เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบในการยื่นคำขอ ได้แก่
(1) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอรับใบอนุญาต พร้อมบัตรตัวจริงมาแสดง (ที่ยังไม่หมดอายุ)
(2) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ และหลักฐานแสดง วัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการประมง ซึ่งออกให้ไม่เกิน 6 เดือน (กรณีที่เป็นนิติบุคคล)
(3) สำเนาใบทะเบียนเรือไทยและสำเนาใบอนุญาตใช้เรือ พร้อมตัวจริงมาแสดง (ใบอนุญาตใช้เรือต้องมีอายุเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 30 วัน ในวันที่ยื่นคำขอ)
(4) หนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีที่มีการมอบอำนาจ) พร้อมติดอากรแสดมป์ 10 บาท
(5) สำเนาใบอนุญาตทำการประมงในปีการประมงที่ผ่านมา (ถ้ามี)
(6) สำเนาแบบรายงานการติดตั้งระบบติดตามเรือ (VMS) กรณีเรือขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป
(7) รูปถ่ายของเรือประมงและเครื่องมือทำการประมงที่เห็นรายละเอียดชัดเจน (ไม่เกิน 6 เดือน) จำนวน 4 รูป ดังนี้
(7.1) รูปหัวเรือที่เห็นทะเบียนเรือและชื่อเรือประมง จำนวน 1 รูป
(7.2) รูปเรือเต็มลำด้านซ้าย จำนวน 1 รูป
(7.3) รูปเรือเต็มลำด้านขวา จำนวน 1 รูป
(7.4) รูปเครื่องมือทำการประมงที่ขออนุญาตซึ่งอยู่บนเรือประมง จำนวน 1 รูป
(8) หลักฐานที่แสดงถึงสิทธิครอบครองในเรือประมงจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ (กรณีผู้ขอรับอนุญาตไม่ใช่เจ้าของเรือ)
(9) หนังสือยินยอมของผู้ปกครอง (กรณีเป็นผู้เยาว์)
ทั้งนี้ กรมประมง จะแจ้งให้ผู้ที่ได้รับการพิจารณาอนุญาตฯ มาชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและอากรทำการ
ประมง พร้อมรับใบอนุญาตฯ / เครื่องหมายประจำเรือประมง / บัตรสำหรับใช้แทนใบอนุญาตฯ / สติ๊กเกอร์ประจำเรือประมง ณ อำเภอท้องที่ ที่ยื่นคำขอ ในระหว่างวันที่ 28 – 31 มีนาคม 2559 และวันที่ 1 เมษายน 2559 สามารถออกทำประมงได้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เรือประมงที่ทำการประมงพาณิชย์ทุกลำจะต้องทำเครื่องหมายประจำเรือประมงให้เรียบร้อย ภายในวันที่ 30 เมษายน 2559
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit