จากกระแสตอบรับนี้เอง "สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด และบริษัท เอไทม์ มีเดีย จำกัด ในเครือบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เผยว่า "ถือว่าแรงเกินคาดยิ่งขึ้นไปอีกนะคะ ถึงแม้ว่าจริงๆ เราคิดอยู่แล้วว่า ละครเรื่องนี้จะต้องมาแรงและจะต้องเป็นกระแสที่พูดถึงกันอย่างแน่นอน เพราะตอน เพื่อนรัก เพื่อนร้าย ในภาคแรกก็ได้รับเสียงตอบรับดีมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้รับ ฟีตแบคดีขนาดนี้ในภาคต่อ ทุบสถิติละครทุกเรื่อง ของเรา ซึ่งถ้ามองจากตัวเลขนี้เราเชื่อว่าเป็นสัญญาณที่ดีของจีเอ็มเอ็ม 25 เพราะในช่วง เวลา 2 ทุ่ม ถือเป็นช่วงไพร์มไทม์ที่ทุกช่องแข่งขันกันดุเดือดที่สุด เราเองก็ได้ลงทุนพัฒนา ด้านการผลิตคอนเท็นต์ในปีนี้ไปเยอะมากเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากช่องอื่นๆที่มีอยู่ จนตอนนี้มีหลายเสียงชมว่าเป็นละครที่ไม่เหมือนใคร ภาพในละครสวยทุกฉาก แคสต์ติ้งนักแสดงที่ถูกใจและที่สำคัญที่สุดคือเนื้อหาที่โดน จนเกิดเป็นกระแสแชร์กันอย่างต่อเนื่อง ใน Social Media ที่ถือว่าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเราได้ดีที่สุด และเร็วที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นตั้งแต่ 15 ขึ้นไปจนถึง 39 ปี ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา"
"หลังจากนี้เราได้เตรียมแผนเดินหน้าต่อในแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้ครบทุกช่องทาง เพื่อสร้าง กระแสแรงต่อเนื่องจนถึงวันที่ละครออกอากาศ เชื่อว่าส่วนของ Online เป็นกลุ่มหลักของเราอยู่แล้ว น่าจะสามารถสร้างสถิติใหม่ทะลุโลกออนไลน์ได้อีกแน่นอน ส่วนของ On air รับรองว่าถ้าได้รับชม ตอนออกอากาศแล้ว จะต้องติดตามทุกอาทิตย์จนจบ เพราะเรื่องราวจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ เราทุกคนก็ใจจดใจจ่อให้ถึงวันที่ 15 มีนาคมนี้ เร็วๆ เพราะอยากลุ้นกันว่าตอนแรกจะเป็น อย่างไร โดนใจขนาดไหน รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะเราต้องการสร้างละครสนุก ในช่วงเวลาความสุข 2 ทุ่ม" บอสสาวกล่าวทิ้งท้าย
ด้วยกลยุทธ์ที่วางไว้เพื่อสร้างความแตกต่างไม่เหมือนใคร และเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน จะทำให้ช่อง GMM25 สามารถฝ่าด่านช่องทีวีดิจิทัลที่มีอยู่มากมาย โดยเฉพาะช่องหลักที่มีเรตติ้งสูง ในช่วงเวลาไพร์มไทม์ได้หรือไม่ หลังจากสร้างกระแส Talk of The Town เพียงชั่วข้ามคืน จนช่องอื่นๆ ต้องจับตามอง ต้องคอยลุ้นกันต่อว่าจะมีทีเด็ดอะไรออกมาเซอร์ไพร์สเพื่อช่วยตอกย้ำความแรงได้ตลอดปีนี้ เป็นอีกหนึ่งสีสันของศึกทีวีดิจิทัลช่วงนี้ที่ต้องติดตามแบบห้ามกระพริบตา...
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit