นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากปัญหาและอุปสรรคขอ อุตสาหกรรมสิ่งทอ ผ้าผืน และเครื่องหนังที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการขาดแคลนแรงงาน เพราะต้นทุนการผลิตเครื่องนุ่งห่มสูงกว่าเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งบางประเทศ เช่น จีน เวียดนาม อินเดีย และบังกลาเทศ อีกทั้งยังขาดการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มในเชิงลึกอย่างครบวงจร ขาดแคลนวัตถุดิบหนังฟอกคุณภาพสูงและหนังฟองที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆในกระบวนการผลิต ราคาวัตถุดิบ มีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาหนังดิบจากในและต่างประเทศมีความผันผวนและมีแนวโน้มสูงขึ้น จากภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์เพื่อใช้หนัง ที่สำคัญมาตรการกีดกันทางการค้า เช่น Anti-Dumping และ Safeguard สินค้าเส้นด้าย ผ้าผืนและเส้นใย ส่งผลให้ตลาดส่งออกของไทยแคบลง และสินค้าชนิดเดียวกันแย่งส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทย อีกทั้งการที่ประเทศไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) จากสหภาพยุโรป ในปี 2558 อาจทำให้การส่งออกชะลอตัวในอนาคต และทำให้มีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นและเพื่อเป็นการช่วยเหลืออุตสาหกรรมดังกล่าวข้างต้นทางกรมฯจึงจัดงาน BIFF&BIL 2016 ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 34 ภายใต้แนวคิด Catching the Creative Spirit ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-13 มีนาคม 2559 (วันเจรจาธุรกิจ 9 - 11 มีนาคม 2559 เวลา 10.00 – 18.00 น. วันจำหน่ายปลีก 12 - 13 มีนาคม 2559 เวลา 10.00 – 21.00 น.) ณ อาคารชาเลนเจอร์1–2 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยใช้พื้นที่ทั้งหมด 25,000 ตารางเมตร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนังที่ครบวงจรที่มีสินค้าต้นน้ำอุตสาหกรรมไปจนถึงสินค้าปลายน้ำ อีกทั้งเพื่อให้เป็นเวทีในการเจรจาการค้าและสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน รวมทั้งเป็นแหล่งรวมของผู้ผลิต ผู้ส่งออกของประเทศ ผู้นำเข้าและดีไซน์เนอร์ทั้งใน และต่างประเทศเช่น เยอรมัน สเปน จีนญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า เป็นต้น
"จุดเด่นและโฉมใหม่ของการจัดงาน BIFF&BIL 2016 ในครั้งนี้ เป็นการจัดแสดงสินค้าภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ และแนวคิดใหม่ซึ่งต่อยอดจากแนวคิดเดิม Catching the Creative Spirit โดยจะนำเสนอออกมาในรูปแบบของ "Spirit of Things" หรือการแสดงจิตวิญญาณ ความสามัคคี ความมุ่งมั่น ความสามารถ การสร้างสรรค์ และพลังของอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนังที่ได้เดินทางร่วมกัน และสรรค์สร้างความสำเร็จในวันนี้ โดยเราได้กำหนดยุทธศาสตร์ของงาน วางแผนกลยุทธ์การสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ และการบริหารงานอย่างต่อเนื่องชัดเจน เพื่อสร้างแบรนด์ BIFF&BIL ให้เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นและอยู่ในอันดับต้นๆ ของวงการแฟชั่นและเครื่องหนังทั้งในและต่างประเทศ" นางมาลี กล่าว
นางมาลี กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังได้จัดแสดงสินค้าใหม่เป็นโซนแสดงสินค้าตามสไตล์ของแฟชั่นและอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าแฟชั่นทุกชนิด เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้ง่าย ทำให้เกิดการตัดสินใจทางธุรกิจที่รวดเร็วและช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มาแสดงงานสามารถต่อยอดธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น จำนวน 4 โซน ได้แก่ 1. The Urban สินค้าแฟชั่นเครื่องหนังที่เป็นทางการ (Formal/Business Attire) 2. The Casual สินค้าแฟชั่นเครื่องหนังลำลอง (Casual wear) 3. The Heritage สินค้าแฟชั่นเครื่องหนังสไตล์เอกลัษณ์ของแต่ละประเทศ อาทิ ผ้าไหม สิ่งทอพื้นเมือง ฯลฯ และ 4. The Source กลุ่มสินค้าวัตถุดิบ เส้นใยสิ่งทอผลิตภัณฑ์สิ่งทอ วัสดุตกแต่ง เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าแฟชั่นทุกชนิด
"การส่งออกสินค้าสิ่งทอ (เดือนมกราคม-ธันวาคม 2558) มีมูลค่า 6,838.57 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 8.33 (ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา) ,มูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องนุ่งห่ม (เดือนมกราคม- ธันวาคม 2558) มูลค่า 2,648.80 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 7.30 ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส ,มูลค่าการส่งออกสินค้าผ้าผืนและเส้นด้าย (เดือนมกราคม-ธันวาคม 2558) มูลค่า 2,170.74 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 11.74 ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ เวียดนาม จีน บังกลาเทศ ญี่ปุ่น เมียนมาร์ ,มูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องหนัง เครื่องใช้สำหรับเดินทาง และรองเท้า (เดือนมกราคม-ธันวาคม 2558) มูลค่า 1,769 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ -4.85 ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สำหรับเป้าหมายการส่งออกในปี 2559 สินค้าเครื่องนุ่งห่ม มูลค่า 2,702 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 สินค้าผ้าผืนและเส้นด้าย มูลค่า 2,171 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับปีที่ผ่านมา (0%) และ สินค้าเครื่องหนัง เครื่องใช้เดินทางและรองเท้า มูลค่า 1,769 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับปีที่ผ่านมา (0%)"นางมาลี กล่าว
อย่างไรก็ตามคาดว่าวันเจรจาธุรกิจจะมีผู้เข้าชมงาน 7,000 ราย แบ่งเป็นในประเทศ 5,000 ราย และต่างประเทศ 2,000 ราย(ครั้งที่ผ่านมา วันเจรจาธุรกิจ มีผู้เข้าร่วมชมงาน 6,406 ราย ในประเทศ 3,540 ราย และ ต่างประเทศ 2,866 ราย ส่วนวันจำหน่ายปลีก มีจำนวน 23,052 ราย)
สำหรับจำนวนแขกพิเศษในงานคาดว่า EX1 22 ราย (ครั้งที่ผ่านมา EX1 จำนวน 23 ราย (ยุโรป 15 ราย อเมริกา 1 ราย) คาดการณ์ EX2 64 ราย (ครั้งที่ผ่านมา EX2 จำนวน 46 ราย) คาดการณ์Trade Mission 234 ราย (ครั้งที่ผ่านมา จำนวน 237 ราย)
a
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit