efin โชว์ผลงาน Auto Trade หรูหลังเปิดตัวเจ้าแรกในไทย โบรกเกอร์จ่อคิวใช้งานอื้อหลังมีลูกค้าในมือแล้ว 4 ราย

10 Mar 2016
"efin" (อีฟิน) เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการลงทุนในทุกมิติเพื่อสร้างนักลงทุนมืออาชีพ และสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนครบวงจร โชว์ผลงานหลังเปิดตัวฟังก์ชั่น "Auto Trade" ระบบการซื้อ-ขาย อัตโนมัติ ตามเงื่อนไขครั้งแรกในไทยพัฒนาโดยฝีมือคนไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการเพียง 3 เดือน มีโบรกเกอร์ใช้บริการ 4 แห่ง วอลุ่มเทรดโต 100% ต่อเนื่องสามเดือนติดต่อกัน คาดมีโบรกเกอร์สนใจใช้งานอีกจำนวนมากตามไลฟ์สไตล์นักลงทุนที่ต้องการเทรดหุ้นออนไลน์และต้องการฟังก์ชั่นการลงทุนอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงด้านการลงทุน
efin โชว์ผลงาน Auto Trade หรูหลังเปิดตัวเจ้าแรกในไทย โบรกเกอร์จ่อคิวใช้งานอื้อหลังมีลูกค้าในมือแล้ว 4 ราย

นายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ efin กล่าวว่า ภายหลังการเปิดตัวฟังก์ชั่นระบบคำสั่งซื้อขายหุ้นอัตโนมัติ "Auto Trade" (ออโต้ เทรด) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่นซื้อขายหลักทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ต "efin Trade Plus" (อีฟิน เทรด พลัส) เป็นรายแรกเมื่อสิ้นปี 2558 ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากผู้ใช้งานเป็นอย่างดี และสร้างกระแสอุตสาหกรรมพัฒนาระบบ Auto Trade มีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์ 4 แห่ง เลือกใช้ฟังก์ชั่นดังกล่าว ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และคาดว่าภายในปี 2559 จะมีผู้ใช้บริการฟังก์ชั่น "Auto Trade"(ออโต้ เทรด) เพิ่มเติมอีก 2-3 แห่ง ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน "efin Trade Plus" (อีฟิน เทรด พลัส) 15 ราย และคาดว่าภายในปี 2560 จะมีผู้ใช้งานเพิ่มเติมอีก 5 ราย

สำหรับแนวโน้มพฤติกรรมการเทรดหุ้นทางอินเทอร์เน็ตปี 2559 ยังคงมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยสิ้นปี 2558 มีปริมาณการซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตรวม 8,153,950.90 บาท โดยคิดเป็น "ออนไลน์เทรดดิ้ง" (Online Trading) 40.2% เทรดหุ้นปกติ 59.8 % คิดเป็นเพิ่มขึ้น 11.5% จากปีก่อนหน้า ขณะที่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีมูลค่าการเทรดผ่านระบบอินเทอร์เน็ต รวมแล้วทั้งสิ้น 604,811.39 ล้านบาท

"efin มีผลิตภัณฑ์ภายใต้การบริหารทั้งหมดประกอบด้วย 1.efin Trade Plus 2. efin Stock Pick Up 3.efin Mobile 4.efin school และ 5.สำนักข่าว efinanceThai ครอบคลุมทุกเรื่องการลงทุนเพื่อเป้าหมายที่สำคัญคือการติดอาวุธด้านการลงทุนให้กับผู้ลงทุนในทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนหน้าใหม่หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์ด้านการลงทุน เพื่อให้การลงทุนเป็นเรื่องง่ายด้วยผลิตภัณฑ์ของ efin ซึ่งการพัฒนา

ด้านซอฟท์แวร์ระบบอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเป้าหมายหลักของ efin เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการเทคโนโลยีป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน Auto Trade สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง จากการใช้เวลาพัฒนากว่า 2 ปี ด้วยนักพัฒนาชาวไทยกว่า 40 ชีวิต เพื่อพัฒนาระบบให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด จนเป็นระบบซื้อขายอัตโนมัติที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนจำนวนมากที่ซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยระบบ Auto Trade ผ่านโบรกเกอร์ 4 แห่ง และคาดว่าจะมีเพิ่มอีกในอนาคต" นายพรเลิศกล่าว

ด้านนายวุฒิพงษ์ เชิดธนากร ผู้อำนวยการสายงานพัฒนาระบบเทรด (efin Trade Plus) บริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด กล่าวว่า ฟังก์ชั่น Auto Trade ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีคุณสมบัติรองรับการตั้งเงื่อนไขในการส่งคำส่งซื้อขายอัตโนมัติซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชั่นหลักต่าง ๆ ได้แก่ Simple Auto Trade (การตั้งเงื่อนไขแบบง่าย), Take profit/ Trailing Stop Loss/ Cut Loss (ใช้สำหรับการตั้งขายเท่านั้น), Money Management (การบริหารเงินในการลงทุน), DCA: Dollar Cost Average (การกำหนดการลงทุนแบบเป็นงวดๆ) และPZ: Pricing Zone (การซื้อหุ้นแบบไล่ราคาตามงบที่กำหนดไว้) รวมถึง Batch order (ฟังก์ชั่นส่งคำสั่งเป็นชุด ชุดละ 50 คำสั่ง แบบ Basket Order และ Notification on Mobile) และระบบส่งข้อความ/ Alert ผ่านมือถือ Android, iPhone/ iPad ซึ่งช่วยสนับสนุนการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนหรือกลุ่มคนวัยทำงานที่มีความชำนาญในการเล่นหุ้นให้สามารถซื้อ-ขายหุ้นโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการใช้โปรแกรมซื้อ -ขายอัตโนมัติ โดยมีฟังก์ชั่นเงื่อนไขที่นักลงทุนกำหนดได้เอง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการระบบส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ หรือ Auto Trade (ออโต้ เทรด) รายเดียวในประเทศไทย แต่หลังจากนี้บริษัทฯ เชื่อว่าจะมีผู้ประกอบการต่างๆ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการลงทุนตื่นตัวและให้ความสนใจพัฒนาระบบคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่นักลงทุนกำหนด (Auto Trade) เพิ่มเติมอีกหลายแห่ง

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 มีจำนวนผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น "efin Trade Plus" (อีฟิน เทรด พลัส) มีผู้ใช้งานจำนวน 15 หลักทรัพย์ มีผู้เข้าใช้งานทั้งสิ้น 55,023 ราย โดยประมาณการในปี 2559 มีจำนวนผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น "efin Trade Plus" (อีฟิน เทรด พลัส) เพิ่มเป็น 17 หลักทรัพย์ และในปี 2560 จะเพิ่มเป็น 20 หลักทรัพย์ จากปัจจุบันมีผู้ใช้งานจำนวน 15 หลักทรัพย์

HTML::image(
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit