สายการบินลุฟท์ฮันซ่า ร่วมกับแอร์บัส และบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ (Pratt & Whitney) ในการฉลองการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ลำแรกของโลก ทั้งนี้ มร.คาร์สเทน สปอร์ ประธานกรรมการและประธานบริหารของกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า มร.ฟาบริซ เบรจิเย่ร์ ประธานและประธานบริหารแอร์บัส และ มร.โรเบิร์ต เลอดุค ประธานบริษัท แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ ได้เชิญแขกและตัวแทนสื่อมวลชนราว 700 คนมาร่วมงานส่งมอบเครื่องบินอย่างเป็นทางการ ณ ฮัมบูร์ก-ฟินเคนเวอร์เดอร์ โดยหลังจากพิธีการส่งมอบเครื่องบินแล้ว เครื่องบินรุ่นใหม่จำนวน 2 ลำแรกได้ถูกจัดแสดงต่อสาธารณชน ทั้งนี้ เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ลำแรก ซึ่งได้รับการลงทะเบียนในชื่อ ดี-เอไอเอ็นเอ(D-AINA) ได้เริ่มออกปฏิบัติการบินให้บริการแก่ผู้โดยสารตามกำหนดตั้งแต่เดือนมกราคม และเครื่องบิน "นีโอ" ลำที่สองถูกกำหนดให้เข้าร่วมฝูงบินแอร์บัสของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าเร็วๆ นี้ ประสบการณ์การปฏิบัติการบินครั้งแรกของเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ไม่เพียงแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินดังกล่าวสามารถนำเสนอคุณสมบัติในการลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงถึงอัตราร้อยละ 15 ได้สำเร็จ แต่การปฏิบัติการเครื่องบินครั้งนี้สามารถลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้มากกว่าอัตราร้อยละ 15 อีกด้วย นอกจากนี้ เครื่องยนต์ที่นำเสนอความเงียบที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายบนเครื่องบินของผู้โดยสาร อีกทั้งยังช่วยลดผลกระทบต่อผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงสนามบินจากการปล่อยเสียงรบกวนที่ลดลง
การพัฒนาและการแนะนำเครื่องบินที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดและนำเสนอความเงียบในระดับสูงสุดเพื่อการปฏิบัติการในเส้นทางที่มีพิสัยการบินระยะสั้นและระยะกลางเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ของความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จของอุตสาหกรรมการบินในระดับทวีปของยุโรป "ยุโรปเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบินอันน่าทึ่งนี้มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่อุตสาหกรรมการบินได้ถือกำเนิดขึ้น" มร.คาร์สเทน สปอร์ กล่าว "สายการบินลุฟท์ฮันซ่าและแอร์บัสได้พัฒนาความร่วมมืออันยาวนานเป็นเวลา 40 ปีที่มีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยความน่าเชื่อถือ ความร่วมมือของทั้งสองบริษัทได้ผลักดันและนำนวัตกรรมมากมายมาสู่ตลาด และยังเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จของอุตสาหกรรมการบินของทวีปยุโรป ทั้งนี้ เครื่องบินรุ่นใหม่อันทรงประสิทธิภาพอย่างเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ และเครื่องบินแอร์บัส เอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี ทำให้เราสามารถกำหนดมาตรฐานครั้งใหม่ให้กับผู้โดยสารของเรา ในขณะที่ยังสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญ ต่อผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงสนามบิน"
"ในนามของพนักงานทุกคนของแอร์บัส ผมขอแสดงความยินดีกับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าในฐานะที่เป็นลูกค้ารายแรกของเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ความร่วมมือของเรากับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้นำอุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ และผมเชื่อมั่นว่าเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ จะช่วยสนับสนุนวัตถุประสงค์ของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าในการยกระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติการเชิงสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ไม่เพียงลดอัตราการปล่อยมลพิษต่างๆ ในทุกขั้นตอนเชิงปฏิบัติการ แต่ยังช่วยลดผลกระทบจากเสียงรบกวนลงถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นก่อนหน้านี้" มร.ฟาบริซ เบรจิเย่ร์ ประธานและประธานบริหารแอร์บัส กล่าว
"ที่แอร์บัส เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนการเติบโตของสายการบินลุฟท์ฮันซ่ามาตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ผ่านความร่วมมือที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้ สายการบินลุฟท์ฮันซ่าปฏิบัติการบินด้วยเครื่องบินจากเกือบทุกตระกูลเครื่องบินของแอร์บัส ตั้งแต่เครื่องบินแอร์บัส เอ320 ไปจนถึงเครื่องบินแอร์บัส เอ380"
"บริษัท แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ รู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสเข้ามาสร้างการพัฒนาบนความร่วมมืออันลึกซึ้งและยาวนานระหว่างสายการบินลุฟท์ฮันซ่าและแอร์บัส ซึ่งได้นำอุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์เข้าสู่ยุคใหม่ด้วยการส่งมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ เกียร์ เทอร์โบแฟน (Geared Turbofan) ที่มีอัตราส่วนบายพาสในระดับสูง (ultra-high bypass ratio)" มร. โรเบิร์ต เดอลุค ประธานบริษัท แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ กล่าว "เราขอแสดงความยินดีกับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าในฐานะที่เป็นผู้ปฏิบัติการรายแรกที่จะได้รับผลประโยชน์มากมายที่เครื่องบินลำดังกล่าวและเทคโนโลยีเครื่องยนต์จะนำเสนอให้ ทั้งในเชิงประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า และการลดปริมาณการปล่อยเสียงรบกวนและการปล่อยมลพิษต่างๆ"
เมื่อเร็วๆ นี้ เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ลำดังกล่าว ได้ออกเดินทางจากโรงงานผลิตเครื่องบินของแอร์บัสในฮัมบูร์ก-ฟินเคนเวอร์เดอร์ ในเที่ยวบินพิเศษ ด้วยหมายเลขเที่ยวบิน LH9917 พร้อมด้วยแขกและตัวแทนสื่อมวลชนร่วมเดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ด้วย เที่ยวบินดังกล่าวได้หยุกพักเป็นระยะเวลาสั้นๆ ณ สนามบินฟูลสบูทเทลของกรุงฮัมบูร์กและเดินทางไปยังแฟรงก์เฟิร์ต เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ลำนี้ ได้รับการตกแต่งด้วยโลโก้พิเศษบริเวณส่วนหลังของลำตัวเครื่องบินของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าที่ระบุว่า "สายการบินแรกที่ปฏิบัติการเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ โดยนำเสนอเสียงรบกวนที่ลดลง เผาผลาญเชื้อเพลิงลดลง และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง"
โอกาสพิเศษอีกหนึ่งอย่างในการฉลองคือความร่วมมือที่มีระยะเวลา 40 ปีระหว่างสายการบินลุฟท์ฮันซ่าและแอร์บัส ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2519 สายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้ทำการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ300 ณ ฮัมบูร์ก-ฟินเคนเวอร์เดอร์ ทั้งนี้ สายการบินต่างๆ ในกลุ่มลุฟท์ฮันซ่าได้ทำการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสเป็นจำนวนทั้งหมด 582 ลำในระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่าเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของแอร์บัส ที่ปฏิบัติการด้วยเครื่องบินแอร์บัสทั้งหมด 392 ลำในปัจจุบัน ประกอบด้วยเครื่องบิน 284 ลำจากตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ320 และเครื่องบินแอร์บัส เอ380 จำนวน 14 ลำ
กลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้ทำการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ และ เอ321นีโอ ทั้งหมดจำนวน 116 ลำ ซึ่งมีกำหนดส่งมอบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยมีเครื่องบินจำนวน 60 ลำที่จะถูกติดตั้งด้วยเครื่องยนต์รุ่น พีดับเบิลยู1100จี-เจเอ็ม (PW1100G-JM) จากบริษัท แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ ระบบการเปลี่ยนเกียร์ 3:1 ซึ่งเป็นสื่อกลางพิเศษช่วยยืนยันถึงความเร็วในระดับที่ดีที่สุดของใบพัดแนวขวางที่มีความยาว 2.06 เมตรและกังหันที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ ทั้งนี้ เครื่องยนต์ใหม่และอากาศพลศาสตร์ที่ดียิ่งขึ้นทำให้เครื่องบินสามารถส่งมอบคุณสมบัติในการลดการปล่อยก๊าซมลพิษและเสียงรบกวนได้อย่างมีนัยสำคัญ และด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ครั้งใหม่นี้ ทำให้เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ลำใหม่ส่งผลกระทบด้านเสียงรบกวนเพียง 85 เดซิเบล ซึ่งคิดเป็นจำนวนเพียงครึ่งหนึ่งของเสียงรบกวนเมื่อเทียบกับเครื่องบินในฝูงบินที่มีอยู่แล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ เครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่าในอัตราอย่างน้อยร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับเครื่องบินแอร์บัส เอ320 รุ่นก่อนหน้านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ผลประโยชน์เชิงประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่านี้จะมีอัตราเพิ่มขึ้นสูงถึงราวร้อยละ 20 เมื่อคำนวณต่อที่นั่งผู้โดยสาร เพราะเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ซึ่งมีการพัฒนาการใช้งานพื้นที่ในห้องโดยสารที่ดียิ่งขึ้น ทำให้การแบ่งชั้นโดยสารธุรกิจมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้นและเพิ่มแถวที่นั่งผู้โดยสารได้มากถึง 2 แถว โดยประกอบด้วยที่นั่งผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นจำนวน 12 ที่นั่ง
นอกจากนี้ ลุฟท์ฮันซ่า เทคนิค (Lufthansa Technik) ยังพร้อมให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องบินใหม่รวมถึงระบบต่างๆ ของเครื่องบินแล้ว ซึ่งพอดีกับเวลาในการรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ลำแรกของสายการบิน โดยในขั้นตอนเบื้องต้น ลุฟท์ฮันซ่า เทคนิค ได้จัดเตรียมรากฐานเชิงบุคลากร เชิงการปฏิบัติการ และเชิงเทคนิคทั้งหมด เพื่อการสนับสนุนเชิงเทคนิคโดยสมบูรณ์สำหรับเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ในขั้นตอนแรก พนักงานที่ศูนย์กลางกลศาสตร์ซึ่งตั้งอยู่ในแฟรงก์เฟิร์ตได้รับการฝึกอบรมในกรุงฮัมบูร์กและมิวนิคพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็นที่มีอยู่อย่างครบครัน ทั้งนี้ สถานที่ฝึกอบรมในเครือของ ลุฟท์ฮันซ่า เทคนิค ได้รับการรับรองโดยสำนักงานการบริหารการบินแห่งชาติ (Federal Aviation Authority: FAA) ในปัจจุบัน ลุฟท์ฮันซ่า เทคนิค มีสัญญาการจัดหาชิ้นส่วนที่มีความพิเศษเฉพาะของฝูงบินแอร์บัส เอ320 ในอัตราหนึ่งในสามจากฝูงบินแอร์บัส เอ320 ที่มีอยู่ทั่วโลก
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit