด ชุดที่ 2 ชื่อ "ฮู้จักเพื่อนไทย เข้าใจตัวตน คนอีสาน" ปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์ และชุดที่ 3 ชื่อชุดนิทรรศการ "อัจฉริยภาพตัวตนคนอีสาน" ปัจจุบันจัดแสดง ณ ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยสัญจรอย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 32 จังหวัด ในภูมิภาคต่างๆ ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานในท้องถิ่นทั้งภาครัฐและเอกชน มากกว่า 70 หน่วยงาน และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนในทุกภูมิภาคที่เข้าชมชุดนิทรรศการมากกว่า 300,000 คน

ส่วนโครงการ "มิวส์คาราวาน" เป็นกิจกรรมการเรียนรู้เคลื่อนที่ที่ส่งตรงองค์ความรู้ถึงโรงเรียน โดยประกอบ "มิวส์สคูล" รถกางปีกได้ที่ภายในเต็มไปด้วยสาระน่ารู้เกี่ยวกับ 4 อาชีพในฝันของเด็กๆ อันประกอบไปด้วยอาชีพ ทหาร แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และสถาปนิก โดยนำเสนอผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย รวมไปถึงเกม การทดลอง และกิจกรรมการเรียนรู้ อาทิ การทดลองขับเคลื่อนหุ่นยนต์ด้วยน้ำเกลือ เกมสร้างบ้านอัจริยะตามแปลนจำลอง เป็นต้น นอกจากนั้นก็ยังมี "มิวส์บัส" ที่จะพาเด็กๆ ไปเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนรู้ ด้วยบริการรถรับส่งสู่แหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจ อาทิ พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร และพิพิธภัณฑ์เด็ก เป็นต้น โดยตั้งเป้าให้ความรู้แก่สถานศึกษานำร่องรวมกว่า 150 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมจำนวนนักเรียนกว่า 25,000 คน ในปี 2559

สุดท้ายกับโครงการล่าสุดอย่าง "มิวเซียมสยามมินิ" นิทรรศการฉบับย่อไอเดียใหม่ที่นำเสนอเรื่องราวใกล้ตัวที่เกี่ยวพันกับวิถีชีวิตประจำวัน ใน 3 มิติ ทั้ง การกิน การพูด และการขับถ่าย ที่นำมาร้อยเรียงใหม่ผ่าน 3 นิทรรศการไฮไลท์ที่เคยได้รับความนิยมในอดีต อันได้แก่ นิทรรศการ "กินของเน่า" นิทรรศการ "คำไทย ใครทำ" และนิทรรศการ "สืบจากส้วม" เพื่อสะท้อนและให้ความรู้เรื่องราวความเป็นไทย ในเทคนิคและวิธีการนำเสนอที่หลากหลาย ทั้งการจัดแสดงวัตถุที่จับต้องได้งานกราฟฟิก และอินเทอร์แอคทีฟมัลติมีเดีย ที่สามารถตอบโต้และกระตุ้นการเรียนรู้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ ตลอดจนประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของความเป็นไทยได้อย่างเข้าใจและสนุกสนาน โดยนิทรรศการดังกล่าวได้จัดแสดงมาแล้วทุกภูมิภาคทั่วไทย อาทิ เชียงใหม่ หาดใหญ่ ขอนแก่น โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าชมนิทรรศการกว่า 10,000 คน อีกทั้งยังกำหนดจัดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นแห่งสุดท้าย ในเดือนสิงหาคมนี้ ณ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ โดยนิทรรศการดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

นิทรรศการ "กินของเน่า" นิทรรศการที่จะพาคุณย้อนเวลาไปสัมผัสถึงวิธีการถนอมอาหาร เมื่อครั้งที่ยังไม่มีตู้เย็นประจำบ้าน อันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่โบราณทั้งจากคนไทยแต่ดั้งแต่เดิมก็ดี หรือจะเป็นการรับจากเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงมาปรับใช้ก็ดี ซึ่งนำไปสู่การสรรสร้างเมนูอาหารใหม่รสชาติอร่อยที่หลายคนคุ้นเคย พร้อมกับเสิร์ฟรอให้ลองลิ้มชิมรสบนโต๊ะอาหารอย่างหลากหลายอาทิ "ขนมจีน" เมนูคุ้นเคยของคนภาคเหนือ ที่ได้จากการหมักข้าวในน้ำสะอาด โดยให้จุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นในกระบวนการหมักช่วยย่อยแป้งและทำให้เกิดกลิ่น "ปลาร้า" เมนูขึ้นชื่อของพี่น้องชาวอีสาน ที่ได้จากการนำปลามาหมักรวมกับเกลือ ข้าวหรือรำ และจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นในประบวนการหมัก รวมไปถึงเครื่องปรุงรสอื่นๆ ตามแบบฉบับคนไทย อย่างน้ำปลา พริกแกง และซีอิ้วขาว เป็นต้น

นิทรรศการ "คำไทย ใครทำ" นิทรรศการที่จะพาคุณไปลงลึก ถึงรากกำเนิดของคำไทยที่ใช้ในปัจจุบันว่า แต่ละ "คำ" ที่เราใช้ "พูด" หรือ "คุย" กันในชีวิตประจำวันนั้น แท้จริงแล้วเป็นคำที่เรายืมมาจากภาษาอื่นยืมมาแล้วก็ไม่คืนยืมมาจนเชื่อว่าเป็นของเราเองซึ่งที่มาที่ไปมาจากช่องทางใด หรือเพี้ยนมาจากภาษาต่างประเทศอย่างไรบ้างนั้น ได้นำเสนอผ่านเสื้อยืดที่แขวนเรียงรายอยู่ในห้องเสื้อ ที่สกรีน "คำ" ที่เราใช้กันจนคุ้นเคย พร้อมที่มาและความหมายอย่างเสร็จสรรพ อาทิ คำว่า "มโน" มาจากคำในภาษาบาลีและสันสกฤตที่อ่านว่า "มนะ และ มนัส" หมายถึง ใจ จิตใจ คำว่า "จิ้น" มาจากคำภาษาอังกฤษว่า "อิแมจิ้น" (imagine) หมายถึง จินตนาการ หรือคำว่า "กุลี" มาจากคำในภาษาอินเดียที่ว่า "กุลิ" หมายถึงค่าจ้างรายวัน เป็นต้น

นิทรรศการ "สืบจากส้วม" นิทรรศการที่รวบรวมวัฒนธรรมการปลดทุกข์ของคนไทยในแต่ละยุคสมัยพร้อมกับจัดแสดงอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ใช้ระหว่างปลดทุกข์เมื่อครั้งยังต้องขับถ่ายกันในทุ่งหรือท่าน้ำ อย่างกาบมะพร้าว หนังสือพิมพ์ ขันน้ำ และไม้แก้งก้น ฯลฯ ไปจนถึงโถสุขภัณฑ์ที่มีให้เลือกใช้หลากหลาย หลังจากทางการมีนโยบายในการปรับวิถีการขับถ่ายให้เหมาะสมกับสุขอนามัย อาทิ "ส้วมพระ หรือ เว็จกุฏิ" ส้วมภายในวัดที่มีรูและร่องสำหรับแยกอุจจาระไม่ให้ปนกับปัสสาวะโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ "ถังเท" ส้วมสาธารณะที่มีลักษณะคล้ายส้วมหลุม โดยจะใช้ถังวางไว้ใต้ฐานไม้สำหรับรองอุจจาระจากนั้นจะมีบริษัทเอกชนนำถังไปเททิ้งที่อื่น และ "ผ้าอ้อมผู้ใหญ่" ส้วมยุคใหม่ที่สะดวกแก่การพกพา เป็นต้น

ทั้งนี้ สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนผู้สนใจ สามารถเข้าชม "มิวเซียมสยามมินิ" ได้ระหว่างวันที่ 17 – 21 สิงหาคม 2559 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ลานเอเทรี่ยม 1 ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-225-2777 หรือเข้าไปที่ www.facebook.com/museumsiamfan

HTML::image( HTML::image( HTML::image(