มาลีสามพราน ปลื้มผลประกอบการปี 2558 เติบโตต่อเนื่อง รายได้รวม 5,512 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 330.7 ล้านบาท พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

29 Feb 2016
บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) (MALEE) เผยผลประกอบการปี 2558 มีรายได้รวม 5,512ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 14 และมีกำไรสุทธิ 330.7 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7.8 ผู้บริหารเผยเป็นผลสำเร็จจากการปรับกลยุทธ์เร่งขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น พร้อมเตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

"ผลประกอบการของบริษัทในปี 2558 ที่ผ่านมาถือว่าบริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมาย กล่าวคือ ยอดขายโตถึง 14% แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศจะยังเติบโตได้ดีไม่มากนัก แต่ด้วยกลยุทธ์ในปีที่ผ่านมาบริษัทมุ่งเน้นตลาดส่งออกมากขึ้น ทำให้บริษัทสามารถเติบโตยอดขายบริษัทได้ค่อนข้างดี โดยการส่งออกในปีที่ผ่านมาเติบโตสูงถึงร้อยละ 44 ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งในส่วนของสินค้าแบรนด์ของบริษัท และธุรกิจรับจ้างผลิต" นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ กล่าว

ในปี 2559 นี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตยอดขาย และรักษาอัตรากำไรไว้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน Monde Malee Beverage Corporation (MMBC) ที่ผ่านมาที่ประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมกับ Monde Nissin Corporation โดยบริษัทร่วมทุนจะเริ่มจำหน่ายสินค้าภายในไตรมาส 1 ของปี 2559 นี้ ซึ่งจะสามารถเพิ่มเติมยอดขายของบริษัทได้มากขึ้นในปีนี้ และเป็น Growth Engine ของบริษัทต่อไปในอนาคต บริษัทมีเป้าหมายจะเติบโตยอดขายในฟิลิปปินส์ให้เท่ากับยอดขายแบรนด์ของบริษัทภายในประเทศในปัจจุบัน ในอีก 3 - 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายในการเพิ่มยอดขายของบริษัทให้ได้ 10,000 ล้านบาทภายในปี 3 ปี นับจากนี้

นอกจาก การเติบโตในด้านผลการดำเนินงานบริษัท ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้บริษัทเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืนในอนาคตได้ โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต การลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นในการดำเนินงาน ตลอดจนการพัฒนาบุคคลากร และการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการเติบโต ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงผลสำเร็จ ภายในปี 2559 และปีต่อๆ ไป

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัท ได้มีมติเพื่อนำเสนอผู้ถือหุ้นขออนุมัติการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทต่อไปในอนาคต ซึ่งจะขออนุมัติต่อผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 เมษายน 2559 ในวันจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท