บริษัท TPN จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนดให้บัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มทุกใบต้องใช้มาตรฐานความปลอดภัยแบบ EMV Chip ภายในกลางปีนี้ และรายการที่ทำผ่านบัตรเดบิตที่ออกในประเทศทุกรายการต้องได้รับการประมวลผลในประเทศ
TPN เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มธนาคารไทยและยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนลของจีน จะทำหน้าที่ประมวลผลการชำระเงินในประเทศ ให้บริการสวิตช์ชิ่งข้อมูลสำหรับการชำระเงินผ่านบัตรเดบิตยูเนี่ยนเพย์ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายระบบชำระเงินใหม่เพื่อรองรับการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย
การจัดตั้งเครือข่ายระบบชำระเงินในประเทศมีประโยชน์หลายประการ รวมทั้ง ร้านค้าและธนาคารมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง บัตรเดบิต TPN มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี และมีเครือข่ายร้านค้าที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งร้านค้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมทั้งลูกค้าก็สามารถทำการชำระเงินได้อย่างสะดวกสบายขึ้น
คุณโชค ณ ระนอง ประธานบริษัท TPN กล่าวว่า "บัตรเดบิต TPN ที่ออกภายใต้แบรนด์ในประเทศ (local card scheme) จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่เจ้าของร้านค้าจะมีความเสี่ยงน้อยลงเพราะไม่ต้องเก็บเงินสดจำนวนมาก ลูกค้าก็ซื้อของและจ่ายเงินได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ในขณะที่รัฐบาลก็สามารถลดต้นทุนด้านการบริหารงานที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน และผู้ให้บริการด้านการเงินก็สามารถให้บริการอีเพย์เมนต์ด้วยราคาที่ถูกลง นอกจากนี้ เมื่อต้นทุนในการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ถูกลง ลูกค้าก็สามารถชำระค่าสินค้าและบริการมูลค่าน้อยๆ ผ่านอีเพย์เมนต์ได้ และยังมั่นใจในความปลอดภัยของระบบ 'Chip and PIN 6 หลัก' ได้อย่างเต็มที่"
คุณโชค กล่าวเสริมว่า "ธุรกรรมบัตรเดบิตคิดเป็นเพียง 2% ของมูลค่าการถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มทั้งหมด ที่ผ่านมา ร้านค้าไม่มีแรงจูงใจรับบัตรเดบิต เนื่องจากค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมสูง และลูกค้าส่วนใหญ่ก็ไม่มีความมั่นใจในการใช้บัตร และกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของบัตรแม่เหล็ก ผมมั่นใจว่า ด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกลงมาก และมาตรฐานความปลอดภัยสูงด้วยระบบ 'Chip and PIN 6' บัตรเดบิต TPN จะได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มเจ้าของกิจการขนาดเล็ก ลูกค้าทั่วไป และธนาคารผู้ออกบัตร"
TPN ใช้เทคโนโลยีของยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก และมีฐานลูกค้าบัตรเดบิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Mr. Ge Huayong กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทไชน่า ยูเนี่ยนเพย์ (Chairman, China UnionPay) กล่าวว่า "โครงสร้างของความร่วมมือทางเครือข่ายการให้บริการสวิตช์ชิ่งภายในประเทศ (local switching network) ระหว่างสถาบันการเงินหลักในประเทศไทยนับเป็นอีกขั้นของความร่วมมือทางด้านการเงินระหว่าง จีน-ไทย มาถึงตอนนี้พวกเราพร้อมแล้วที่จะนำประสบการณ์นานนับหลายปีของบัตรยูเนี่ยนเพย์มาให้บริการในประเทศไทย โดยพัฒนาผ่านระบบ TPN และช่องทางต่างๆที่เป็นไปได้ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-payment) ของไทย"
"เราต้องการให้การชำระเงินด้วยบัตรธนาคาร (Bankcard Payment) เข้าถึงระบบชำระเงินได้ในหลากหลายช่องทาง รวมไปถึงร้านค้ารายย่อย ระบบสาธารณูปโภค และสนับสนุนการให้บริการชำระเงินในประเทศ เราจะนำประโยชน์ต่างๆจากบัตรยูเนี่ยนเพย์เข้ามามีส่วนร่วมในโครงสร้างการชำระเงินและพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทย โดยเราจะเสริมคุณภาพการให้บริการและสนับสนุนศักยภาพเครือข่ายยูเนี่ยนเพย์อย่างต่อเนื่อง" Mr. Ge Huayong กล่าวเพิ่มเติม
ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนลและธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ถือหุ้นเบื้องต้นของ TPN ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์อีก 3 แห่ง ได้แก่ กสิกรไทย กรุงไทย และไทยพาณิชย์ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงแสดงความสนใจเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นใน TPN แล้วในปีที่ผ่านมา
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit