ปริมาณการผลิตรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ในปี 2558 อยู่ที่ 7 ล้านตัน เปรียบเทียบกับ 6.2 ล้านตันในปี 2557 และจากโครงการความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติงานที่ได้ดำเนินงาน ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรหลักสุทธิอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value-added products) คิดเป็นร้อยละ 48 ของกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) และเป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวเป็นการลงทุนที่สร้างมูลค่าและตอบสนองความต้องการตลาด เนื่องจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องกับการตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม สมรรถนะของผลิตภัณฑ์และสุขภาพความปลอดภัย บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวมในปี 2558 อยู่ที่ 236 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ 244 พันล้านบาทในปี 2557 ซึ่งลดลงเล็กน้อยเป็นผลมาจากราคาสินค้าที่ลดต่ำลงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.6 พันล้านบาทจาก 1.6 พันล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันปี 2557 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 295 ไอวีแอลมีการรับรู้การขาดทุนจากการลดมูลค่าของสินค้าคงเหลือ ซึ่งเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด จำนวน 2.3 พันล้านบาท (หลังจากการปรับปรุงทางภาษี) เป็นผลจากการลดลงอย่างรวดเร็วของราคา แต่มีรายได้จากรายการพิเศษ จำนวน 2.4 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากกำไรจากการต่อรองราคาการเข้าซื้อกิจการ
ในปี 2558 บริษัทฯ เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ 6 แห่งและมีข้อตกลงเข้าซื้อกิจการอีก 2 แห่งที่คาดว่าจะเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2559
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit